ตอนที่ 4
 นิวไรรี่ย์

2530 Words
ไรรี่ย์คนใหม่ ใช้เวลาหลังรับประทานอาหารไปกับการเลือกเสื้อผ้าใหม่แบบ ‘เหนื่อยอ่อน’ เพราะเวลาหนังท้องตึงหนังตาต้องหย่อนอยู่แล้ว ต่อให้ไรรี่ย์คนเก่าจะเป็นคนมีเซ้นส์เรื่องแฟชั่นอย่างไร แต่แก้วเจ้าจอมขอแบบใส่สบายก็เพียงพอแล้ว แม้จะรู้สึกผิดกับญาติฝั่งแม่อย่างไรอันก็เถอะ แต่สุดท้าย ชุดใหม่ทั้งหมดกลับมาอยู่ในห้องแต่งตัวอยู่ดี ไม่รู้ว่าจะให้เธอไปเลือกเพื่ออะไร แต่หลังจากนั้น เหมือนสวรรค์ของอดีตพนักงานออฟฟิศที่ทำงานล่วงเวลาเพื่อเอาค่าโอทีในทุก ๆ วันเป็นที่สุด เพราะไรรี่ย์ได้นอนกลิ้งตัวอยู่บนเตียงกว้าง โดยไม่ต้องคิดว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรก่อน หรือเงินเหลือกี่บาทแล้ว เห็นหรือเปล่า แค่นี้ก็สุขจนล้นออกมาจากทางปากเรียบร้อย แต่พอกลิ้งไปกลิ้งมาเลยเกิดอาการเบื่อ จึงเริ่มสำรวจ ณ ที่แห่งนี้อย่างจริงจัง แม้โดยรอบอาจจะคล้ายประเทศที่จากมาก แต่โดยรวมแล้วกลับเหมือนกันอย่างน่าประหลาด ทั้งเวลา และการขึ้นและตกของพระอาทิตย์ อาจจะเช้าช้ากว่าเล็กน้อยเท่านั้น ที่นี่ไม่มีทวีป แต่เรียกว่าเป็นอาณาจักร แบ่งออกเป็นสามอาณาจักรใหญ่ ๆ คือ หนึ่ง อาณาจักรทางตอนเหนือ มีขนาดเล็กที่สุด แต่ได้ชื่อว่าหนาวเย็นมากที่สุดเช่นกัน ชื่อว่า ‘กลาเซียส อุดมไปด้วยแหล่งพลังงาน และแร่หายาก ซึ่งมีหลายอย่างที่ได้รับความนิยมแต่เธอกลับไม่รู้จัก เช่น เพชรที่ว่าหายากมาก แต่ที่นี่กลับมีเกลื่อนเชียว เรียกว่า ‘ดิอาร์’ สอง อาณาจักรศูนย์กลางของทั้งโลก เป็นสถานที่ที่เจริญ และใหญ่ที่สุดด้วยเช่นกัน คือ ‘วัลดิส’ และยังเป็นอาณาจักรที่ตระกูลใหญ่ ๆ อาศัยอยู่อย่างพร้อมหน้า รวมไปถึง แรนเดอร์โค และโดโนแวนด้วย เป็นอาณาจักรที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจชั้นนำ โรงกลั่น และการค้าแบบ บีทูบี (B2B หรือ Business to Business) แต่มักกระจุกอยู่ตรงที่เขตหนึ่งถึงเขตสิบมากกว่า รอบด้านมักจะเป็นการค้าขนาดเล็กเสียมากกว่า อ่อ! แล้วที่นี่ไม่มีจังหวัด หรือประเทศ แต่แบ่งเป็นเขต ๆ ของแต่ละอาณาจักร แต่บางครั้งก็จะเรียกเขตนั้น ๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือบุคคลตามประวัติศาสตร์ ซึ่งเรื่องนี้ ไรรี่ย์ยังคงต้องศึกษาอยู่มาก เพราะเหมือนไรรี่ย์คนเก่า ไปอยู่ไม่กี่ที่เอง “โลกแคบชะมัดเลยเธอเนี่ย!” สุดท้าย คือ เพลากัส ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด โอบล้อมไปด้วยทะเล เป็นสถานที่ที่ฝนตกบ่อย มีตลาดซื้อขายวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเป็นรายได้หลักของอาณาจักร และฝั่งตะวันตก ยังเป็นสถานที่ค้นพบเหมืองแร่อยู่เสมอ ด้วยมีเทือกเขามากมาย ทำให้ไม่ค่อยมีคนไปอาศัยอยู่มากนัก เรียกว่าเป็นแหล่งทรัพยากรของโลกเลยก็ว่าได้ และที่น่าตกใจ คือการปกครอง จะผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปกครองแต่ละอาณาจักรทุก ๆ ยี่สิบปี หากทำงานดี มีความเจริญมากขึ้น ประชาชนไม่อดอยาก ก็จะสามารถครองอำนาจตลอดจนกว่าจะหมดวาระ ซึ่งแต่ในแต่ละปีจะมีการประชุมเรื่องความก้าวหน้าของโครงการที่คาดการณ์เอาไว้ตลอด และมีการประเมินจากทั้งของประชาชน และอาณาจักรทั้งสอง ช่างเป็นเรื่องที่สามัคคีจนคนที่มาจากประเทศที่การเมืองไม่นิ่งต้องตกใจ “สุดยอดเลยแฮะ อยากให้ประเทศเรามาดูงานบ้างจัง” และอีกไม่นาน จะมีการผลัดเปลี่ยนการปกครองแล้ว ทำให้ทุกตระกูลในรายชื่อทั้งแปด ส่งคนดี มากฝีมือออกหน้าสื่อบ่อย ๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักกับประชาชน ไร้ซึ่งสงคราม ไร้ซึ่งความอดอยาก ช่างเป็นโลกในอุดมคติจริง ๆ หญิงสาววางแท็บเล็ตลงหลังจากอ่านประวัติทุกอย่างที่คนทั่วไปของที่โลกใบนี้ต้องรู้ แม้จะเสียดายอยู่บ้างที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในยุคเก่า ๆ ที่ต้องใส่กระโปรงสวย ๆ แต่ตัวเหมือนดอกไม้เดินไปมาได้ แต่พอมาคิดดู แบบนี้อาจจะดีกว่า “ดีจังเลยนะ ไม่มีสงครามด้วย ดีกว่าโลกเดิมที่ฉันอยู่ตั้งเยอะ” วันอันแสนยาวนานเหมือนดั่งฝันกำลังจะจบลง หญิงสาวเอื้อมไปคว้ารีโมตเพื่อหรี่แสนไฟในห้องนี้อย่างช้า ๆ และมองไปรอบกายอีกครั้ง หากวันใหม่มาถึง เธอกลับไปเป็นยัยชบาแก้วเหมือนเดิม ก็ไม่มีอะไรเสียใจแล้ว ได้ทำในเรื่องที่ไม่มีโอกาส กินของอร่อยเต็มที่ และได้สัมผัสกับคำว่าครอบครัวอีกครั้ง เท่านี้มันก็ดีสำหรับคนธรรมดาอย่างเธอมากแล้วจริง ๆ “ราตรีสวัสดิ์” เช้าวันใหม่ได้กลับมาอีกครั้ง แต่วันนี้เหมือนจะมีความเร่งรีบอยู่มาก เพราะมีนัดหมายสำคัญที่คุณหนูของบ้านแรนเดอร์โคต้องเผชิญ แต่เธอกลับนอนแซ่บเสียจนปลุกอย่างไรก็ไม่ลุกนี่สิ “คุณหนูคะ วันนี้คุณเอเรน่าจะพาคุณอัลดีนมาหาคุณหนูนะคะ ถ้าคุณหนูไม่ตื่นตอนนี้ จะแต่งตัวไม่ทันนะคะ” คาร่าพูดซ้ำเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง พยายามขุดคนขี้เซาลุกออกจากที่นอน “วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องไปทำงานด้วย อยากนอนทั้งวันเลย เมื่อวานเหนื่อยมาก ขอนอนอีกหน่อยเถอะนะ” ออฟฟิศซินโดมมันตามมาหลอกหลอนถึงที่นี่เลยหรือ? แต่เมื่อวานสำหรับคนที่มองอะไรก็น่าตื่นเต้นไปหมดอย่าง ‘นิวไรรี่ย์’ มันอาจจะหนักเกินไปจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น หากคุณหนูไม่ตื่น ทั้งคาร่าและลิลลี่นี่แหละจะเดือดร้อน “แต่ว่า คุณหนูไม่ได้ทำงานนะคะ ทุกวันคือวันหยุดของคุณหนูอยู่แล้ว” คาร่ายิ้มแหย กำผ้าห่มแน่น บางทีการทำให้คุณหนูของตัวเองโมโหเพื่อปลุกให้ตื่น มันอาจจะดีกว่าก็ได้ แต่แม่คุณนายตื่นสายอย่างไรรี่ย์นี่สิ กลับหลับต่ออย่างไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น “โธ่! คุณหนู!” เพราะทำอย่างไรก็ไม่ได้ผล ทั้งเขย่า เรียก หรือพูดอะไรก็แล้วแต่ ไรรี่ย์ก็ยังไม่ตื่น มีเพียงเรื่องเดียวที่ไม่คิดว่าจะได้ผล “สงสัยเราไม่ได้กินเมอแรงค์ของคุณเอเรน่าแน่เลย เสียดายจัง” ตาที่หลับสนิท เปิดพรึ่บทันที! “เมอแรงค์เหรอ?” ไรรี่ย์เด้งตัวขึ้นมาเพราะได้ยินชื่อของกินแบบนี้ ไม่เคยเห็นเลยแฮะ “อยากกินแฮะ พอได้ยินก็หิวเลย” สองสาวรับใช้หันหน้ามองกันเพียงครู่ ก่อนจะถลาตัวเข้าไปหาคุณหนูของตัวเองอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นก็รีบลุก ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะนะคะ วันนี้คุณนายเตรียมชุดและเครื่องประดับเอาไว้ให้แล้ว จะได้ต้องไม่เสียเวลา” “ดีจังเลยนะ” ไรรี่ย์เอื้อมมือมาช้อนคางคาร่าเบา ๆ และเบือนหน้าไปหาลิลลี่อีกฝั่ง “ได้เจอพวกเธออีกครั้งด้วย” “ต้องเจอสิคะ คุณหนูจะไปไหน?” ลิลลี่เอียงคอถาม “นั่นสิคะ?” คาร่าเองก็ด้วย “แต่เอาไว้ก่อน ถ้าอยากจะออกไปข้างนอก ต้องรอพบกับคุณเอเรน่า และคุณอัลดีนก่อนนะคะ” “อ่า~ รู้สึกอยากล้มตัวนอนอีกรอบเลยแฮะ” สุดท้ายมีแต่ต้องทำตามที่สองสาวรับใช้บอก เข้าไปอาบน้ำ และแต่งตัวประหนึ่งกำลังจะไปออกงานสังคมอันหรูหรา ด้วยชุดแบรนด์ดังราคาแพงสีเบจจนไม่กล้านับตัวเลข ยังไม่รวมกับเครื่องประดับที่น้อยแต่มากนี่ด้วย อัลดีนอย่างนั้นหรือ เพราะฝั่งพ่อเป็นถึงเจ้าตระกูลโดโนแวน และมีสายเลือดของราชวงศ์เก่าแก่ไหลเวียนอยู่ เป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์ในการขึ้นเป็นผู้นำของอาณาจักรวัลดิส ในการผลัดเปลี่ยนการปกครองที่จะถึงนี่ด้วย เพราะฉะนั้น อัลดีนแทบไม่ต่างจากเจ้าชายคนหนึ่งเลย แค่ไม่มียศนำหน้าเท่านั้น นี่คงเป็นเหตุผลของอาการงัวเงียไม่ผิดแน่ เธอไม่อยากจะเผชิญหน้ากับชายคนนั้น คนที่ทั้งใจร้าย และปากเสีย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษในสายตาของนิวไรรี่ย์เลยสักนิด เพราะฉะนั้น วันนี้เธอต้องการจะตัดขาดจากเขาโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก ต่างคนต่างอยู่ ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง บ้านของแรนเดอร์โคมักทำให้ใจเต้นเสมอ ทั้งรูปแบบบ้านหลังโตมีความคลาสสิกด้วยเคยเป็นตะกูลขุนนางเก่าแก่นับร้อยปี ขนาดพื้นที่ก็กว้างขวางกินพื้นที่ไปหลายสิบไร่ แต่กลับไร้ซึ่งความรกทึบ หรือสกปรกให้เห็นเลยสักนิด ตัวบ้านเน้นเป็นความโค้งมน ไม่ว่าจะเป็นประตูรั้ว หรือประตูทางเข้าก็เช่นกัน ทำให้มองตรงไหนก็รู้สึกสบายตา ประดับเด่นด้วยรูปปั้นอันอ่อนช้อยของเทพีหลายองค์ และใหญ่ที่สุดคงจะเป็นตัวที่ตั้งเด่นกลางน้ำพุขนาดใหญ่กลางลานหน้าบ้าน เทพีแห่งโชคลาภ ‘ฟอร์ทูน่า’ รายล้อมด้วยดอกไม้สดหลายสี ไม่เคยเห็นสักครั้งว่ามันจะแห้งเหี่ยว บ้านหลังนี้สดชื่นและได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตลอดเวลา แต่กลับเป็นสถานที่ที่อัลดีนไม่ชอบมันเลยสักนิด เพราะคุณหนูของบ้าน คือหญิงน่ารังเกียจ “ลงรถได้แล้ว” เอเรน่าหันไปมองลูกชาย ที่เอาแต่นั่งนิ่ง เพราะยังต้องการต่อต้านการกระทำครั้งนี้ของแม่ตนอย่างถึงที่สุด แต่สุดท้าย เขาก็ยอมลงมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย แม่ไม่ได้จะพาลูกไปฆ่านะ!” อีกครั้งที่คนเป็นแม่เอ็ดเด็กไม่รู้จักโต อัลดีนสะบัดหน้าหนี ถ้าประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ไม่ปิดไปเสียก่อน เขาคงกระโดดไปคว้ากุญแจรถจากคนขับ และขับมันหนีออกไปเสียตอนนี้ “มันต่างกันหรือครับ?” ชายหนุ่มช่างยอกย้อน “ดีน! แม่ให้แกมาขอโทษหนูไรรี่ย์ มันมีแค่นี้ คิดว่าแม่เป็นคนยังไง!?!” และอีกครั้ง ที่เอเรน่าหันไปดุลูกชาย “ผมไม่ผิดสักหน่อย วันก่อนเป็นวันเกิดของโซเฟีย หนึ่งปีมีครั้งเดียว ทำไมคุณแม่ถึงจงใจนัดในวันนั้นละครับ ถ้าจะผิด...” “แกจะโทษว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะแม่อย่างนั้นหรือดีน?” เอเรน่ากดเสียงต่ำ เนื้อตัวเริ่มสั่นด้วยความโกรธ ยิ่งใกล้ถึงตัวไรรี่ย์เท่าไหร่ ลูกคนนี้ยังทำตัวเหมือนเด็กเข้าไปทุกที ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงเกลียดเธอนักหนา ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน ทั้งคู่สนิทกันมากแท้ ๆ “ช่างมันก่อน เข้าไปในบ้าน ถือของที่แม่เตรียมมาไปด้วย” เพราะไม่อยากเถียง เอเรน่าจึงเลือกจะเดินนำไปก่อน อัลดีนหันไปหาตะกร้าใบใหญ่ เป็นเมอแรงค์แสนหอมฝีมือของแม่ตนเองไม่ผิดแน่ ในเมื่อจะหนีก็หนีไม่ได้ คงมีแต่ต้องทำตามที่แม่ตัวเองต้องการให้มันจบ ๆ เลยคว้าตะกร้าเดินตามไปในที่สุด ข้างนอกว่าใหญ่แล้ว ข้างในช่างหรูหรา ทุกอย่างเน้นสีขาวเป็นหลัก แต่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ ซึ่งเจ้าสาวรับใช้ของที่นี่เปลี่ยนมันทุกวัน ทำให้มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เข้าจมูกตลอดเวลา ห้องโถงกว้างเป็นเสมือนสถานที่รับแขก มีผู้หญิงท่าทางใจดีเปิดยิ้มต้อนรับทั้งคู่ แม้จะอยู่ในชุดสบายด้วยผ้าพลิ้วไหว