“รถมายยางแตกอยู่ห่างจากสวนคุณเนย์สักกิโลค่ะ อัญจะไปขอคุณเนย์ให้ส่งคนไปช่วยก่อนนะคะ”
“ผมช่วยก็ได้ครับอย่าไปกวนคุณเนย์เลย ป่านนี้คงจะเข้านอนแล้วล่ะครับ”
แม้อยากจะบอกว่า ‘ป่านนี้คงปู้ยี่ปู้ยำน้องสาวเขาแล้วล่ะ’ แทบแย่ แต่เขาก็ไม่อาจจะเอ่ยออกมาได้
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณชายจนเกินไป อัญก็ยินดีค่ะ”
เพราะรู้ดีไม่ต่างกับเขานัก ว่าป่านนี้ชายคนที่ตัวเองปักใจรักคงจะกำลังมีความสุขอยู่กับสาวสูงศักดิ์ไปแล้วเป็นแน่
“งั้นคุณอัญขับนำผมเลยนะครับ”
“รอนานหรือเปล่ามาย!”
อัญรวีร้องถามด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่จอดรถชิดไหล่ทางไว้แล้วก็รีบวิ่งลงหาพี่ทันที ส่วนรถของกันต์กวีก็ขับเลยไป แล้วม้วนกลับมาจอดหน้ารถไอรินทร์เพื่อให้ไฟส่องอย่างรู้งาน ด้วยเพราะชายชาติทหารหาญอย่างเขา ชาชินกับการได้ช่วยผู้คนในเรื่องแบบนี้บ่อยครั้งอยู่เช่นกัน
“พักใหญ่ๆ แล้วล่ะ”
“ขอโทษนะ อัญก็รีบที่สุดแล้ว”
น้องสาวบอกด้วยสีหน้าสำนึกผิด ซึ่งอีกฝ่ายมีหรือจะโกรธลง จึงรีบบอกปัดออกไปเหมือนไม่คิดอะไรมากกับเรื่องแค่นี้ แค่อีกฝ่ายมาเธอก็ดีใจมากแล้วต่างหาก
“ไม่เป็นไร ก็สวนภูสอยดาวออกกว้าง กว่าจะมาถึงก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน”
เธอบอกกับน้องสาวที่อายุห่างกันไม่มาก อย่างเข้าใจถึงเหตุผล และสรรพนามที่พวกเธอใช้ก็เหมือนเพื่อนกันเสียมากกว่าจะเป็นพี่เป็นน้อง แต่กระนั้นอัญรรีว่าที่อาจารย์คนสวยก็ให้ความเกรงใจเธอตลอดเวลา แม้ว่าจะใช้คำพูดห้วนๆ แบบนี้ต่อกันก็ตาม
“แล้วนั่นพาใครมาช่วยเหรอ อย่าบอกนะว่าเป็นคุณชายน่ะ”
คุณแม่ยังสาวเลื่อนสายตาคู่สวยมาทางร่างสูงตระหง่าน ของนาวาอากาศตรี หม่อมราชวงศ์กันต์กวี รัตนนาวี ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแถมยังมีใจที่กำลังออกจากรถแล้วตรงมาหาสองพี่น้อง
“คุณเนย์เข้านอนแล้ว เลยไม่อยากกวนน่ะ คุณชายเลยอาสามาช่วยแทน”
ไอรินทร์มองไปหาหนุ่มสูงศักดิ์ด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ และด้วยสายตาที่แสดงถึงความขอบคุณอย่างจริงใจ ซึ่งไม่ต่างจากคำพูดของตัวเองที่กำลังจะพูดออกไป
“ขอบคุณคุณชายมากนะคะ ที่อุตส่าห์เสียสละเวลามาช่วยด้วยตัวเอง”
เธอเองก็คาดคิดเสียที่ไหนว่าคนมีฐานะสูงส่งที่ใครต่อใครมักเรียกเขาว่าคุณชายฟ่างจะมาช่วยด้วยตัวเองแบบนี้ แต่พอมาคิดๆ ดูอีกที ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่เขาจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ นั่นเพราะคนที่มากับเขาด้วยก็คือน้องสาวแสนสวยของเธอเอง
“ไม่เป็นไรครับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เป็นหน้าที่ชายชาติทหารอย่างผมต้องดูแลให้ความช่วยเหลืออยู่แล้วครับ อีกอย่างก็ให้ถือว่าผมเป็นตัวแทนคุณเนย์ก็แล้วกันนะครับ พอดีแกเข้านอนไปแล้วผมเลยอาสามาแทน”
กันต์กวีส่งยิ้มน้อยๆ ให้ทั้งสองด้วยสายตาแห่งความเป็นมิตร และชื่นชมในความรักของพี่น้องที่คงจะมีให้กันมาก สังเกตได้จากมือคนน้องเกาะแขนพี่สาวอยู่ไม่ห่าง ขณะมองมาหาเขาด้วยสายตาที่มีความหลายคล้ายคลึงกันนั่นคือหยิบยื่นไมตรีให้มิตรคนใหม่เช่นเขา
“เห็นมั้ยมาย บอกแล้วว่าคุณชายเต็มใจมาจริงๆ”
“แล้วล้อไหนแตกครับ มียางอะไหล่เปลี่ยนหรือเปล่าครับ”
“ล้อหลังค่ะ ยางอะไหล่อยู่กระโปรงหลัง เดี๋ยวฉันเปิดให้ค่ะ
“แล้วน้องกายกับป้านาล่ะมาย” คนน้องที่เดินตามพี่ไปยังรถ
“หลับอยู่กับตักป้านา เลยให้รออยู่ในรถ ยุงเยอะด้วย”
กันต์กวีได้ยินเช่นนั้นเลยรีบเดินไปเปิดท้ายรถตัวเอง เอาชะแลงออกมาแล้วจัดการเปลี่ยนยางให้อย่างคล่องงาน โดยมีสองสาวยืนเป็นกำลังใจอยู่ไม่ห่าง จ้องมองชายชาติทหารร่างกายกำยำแข็งแรงที่กำลังก้มหมอบไปกับพื้นเพื่อหาที่ตั้งชะแลง อย่างไม่เกรงกลัวว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่จะเปรอะเปื้อนยังไง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่หนุ่มสูงศักดิ์เจ้าของผลงานไม่ใคร่จะเรียบร้อยสักเท่าไหร่ เพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีครีม รวมทั้งมือไม้ก็เต็มไปด้วยคราบสกปรก
“เรียบร้อยแล้วครับ”
สองพี่น้องหันไปมองหนุ่มตรงหน้า แล้วพากันอมยิ้มน้อยๆ จนเขาสงสัย ไอรินทร์เลยเป็นฝ่ายเอ่ย “ขอบคุณมากเลยค่ะดูสิคะ เสื้อผ้ากับมือไม้เปื้อนหมดเลย ในรถไม่มีน้ำด้วยค่ะ”
“ถ้าคุณชายไม่รังเกียจจะไปล้างที่ไร่เรามั้ยคะ ขับรถไม่นานหรอกค่ะ จะได้ลองชิมกาแฟของเราด้วยไงคะ จริงมั้ยมาย”
น้องสาวรีบเอ่ยชวน แม้ระยะทางระหว่างไปไร่ตัวเองกับกลับสวนของสิงหรัฐจะไกลกว่า แต่ก็พอจะเดาออกว่าหนุ่มสูงศักดิ์ไม่ได้อยากจะอยู่ใน ‘บ้านวิมานสอยดาว’ นัก
“จริงด้วยค่ะคุณชาย ถือเป็นการขอบคุณในน้ำใจคุณชายค่ะ”
ไอรินทร์เห็นน้องมีท่าทีอยากเชิญชวนหนุ่มตรงหน้าอย่างจริงจังเลยรีบสมทบ เพราะอยากขอบคุณเขาจริงๆ อีกทั้งอยากดูให้แน่ชัด ว่าแนวโน้มในใจเขาที่มีต่อน้องสาวตัวเล็กเป็นยังไง แม้จะสังเกตเห็นได้บ้างจากแววตาเขาตอนนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกันแล้ว แต่ถ้าได้รู้จักหรือพูดคุยด้วยอีกสักนิดก็คงจะดีไม่น้อย
“เอ่อ! ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็ด้วยความยินดีครับ”
คงจะดีไม่น้อย ถ้ากลับไปแล้วคนในบ้านเข้านอนกันหมด ด้วยไม่ประสงค์จะเจอหน้าใครนอกจากน้องสาวเท่านั้น อีกทั้งยังอยากยืดเวลาที่จะได้อยู่กับหญิงสาวที่ดูเหมือนจะมีอิทธิพลต่อจิตใจเขาแม้เพียงแค่แรกเห็นเท่านั้น เขาเลยตอบรับด้วยความเต็มใจ