ไม่คิดเลยว่าคนเราจะมีความสุขกับการอาบน้ำได้มากขนาดนี้ มิหนำซ้ำ ร่างกายใหม่ในนามไรรี่ย์เอง ทุกสัมผัสมันชวนจั๊กจี้ไปหมด จะมีหรือไม่ที่เธอจะตกหลุมรักตัวเองเข้าให้
หญิงสาวเดินออกมาด้วยท่าทางเบิกบาน ‘กว่าปกติ’ แต่พอเห็นคนรออยู่เท่านั้น “แม่ร่วง!!”
“ขะ… ขอโทษค่ะ” สามสาวในชุดของสาวรับใช้สีน้ำเงินเข้มต่างก้มศีรษะให้เธอ พร้อมดวงตาสั่นระรัวด้วยความหวั่นเกรงเต็มอก “คุณหนูยังไม่ได้เลือกชุด เครื่องประดับ และสไตล์การแต่งหน้าอย่างทุกวัน พวกฉันเลยมารอเพื่อไม่ให้คุณหนูต้องเดินไกลค่ะ”
“อ่า~” คุณหนูของบ้านพยักหน้า ความทรงจำของไรรี่ย์คนเก่าเองก็มีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน บอกเลยว่าแค่คิดก็รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายแล้ว ทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านตัวเองแท้ ๆ ไม่เห็นต้องแต่งหน้าหรือประโคมใส่เครื่องประดับเลย เพราะฉะนั้น “ไม่เป็นไรหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ พวกคาร่าไปทำงานเถอะค่ะ ขอบใจมาก”
และเธอก็เดินไป
ทิ้งให้สาว ๆ หันหน้ามองกันด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูของพวกเธอกันแน่? แต่กลับมีความรู้สึกว่า เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันออกมานี่สิ
‘คาร่า เธอจะคิดแบบนั้นไม่ได้สิ ตอนนี้คุณหนูกำลังไม่สบายอยู่’
“พี่คาร่า เราจะเอายังไงต่อคะ? คุณหนู…” หญิงรับใช้นามว่าลิลลี่ก้มมองเครื่องประดับคอลเลกชันใหม่ในมือ “… เหมือนจะไม่เหมือนเดิมเลย”
“ลิลลี่ ฉันก็ไม่รู้ ค่อย ๆ ดูกันไปเถอะนะ” คาร่ายิ้มเจื่อนและถอนหายใจออกมา คุณหนูไรรี่ย์ผู้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดเวลาคนนั้น ต้องสะเทือนใจแค่ไหนกัน ถึงสมองกลับขนาดนี้”
ไรรี่ย์เดินกระโดดด้วยความเบิกบานจนไม่สามารถหุบยิ้มได้ ไม่ว่าจะตรงไหนในห้องนี้ล้วนแต่น่ามอง ต่างจากห้องรูหนูเดิมของแก้วเจ้าจอมลิบลับ แม้กระทั่งฝุ่นยังไม่มีให้เห็น
แต่สิ่งที่ทำให้เธออ้าปากค้างเป็นสิ่งต่อมา คือห้องแต่งตัวอันกว้างขวางต่างหาก ไม่รู้ว่าไรรี่ย์คนเดิมเอาเวลาที่ไหนไปใส่ชุดพวกนี้ให้หมดกันนะ? แถมยังแยกสี รูปทรง ชุดลำลอง แบบทางการ แม้กระทั่งชุดนอนยังดูแพงกว่าชีวิตเก่าของเธอเสียอีก
“สุดยอดไปเลย ห้องนี้ทั้งห้อง คงแพงกว่าชีวิตฉันเลยสินะ” ไรรี่ย์เดินเข้าไปเหมือนอยู่ในดินแดนพิศวง จับตรงนี้นิด เขี่ยตรงนี้หน่อย เพราะรู้สึกว่าทุกอย่างที่นี่ ช่างไม่เหมาะกับตัวเองเลยสักนิด
“ไรรี่ย์เอ๋ยไรรี่ย์ เธอเนี่ย มีทุกอย่างที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้จริง ๆ เลยนะ น่าอิจฉาชะมัด” และมาหยุดอยู่ที่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นธรรมดา กลายเป็นของหายากในห้องแห่งนี้ไปเสียได้ “ฉันน่ะ เหมาะกับชุดแบบนี้ที่สุด เฮ้อ~ ถ้ารู้ว่าจะมาโผล่ที่นี่ ทำไมไม่พาฉันมาอยู่ให้เร็วกว่านี้หน่อยยะ!?! ให้ทนกับสายตาดูหมิ่นของคนพวกนั้นอยู่ได้”
ทั้งหนี้สิน และคำดูหมิ่น แก้วเจ้าจอมเผชิญกับมันมาเป็นสิบปี บางวันกินแต่ข้าวเพื่อให้อิ่มด้วยซ้ำ ชุดแพงที่สุดคือชุดที่เจ้าหล่อนใส่ไปทำงานในทุก ๆ วัน แบรนด์เนมหรืออย่าหวังเลย แค่จะเจียดเงินซื้อกระเป๋าหนังสักไปยังใช้เวลาทำใจเป็นเดือน ๆ
แต่ดูของพวกนี้สิ มีให้เลือกตาแทบลาย คนจนกับคนรวยนี่ความคิดต่างกันชะมัด แก้วเจ้าจอมเหมือนอยู่กับวันและเวลา รอเงินเดือนออกเพื่อได้ใช้ออกไป แต่พวกคนมีเงิน ตื่นมาก็เจอแต่สิ่งดี ๆ แทบไม่ต้องดิ้นรนเพื่อจะกินข้าวสักมื้อเลยด้วยซ้ำ
“พอ ๆ ตอนนี้เธอคือไรรี่ย์แล้ว อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นอีก ใช้ชีวิตที่อยากใช้เถอะ”
แต่ถึงอย่างนั้น ไรรี่ย์คนใหม่ กลับเลือกใส่แค่เสื้อยืดง่าย ๆ และกางเกงขาสั้นเพื่อให้คล่องตัวเท่านั้น
ทั้งคาร่าและลิลลี่ต่างมองเจ้านายพร้อมยิ้มเจื่อน ชุดในห้องนั้นมีมากมาย แต่คุณหนูของพวกเธอกลับเลือกชุดราคาถูกที่สุดอย่างนั้นหรือ? ลิลลี่ชักลังเลว่าจะทำอย่างไรกับเครื่องประดับคอลเลกชันใหม่ในมือดี เพราะมันดู
‘ไม่เข้ากับชุดของคุณหนูเลย ทำยังไงดี?’
“อะไรเหรอ?” ไรรี่ย์เดินไปหาคนถือกล่องกำมะหยี่พอดีมือสีดำด้วยความอยากรู้อยากเห็น เลยทำให้คนถือเอาไว้เปิดมันออกตามความเคยชิน “แหวน? กำไลข้อมือ?”
“ค่ะ” ลิลลี่เกร็งเล็กน้อย แต่ยังคงอธิบายต่อไป “คอลเลกชันใหม่ของคุณโบนาค่ะ เพราะคุณหนูอยากได้ เธอจึงส่งมาให้ก่อนวันวางจำหน่าย ฉันเลยเอามาให้คุณหนูดูก่อน”
“อ๋อ~ เหมือนจะจำได้แฮะ” ไรรี่ย์ยื่นมือหมายจะจับสร้อยข้อมือเส้นเล็ก มันประดับเด่นด้วยหินสีชมพูรูปหัวใจ เล็กใหญ่สลับกันไปมา ล้อมด้วยทองคำขาวอีกที ทั้งน่ารักและเรียบหรูไปพร้อมกัน คนออกแบบคนนี้เก่งสมคำร่ำลือ แต่ว่า… “ไม่เอาดีว่า เหมือนมันจะช่วยเรื่องความรักใช่หรือเปล่า?”
“แต่คุณหนูต้องการแบบนี้” ลิลลี่เสริม
“แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากมีความรักนี่ ลิลลี่กับคาร่าเอาไปแบ่งกันเถอะ ถือว่าเป็นของขวัญขอบคุณที่ช่วยดูแลฉันมาตลอดก็แล้วกันนะ” พูดจบและยิ้ม ต่างจากสาวรับใช้ทั้งสองคน ที่เริ่มมีน้ำตาเอ่อขึ้นมาคลอเต็มหน่วย “พอ ๆ อย่าร้องนะ ฉันหิวแล้ว ลงไปกินข้าวกันดีกว่า… จะมีกุ้งหรือเปล่าน้า~ หรือว่า! เนื้อ เอาชิ้นโต ๆ เลยได้มั้ย”
เสียงของไรรี่ย์เริ่มไกลออกไป แถมยังพูดแต่เรื่องของกินไม่ขาดปากอีก ต่างจากคาร่าและลิลลี่ ค่อย ๆ ทรุดตัวลงพร้อมหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปริ่ม
เพราะโตมาพร้อม ๆ กัน เธอจึงรู้ดี ว่าคุณหนูไรรี่ย์ แท้จริงแล้วเป็นคนอย่างไร และชุดนั้น... มันก็เคยเป็นชุดโปรดของเธอมาก่อน แถมยังเคยบอกเอาไว้ด้วยว่าจะไม่ยอมใส่มันอีก
“ลิลลี่ คุณหนู… เหมือนคุณหนูเมื่อก่อนเลย” คาร่าสะอื้นแทบหายใจไม่ออก
“ค่ะพี่คาร่า คุณหนูแสนน่ารักคนนั้น… เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลยค่ะ”
อดีตอันแสนยาวนานของไรรี่ย์ มันเนิ่นนานเสียจนตัวเองไม่สามารถจำได้ ความทรงจำถูกฝังกลบจนมิด ไม่ว่าจะพยายามขุดอย่างไร ก็ไม่สามารถเจอมันได้อีกครั้ง
ลืมแม้กระทั่ง คนที่ฝั่งมันเอาไว้ในตอนนั้น
ไม่ใช่แค่กุ้ง เนื้อ ยังมีอีกหลายอย่างที่เรเชลเตรียมเพื่อลูกสาวคนเดียวของเธอ เชฟประจำวันนี้ยังต้องปาดเหงื่อเมื่อได้รับคำสั่งเป็นของโปรดคุณหนูไรรี่ย์ทั้งหมดที่พอจะทำได้
ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง ราวกับว่าตอนนี้กำลังมีงานเลี้ยงย่อม ๆ เกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารกว้างตรงหน้า ไรรี่ย์เดินอ้าปากค้างไปนั่งหัวโต๊ะ เพราะเธอจะเป็นคนลิ้มลองอาหารทุกอย่างนี้ทั้งหมดตามที่ต้องการ
ซึ่งมองอย่างไร... ให้ตายก็กินไม่หมด
เครื่องคิดเลขในสมองทำงานโดยอัตโนมัติ จานตรงหน้าถ้าจำไม่ผิด เคยสั่งให้แขกของเจ้านายไม่ต่ำว่าพันแน่นอน ข้าง ๆ นั่นก็ด้วย กุ้งล็อบเตอร์ตัวใหญ่ แค่ตัวมันอย่างเดียวก็สามพันต้น ๆ แล้ว ยังเจ้าเนื้อวากิวชิ้นหนา ย่างกำลังดีกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ สปาเกตตีเส้นดำ ไวท์ซอสดูเข้ากัน ถ้าร้านอาหารบ้าน ๆ ก็หลายร้อยอยู่นะ ถัดมาเป็น...
แซลมอนสีน่าทาน แถมยังมีไข่ปลาคาเวียร์อีก แม้ความจริงแล้ว แก้วเจ้าจอมจะไม่ค่อยชอบก็เถอะ เพราะเคยได้บัตรของขวัญอาหารโรงแรมหรูมา บอกเลยว่าพอได้ แต่ให้กระเดือกเข้าไปอีกขอคิดดูอีกที
ยังมีอีกหลายจานที่ทำให้คนนั่งหัวโต๊ะชะเง้อคอมองดู ความอยากอาหารมันก็มี แต่สิ่งที่กำลังดีดขึ้นมาให้หัวคือราคาของพวกนี้มากกว่า “หมื่น ไม่สิ สอง อาจจะเกินไปไกล ไหนจะเชฟที่มาปรุงอาหารอีก”
“ลงมาเร็วจังเลยไรรี่ย์?” เสียงหวานมาพร้อมกับร่างระหงของนายหญิงแห่งแรนเดอร์โค แต่ต้องชะงักไปกับชุดที่ลูกสาวสวมใส่อยู่ตอนนี้ “อะไรกันไรรี่ย์? ไหนบอกแม่ว่าจะไม่ใช่ชุดแบบนี้แล้วไง?”
“คะ? ลูกบอกเหรอ?”
เธอมีความทรงจำของไรรี่ย์เข้ามาก็จริง แต่เหมือนจะไม่ทั้งหมด เรื่องราววัยเด็กกลับเป็นสิ่งที่เธอนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่เจ้าของร่างเก่าไม่อยากจำมันอีกต่อไปแล้ว
“ช่างเถอะ ๆ จำไม่ได้ก็แล้วไป แต่หวังว่าลูกจะไม่ลืมว่าวันนี้ เราจะได้เลือกชุดคอลเลกชันใหม่ของไรอันนะ เพราะเป็นญาติกัน เขาเลยให้ไรรี่ย์เจ้าแม่แฟชั่นเลือกก่อนเลย” เรเชลยิ้มกว้าง ก่อนจะมีจานเปล่าและแก้วของเธอตามมาวางตรงหน้า
“คุณแม่คะ แต่ของในห้องแต่งตัว มันก็เยอะแล้วนะคะ ยังจะมีมาอีกเหรอ?” ขนาดเดินดูยังเดินไม่ทั่ว พอคิดว่าจะมีของใหม่มาเพิ่ม กลับเริ่มรู้สึกแขยงขึ้นมา “แล้วอาหารบนโต๊ะอีก เราทานกันแค่สองคนเอง มันเยอะไปหรือเปล่าคะ? คุณแม่ไม่เห็นต้องมีหลายอย่างมากมายขนาดนี้เลย”
อย่าว่าแต่เรเชลอึ้งเลย สาวใช้ทั้งหลายคนก็เริ่มหันหน้าถามกันอย่างช่วยไม่ได้ เพราะที่ต้องจัดโต๊ะแบบนี้ในทุก ๆ ครั้ง มันก็เพราะไรรี่ย์ถูกใจอะไรยากต่างหาก ลองอาหารไม่ถูกปากสิ มีแต่จะอาละวาดจนบ้านแตก แม้ความจริง เธอจะตักเข้าปากอย่างละนิดละน้อยก็เถอะ
แต่จู่ ๆ กลับมาพูดแบบนี้
“อย่างนั้นหรือจ๊ะ คราวหลังแม่จะให้คาร่าไปถามว่าลูกจะทานอะไรดีมั้ย จะได้ไม่ต้องทำเยอะ ๆ แบบนี้อีก” เรเชลยังเปิดยิ้ม ลูกสาวเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนแบบนี้ ก็ดีไม่น้อยเหมือนกัน
“ค่ะ” ไรรี่ย์ยิ้มตอบ และเริ่มลงมือรับประทานอาหารตรงหน้า
ท่าทางดูน่าอร่อยของเธอ แม้จะขาดเรื่องมารยาทไปหน่อย แต่กลับทำให้คนเป็นแม่ยิ้มตาม จึงตักชิ้นนั้น คีบชิ้นนี้ให้ลูกสาว และเธอมักตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ราวกับว่าเด็กสาวแสนสดใสคนเดิม กำลังเริ่มผลิบานออกมาอีกครั้ง แต่ว่า...
