5. ปักรักลงใจ

1373 Words
หลายชั่วโมงผ่านไป เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเกือบรุ่งเช้า แต่หญิงสาวยังคงนั่งรอที่หน้าประตูห้องผ่าตัด เธอข่มให้ใจเย็นลงไม่ได้ น้ำตายังคงไหลเป็นพักๆ แอร๊ด!! เสียงประตูเปิดออก ก็เห็นพยาบาลสาวเดินออกมาก่อน พลอยรีบลุกขึ้น "พ่อเป็นยังไงบ้างคะ" "เดี๋ยวรอคุณหมอออกมาชี้แจงนะคะ" พยาบาลสาวเข็นรถเครื่องมือหนี เธอนั่งลงรออย่างมีความหวัง "ต้องรอพักฟื้นก่อน ดูอาการของพ่อคุณยังทรงตัว ตอนนี้ต้องแยกไปที่ห้องปลอดเชื้อ ต้องงดเยี่ยมก่อนนะครับ" หญิงสาวรีบลุกขึ้นฟัง สายตาเข้มมองออกว่าเธอคงยังไม่ได้นอนมาทั้งคืน "ต้องไปทำงานต่อไหมครับ" หมอหนุ่มเลิกคิ้วถาม "ไม่ค่ะ ฉันจะนั่งรอพ่อตรงนี้" "งั้นตามผมมา" หญิงสาวไม่เอะใจ แล้วเดินตามไปห้องตรวจ นายแพทย์การันต์!! ป้ายขนาดใหญ่ติดอยู่หน้าห้องบ่งบอกถึงสถานะเขา "พาฉันมาทำไม" "คุณเข้ามานอนพักในนี้นะ มีมุมนอนพักอยู่ " "ทำไมฉันต้องฟังนาย" "ถ้าขืนคุณยังนั่งเฝ้าอยู่ คุณนั่นแหละจะแย่ก่อน ส่วนพ่อคุณถ้าฟื้นแล้ว ผมต้องไปตรวจก่อนอยู่ดี ถึงจะมาตามคุณเข้าไปเยี่ยมท่านนะครับ" หน้าตาหญิงสาวยังคงลงเล "ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ไม่มีใครเข้ามาได้ นอกจากพยาบาลที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องแค่นั้น" เธอเดินเข้าไปในมุมห้องที่เป็นเตียงเล็ก หญิงสาวล้มตัวนอนพักสายตา ไปๆ มาๆ ก็หลับสนิท หมอการันต์ที่แอบมานั่งทำงาน เพราะกลัวเธอจะนอนไม่หลับถ้ามีคนอยู่ ก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจใครบางคนเป็นระยะ "คุณหมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ" "ครับผมจะรีบไปตรวจเดี๋ยวนี้" พลอยไพลินหลับอยู่ก็สะดุ้งตื่นรีบลุกออกมา พยาบาลสาวที่เห็นเข้าหันหน้าหนีทันที เธอมั่นใจว่าคือคนที่อยู่ในข่าวแน่นอน "ขอฉันตามไปด้วยได้ไหม" พลอยอ้อนวอนหมอ "ครับ" ทั้งหมดรีบเดินไป จัดแจงสวมเสื้อคลุม เปลี่ยนรองเท้าเข้าห้องไปทันที "ขออนุญาตตรวจนะครับ คนไข้มีอาการอะไรไหมครับ" ลูกสาวรีบเอื้อมไปจับมือพ่อทันที ผู้เป็นพ่อยิ้มตอบรับกลับมา "เอาเป็นว่านอนพักผ่อนอีกหน่อยนะครับ ถ้ามีอาการรีบเรียกพยาบาลเลยนะครับ ส่วนคุณอยู่ในนี้นานไม่ได้นะ เพราะปกติต้องไปรอเยี่ยมที่ห้องพักฟื้น" "ค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบตามออกไป" เธอพยักหน้าตอบ "พ่อคะพลอยขอโทษนะคะที่เป็นสาเหตุให้พ่อเป็นแบบนี้" หญิงสาวปล่อยโฮออกมา กอดพ่อไว้แน่น "พลอยลูกก็อย่าโกรธพ่อเลยนะพ่อมีเหตุผล" "ค่ะพ่อ" เพียงไม่นานเธอก็ออกมา ลงมาข้างตึกเตรียมที่จะกลับไปทำงาน "คุณ" เจอหมอหนุ่มที่เดินสวนมาพอดี "ผมเอากาแฟกับเค้กมา เผื่อจะช่วยคุณได้" มือหนายื่นแก้วกาแฟให้เธอถือ "ขอบใจ แต่ไม่ต้องมาทำดีเพียงเพราะข่าวที่พ่อบอกไปหรอกนะ" ดวงตาเข้มเลิกคิ้วถาม "ผมไม่ได้ทำเพราะหวังว่าหนี้จะลดลงหรอกนะครับ เพียงแต่ทำเพราะมีมนุษย์สัมพันธ์เท่านั้น" "ค่ะ" เธอตอบกลับก่อนจะขับรถหรูออกไป แต่ยังไม่ลืมจิบกาแฟตลอดทาง "อะไรของเขา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย" เขาส่ายหน้าแล้วไปทำงานต่อ บ้านหมอการันต์ "เจ้าการันต์ แม่เห็นในข่าวแล้วนะ ทำไมไม่บอกแม่เลย" ผู้เป็นแม่ซักถามเมื่อเห็นลูกชายลงจากรถ "เอ่อ วันนั้นผมไปช่วยเธอจากที่ผับพอดีครับ แล้วคุณมนตรีเจ้าหนี้ของครอบครัว เขาพูดไปแบบนั้นเพื่อไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียหาย " "งั้นเรื่องที่จะมีข่าวดี นี่คือยังไง แล้วไปคบหากันแล้วหรอ" "ผมก็ไม่รู้ครับ ไว้รอคุณพ่อเขาออกจากโรงพยาบาลค่อยคุยต่อ" หมอหนุ่มเดินกลุ้มคิดเข้าไปในบ้าน เพราะเขาก็สับสนไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น รู้เพียงแค่วันนั้นพ่อของเธอโทรมาว่า >รบกวนหมอไปเป็นพยานในงานแถลงข่าวเท่านั้น อีกด้านนึง "อาน้อยมาเฝ้าพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" หญิงสาวเปิดประตูมาเยี่ยมพ่อเวลาค่ำเหมือนเดิม ซึ่งนอนหลับไปแล้ว "ตั้งแต่เช้าแล้วลูก ดูพ่ออาการดีขึ้นแล้วนะอาว่า" "ค่ะ อยากให้กลับไปพักที่บ้านแล้วนะคะ" เธอนั่งลงข้างหญิงวัยกลางคนที่ช่วยดูแลเธอตั้งแต่ตอนเด็กๆ อย่างสนิทสนม "พลอยลูก หนูรู้ใช่ไหมว่าพ่อเป็นห่วงหนูมาก" "ค่ะ เรื่องพวกนี้เกิดจากพลอยเอง" เธอตอบอย่างกุกะ "แล้วหนูจะเอายังไงต่อ" "คงต้องทำตามที่พ่อพูดไว้ อาไม่ต้องห่วงนะคะ อะไรที่พ่อมีความสุขหนูจะทำค่ะ" อาน้อยเอื้อมมาโอบกอดเธออย่างเอ็นดู แล้วลูบหัวเบาๆ "ยังไงซะ หนูยังมีอาที่พร้อมจะช่วยหนูเสมอนะ" วันต่อมา "วันนี้คุณลุงกลับบ้านได้นะครับ ถ้ามีอาการอะไรรีบมาหาหมอเลยนะครับ" หมอหนุ่มตรวจร่างกายคนไข้อย่างละเอียด "หมอเดี๋ยวก่อนสิ.. ถ้ายังไงวันนี้รบกวนหมอ เชิญคุณแม่ไปที่บ้านผมหน่อย ผมพูดไปวันนั้นน่าจะทำให้แม่หมอตกใจไม่น้อย" คนในห้องต่างมองหน้ากัน พลอยจับมืออาน้อยอย่างตกใจ "ไว้วันหลังไหมคะคุณพี่ วันนี้น่าจะกลับไปพักอีกซักหน่อย" อาน้อยพูดขึ้น "ไม่เป็นไรน้อย พี่ว่าควรจะให้เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วที่สุด ไม่งั้นยัยพลอยนั่นแหละจะเสียหาย" ทุกคนทราบดีว่าเรื่องอะไร เธอไม่เพียงไม่สบตามองหน้าเขา แต่ยังเดินออกไปรอข้างนอก ไม่นานชายหนุ่มก็ตามออกมา วันต่อมา "สวัสดีครับคุณสีนวล เชิญนั่งก่อนนะครับ" หญิงวัยกลางคนนั่งลงที่โซฟา ในห้องโถงใหญ่ที่เตรียมไว้รองเฉพาะ มีอาน้อยที่นั่งข้างพลอยไพริน "ค่ะคุณมนตรี ดิฉันเกรงใจจังเลยที่มาตอนนี้" "เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย นี่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่บวรเสีย ยังสบายดีอยู่นะครับ" "ค่ะสบายดี" เธอยิ้มอย่างเกรงใจ "เข้าเรื่องเลยนะครับ อย่างที่ผมพูดไปตอนแถลงข่าว ว่าอยากให้เด็กทั้งสองคนมีข่าวดีกัน ต้องขอโทษคุณสีนวลที่ไม่ขออนุญาตก่อนนะครับ" "ไม่เป็นไรเลยค่ะ เอาตามที่คุณมนตรีเห็นสมควร เพราะยังไงคุณบวรกับคุณเคยคุยกันไว้ ตอนที่เด็กยังเล็กกันอยู่" "งั้นขอให้หมอมาเป็นลูกเขยผมนะครับ ส่วนเรื่องสินสอดแล้วแต่ทางหมอจะว่ายังไง ซึ่งผมขอแค่ดูแลยัยพลอยให้ดีก็พอ" "ไม่ค่ะพ่อ เขาเป็นหนี้ครอบครัวเราอยู่นะคะ" "คุณต่างหากที่กำลังบังคับผม โดยที่ยังไม่ถามความเห็นสักนิด" "นายหาว่าฉันอยากแต่งกับนายนะหรอ" "ใจเย็นๆ ยัยพลอย ต้องขอโทษหมอด้วยนะที่ทำเหมือนบีบบังคับ แต่ดูแล้วน่าจะมีเพียงหมอที่ดูแลยัยพลอยแทนผมได้ดี" "ผมต้องขอบคุณ คุณมนตรีที่มองเห็นว่าผมเป็นคนดีนะครับ แต่เราสองไม่ได้เริ่มต้นจากความรักกันเลยนะครับ ไม่ช้าหรือเร็วอาจจะอยู่กันไม่รอด" "อยู่ๆ ไปก็รักกันเองน่ะเจ้าการันต์" ผู้เป็นแม่เอื้อมไปจับมือลูกชาย "นายคิดคนเดียวที่ไหน ใช่ว่าฉันอยากจะอยู่พิศวาสกับนาย" "พลอยลูก ถ้าพ่อว่าเห็นสมควรก็ไม่ควรขัดนะ เรื่องเรามันไม่ใช่เรื่องเล็กไปแล้วนะ" อาน้อยพูดขึ้น "ค่ะ แต่งก็แต่ง แต่คนละส่วนกับเรื่องหนี้นะคะ สินสอดก็คือสมบัติทั้งหมดที่หมอมีค่ะ พลอยถึงจะยอมแต่งนะคะ คุณหมอจะว่ายังไงคะ" "คุณนี่เขี้ยวหนี้สุดยอดๆ จริง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD