ณ บ้านพลอยไพลิน
เมื่อรถจอดที่บ้านพลอยไพลิน พิพัฒน์รีบลงมาเปิดประตูรถดูแลเธอดุจเจ้าหญิงตลอดเวลา
"ขอบใจมากนะพัฒน์"
"ดูแลตัวเองดีๆนะพลอย ไว้เราจะรีบมาหาอีก"
"โอเค" เธอยืนโบกมือลา เพื่อนสนิทที่ขับรถออกไป
"คุณหนูขา วันนี้คุณหมอมาตรวจอาการคุณผู้ชายอยู่ที่ห้องค่ะ" ตากลมโตเบิกตากว้างขึ้น ตอนได้ยินถ้อยคำคนรับใช้บอก
"ยังไม่ถึงวันนัดนี่คะป้านิ่ม"
"คุณผู้ชายมีอาการอ่อนเพลียเหงื่อออกผิดปกติ คุณน้อยจึงโทรไปหาหมอการันต์มาดูค่ะ" คุณน้อยคือน้องสาวพ่อของเธอ ซึ่งคืออาแท้ๆนั่นเอง หญิงสาวรีบเดินเข้าบ้านไปอย่าใจร้อน แต่หมอคู่ปรับดันเดินออกมาเสียก่อน
"ชู่ว ชู่ว " เขายกนิ้วชี้เป่าปาก เชิงบอกให้เงียบ
"ตอนนี้พ่อคุณกำลังหลับเพิ่งทานยาไป"
"งั้นตามฉันมาทางนี้" หมอหนุ่มเดินตามเธอไปที่สวนนั่งเล่นบริเวณบ้าน ลมยามเย็นกำลังพัดสบายอยู่พอดี
"ทำไมพ่อฉันถึงมีอาการขึ้นมา"
"ผมว่าเอาอย่างนี้นะ จะมาตรวจร่างกายท่านให้ทุกอาทิตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดให้เร็วที่สุด"
"ถ้าฉันจะย้ายไปรักษาที่เมืองนอกละ จะมีทางไหนบ้าง"
"คุณฟังนะ ตอนนี้โรคที่พ่อคุณเป็น ไม่ควรให้อยู่ไกลหมอเดินทางไปนู้นไปนี่ ความรู้สึกความคิดต่างๆย่อมมีผล อาการแบบนี้ผมรักษาได้เชื่อผมสิ" กลับเป็นเธอจ้องเขาไม่ละสายตา
"ถ้าชีวิตพ่อฉันขึ้นอยู่กับการรักษาของนาย เกิดอะไรผิดพลาด ฉันเอานายตายแน่"
"ครับ ผมรับผิดชอบพูดตัวเองเสมอ งั้นกลับก่อนนะครับ คนไข้ที่รอตรวจยังมีอีกเยอะ"
@ บ้านหมอการันต์
"ห๊ะ..อะไรนะครับ" หมอหนุ่มตาโตขึ้น เมื่อจู่ๆแม่ของเขาก็พูดตอนทานมื้อค่ำกัน
"เจ้าหนี้ก็คือเพื่อนสนิทของพ่อเขา มันเนิ่นนานจนแม่ลืมไปหมดแล้ว จนมีทนายเอาเอกสารที่มีบ้านเราไปค้ำประกันไว้มาให้ดู ว่าเกินเวลาชำระหนี้ก้อนนี้มานานแล้ว"
"ตั้งสิบล้านไม่ใช่เงินน้อยๆ เอางี้นะครับผมจะเป็นคนไปเจรจาเอง อย่างน้อยอาจจะต่อรองของผ่อนชำระได้บ้าง" ลูกชายที่เห็นแม่เครียดไม่ยอมตักข้าวทาน จึงเอื้อมมือไปกุม
"แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมรู้ว่าบ้านนี้มันสำคัญกับเราขนาดไหน ยังไงซะถ้าผมขยันทำงานเพิ่มขึ้น ต้องใช้จนหมดได้อยู่แล้ว"
"แต่แม่สงสารการันต์ที่ต้องเป็นเรามารับภาระ"
"ดีซะอีกสิครับ มันทำให้ผมรู้ว่ากว่าบ้านเราจะมีขนาดนี้พ่อกับแม่เหนื่อยขนาดไหน ไม่ต้องห่วงนะครับ" ลูกชายยังคงตักกับข้าวของโปรดให้แม่ แม้ในใจเขาเริ่มคิดมากก็ตาม
วันต่อมา_
"คุณพลอยคะ ลูกหนี้ของครอบครัวปัญญชัย มารอพบที่ห้องรับรองชั้นล่างแล้วค่ะ"
"งั้นคุณเปรม เอาข้อตกลงนี้ถือตามลงไปด้วยนะ" หญิงสาวรีบลุกออกจากห้องทำงานลงไปที่ชั้นรับรองตามเจ้านายสั่ง
ก็อก ก็อก
"สวัสดีค่ะ ดิฉันพลอยไพลินตัวแทนของสินจกุลนะคะ" หญิงสาวทักทายอย่างมั่นใจ แต่ลูกหนี้ของเธอยังคงนั่งอ่านเอกสาร ไม่เงยหน้าขึ้นมาทักทาย
"อ่านรายละเอียดที่ทนายส่งให้มีตรงไหนไม่เข้าใจไหมคะ"
"มีครับ" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นก็ตกใจ
"นาย!"
"คุณ!"
"อย่าบอกนะว่าที่แท้ลูกหนี้ของฉันก็คือนายหรอ" หญิงสาวยิ้มเยาะเย้ย หมอหนุ่มที่ไม่ยอมรับเงิน เร่งการผ่าตัดหัวใจให้พ่อกับกลายมาเป็นลูกหนี้ซะงั้น โลกช่างกลมดลบันดาลตามความต้องการเธอเสียจริง
"ครับ ผมยอมรับหนี้ที่ครอบครัวผมสร้างไว้ แต่วันนี้ผมจะมาเสนอขอผ่อนชำระหนี้" ชายหนุ่มลุกขึ้นอธิบายอย่างตั้งใจจริง
"สิบล้าน! เงินเดือนหมอธรรมดาคนนึงจะมาใช้หมดเมื่อไหร่กัน ยอมยกบ้านหลังนี้ซะ แล้วฉันจะเซ็นต์จบเรื่องหนี้ให้ "
"ไม่ครับ ผมขอเวลาภายในสี่ปีเท่านั้น" หญิงสาวเลิกตาขึ้น
"จะมายืดยื้อเวลาทำไม ในเมื่อที่ผ่านมาครอบครัวนายเป็นหนี้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยชดใช้แม้แต่บาทเดียว"
"ผมพึ่งทราบเรื่องหนี้นี้เมื่อวานเอง ถึงแม้พ่อผมจะเป็นคนกู้มา แต่ผมในฐานะลูกยินยอมชดใช้ทุกบาท ขอแค่สี่ปีเท่านั้นนะครับ" หญิงยังคงลังเล เธอเป็นถึงนักธุรกิจย่อมคิดทบทวนไม่ให้เสียเปรียบ
"ฉันให้ได้แค่สองปีเท่านั้น ถ้าตกลงก็เซ็นต์สัญญาเลย" เธอยื่นคำขาด ถึงแม้จะดูเป็นเจ้าหนี้โหดร้ายแต่เพื่อผลประโยชน์ของพ่อ จะยอมปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาด
"ตกลงก็ตกลงครับ" มือหนาเซ็นสัญญา โดยไม่คัดค้านแค่ขอเวลา เขาต้องทำได้แน่นอน
"ยังไงซะลูกหนี้อย่างนายก็ต้องอยู่ในกำมือฉันอยู่ดี"
"คนนะครับไม่ใช่ลูกไก่ ที่ต้องกลัวเสมอไป" เขาเอื้อมมากระซิบข้างหูเธอ ก่อนจะยิ้มอ่อนจากไป
"คอยดูนะนายนั่นแหละที่ต้องกลัวฉัน"
@ อีกด้านนึง
"คุณหมอจะตีสองแล้วนะคะ ไปงีบในห้องพักสักหน่อยไหมคะ" นิดหน่อยพยาบาลสาวแอบห่วงใย เมื่อเห็นว่าวันนี้หมอยังไม่ได้พักเลย
"เดี๋ยวผมเตรียมแผนการสอนนักศึกษาแพทย์สักหน่อยครับ" มือหนาหยิบกาแฟขึ้นมาจิบ ก่อนก้มหน้าเขียนเอกสารต่อไป หญิงสาวจึงนั่งลงในเคาน์เตอร์หางานทำไปเรื่อย เพื่อที่จะแอบมองอยู่อย่างนี้