“จริงสิไรรี่ย์” คนเป็นแม่เอื้อมมือไปเช็ดปากลูกสาวเบา ๆ น้ำซอสเลอะขอบปากของเธอเห็นแล้วมันน่าเอ็นดู “คือ… แม่ขอโทษนะที่ทำอะไรโดยไม่ได้ปรึกษาลูก”
“คะ?” ไรรี่ย์เอียงคอมองคนอึกอัก ไม่กล้าพูดเรื่องที่เพิ่งวางหูไปเท่าไหร่ “หมายถึงเรื่องอะไรหรือคะคุณแม่?”
“คือ… แม่เพิ่งวางสายจากพี่เอเรน่าไป”
“เอราน่า…? อ๋อ!?! คุณป้าตาดุ ๆ นี่เอง” หญิงพยักหน้าเบา ๆ ทำเอาแม่เธอฟาดที่แขนเนียนทันที
“อย่าพูดแบบนั้นสิไรรี่ย์” แม้ตัวเองจะเห็นด้วยก็เถอะ แต่อย่างไรเสีย ตามมารยาทจะว่าผู้อื่นลับหลังไม่ได้ “คือว่า คุณนายเอเรน่าโทร. มา ถามเรื่องเมื่อวาน ว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง”
“ก็ดีนะคะ” ตอนนี้ไรรี่ย์กำลังอร่อยกับเนื้อกุ้งเต็ม ๆ คำอยู่ ก่อนจะชะงักไป เมื่อภาพเหตุการณ์เมื่อวานมาแทรกเข้ามา
‘พี่ถึงกับทิ้งฉัน เพื่อมาหานังโซเฟียเลยเหรอ พี่ดีน!!’ เสียงตวาดลั่น พร้อมความเจ็บปวดเข้ามาเต็มหัวใจ ไรรี่ย์ทรมานกับเรื่องของผู้ชายคนนั้นมานานกี่ปีแล้ว และในความทรงจำของเธอ มีแต่เรื่องราว และคำพูดถากถางจากเขาทั้งนั้น
กลายเป็นว่าเมื่อนึกถึง แก้วเจ้าจอมเลยอดเจ็บจี๊ดในใจไม่ได้
“… อ่า~ เหมือนจะไม่ดีเท่าไหร่เลยแฮะ”
“พี่เอเรน่า อยากพาดีนมาเจอกับลูก… ไรรี่ย์สะดวกมั้ยจ๊ะ?” เรเชลเลียบเคียงถาม มองใบหน้าด้านข้างของลูกสาวด้วยใจสั่นไหว หากได้เจอกับอัลดีนอีกครั้ง จะทำให้อาการแปลก ๆ ตอนนี้หายไปหรือไม่? แต่ใจ กลับอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกหน่อย
เพราะดูเหมือนตอนนี้ ลูกสาวเธอดูมีความสุขดี
“ค่ะ พอดีเลย จะได้คุยเรื่องที่อยากคุยด้วย” หญิงสาวยิ้มออกกว้าง แม้เรื่องที่แม่เธอบอกจะน่าหวั่นใจอยู่บ้าง แต่เจ้าเนื้อวากิวมันละลายความกังวลนั่นออกไปหมดแล้ว
“หรือจ๊ะ” แต่เรเชลนี่สิ รู้สึกหวั่นใจแปลก ๆ เกรงว่าจะเกิดเรื่องที่คิดไม่ถึงขึ้นมาอีก