แต่กลับไม่ได้ทำให้ความงดงามของเธอคนนี้ลดลงได้เลย “คุณป้าเรเชล สวัสดีครับ” อัลดีนกล่าวทักทาย ก่อนเด็กรับใช้จะวิ่งมารับของในมือชายหนุ่มไป “คุณแม่ทำเมอแรงค์มาฝากด้วย รับไปทานนะครับ” “ขอบคุณนะคะพี่เอเรน่า อัลดีน” เรเชลยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินนำทั้งสองคนไปยังชุดโซฟาใหญ่สี่ชิ้นสีเบจ แน่นอนว่าตรงกลางมีดอกไม้ประดับเอาไว้บนโต๊ะกระจกขนาดเล็กอีกแล้ว กำลังสะท้อนภาพประติมากรรมที่อยู่คู่กับบ้านหลังนี้มาอย่างช้านานด้านบน ไม่ว่าจะผ่านไปนานเป็นร้อยปี แต่ภาพเทพีฟอร์จูน่ากลับเด่นชัดไปทั่วพื้นที่ของบ้านแรนเดอร์โค ไม่รู้ว่าเพราะเทพีองค์นี้หรือเปล่า ที่ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับด้านสุขภาพ และโรงพยาบาลของตระกูลแรนเดอร์โค รุ่งเรืองได้มากขนาดนี้ “ต้องขอโทษที่ไรรี่ย์อาจจะลงมาช้านะคะ พอดีแกไม่ค่อยสบาย เลยตื่นสายไปหน่อย” เรเชลดึงคนอายุมากกว่ามานั่งใกล้ ๆ และพูดคุยอย่างคนคุ้นเคย “ตอนนี้กำลังแต่งตัว อีกเดี๋ยวก็ลงมาค่ะ” “เป็นอะไรมากหรือเปล่า?” เอเรน่าถามด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่ลืมเสสายตาไปหาตัวต้นเหตุ กำลังทิ้งตัวลงนั่งโซฟาตัวสั้นข้าง ๆ พอดี “ไม่หรอกค่ะ กินอิ่มนอนหลับดี เหมือนจะสบายเกินไปด้วย” เรเชลอดยิ้มไม่ได้ ไม่มีสีหน้าของคนอมทุกข์เลย จนเอเราน่าเริ่มแปลกใจ หากไรรี่ย์คนนั้นเสียใจกับสิ่งที่ลูกชายทำลงไปจนล้มป่วย อย่างน้อย คนเป็นแม่ต้องทุกข์ไปด้วยไม่ใช่หรือ? “ดีจริง พี่รึเป็นห่วง กลัวว่าว่าที่ลูกสะใภ้จะไม่สบายไปเสียแล้ว” เอเรน่ายังตั้งมั่นกับเรื่องนี้เสียจริง แม้จะได้ยินเสียงฮึดฮัดของลูกชายลอยมาก็ตาม “เรื่องนี้ให้เด็ก ๆ ตัดสินใจก่อนดีกว่านะคะ น้องไม่อยากบังคับลูกเท่าไหร่” เรเชลยิ้มแหย “แต่พี่อยากได้ไรรี่ย์เป็นลูกสะใภ้จริง ๆ นะ เพราะในวัลดิส ไม่สิ ทั้งสามอาณาจักรนี้ ไม่มีใครเหมาะสมกับอัลดีนเท่าหนูไรรี่ย์อีกแล้ว” เอเรน่าไม่ลืมเยินยอลูกสาวของหญิงตรงหน้า แต่ติดที่ว่า เจ้าลูกชายดื้อของเธอ กลับไม่คิดอย่างนั้น “คุณแม่ลองหาดีแล้วหรือครับ?” อัลดีนถาม “ดีน!” จนเอเราน่าลืมตัวหันไปตวาดลูกชายทันที “อะ... เอาเป็นว่า ดื่มชาก่อนดีกว่านะคะ พอดีเมื่อวานไรอันเอามาฝากจากทางใต้ เป็นชาผลไม้รสชาติดีทีเดียว ถ้าพี่เอเรน่าชอบ จะเอากลับไปด้วยก็ได้นะคะ เพราะไรอันเอามาฝากเหมือนเหมามาทั้งไร่เลยค่ะ” เรเชลพูดไปแค่นหัวเราะไป เพราะไม่อยากให้แม่ลูกทะเลาะกันเสียก่อน และดูเหมือนชาของฝากจากน้องชาย ก็ทำให้สงครามย่อม ๆ ของคู่แม่ลูกสงบลงได้... ก่อนจะมีพายุลูกใหญ่ของจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD