ต้องเป็นแบบนี้เพราะใคร

1233 Words
บทที่ 4 ต้องเป็นแบบนี้เพราะใคร ที่เธอต้องเป็นแบบนี้เพราะใครกัน.. ก็เพราะเขานั่นแหละ ถ้าเธอไม่ทะเลาะกับเขา เพราะจับได้ว่าเขานอนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เธอก็คงไม่วิ่งเตลิดออกมาจนโดนรถมอเตอร์ไซค์ชนจนสลบคาที่ แต่เธอก็หายโกรธเขาเป็นปลิดทิ้ง เมื่อฟื้นขึ้นมาในห้องนี้แล้วเห็นเขานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง พร่ำคำขอโทษไม่ขาดปาก และนอนเธอมาทั้งคืน เธอมีความสุขและหายโกรธเขาสนิทใจ จนกระทั่งดาวลดามาถึง ผู้หญิงคนเดียวที่เธอยอมหลีกทางให้ เพราะรู้ว่าพิษนุรักหล่อนมากเพียงใด “ไม่ได้หรอกคุณก้อย ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ ผมคงเป็นเจ้านายที่แย่ที่สุด” “ถ้าอย่างนั้นปีนี้ก็เพิ่มโบนัสให้พวกเราอีกสักเดือนสิคะ รับรองคุณเต้เป็นเจ้านายที่ดีมากที่สุดในโลกแน่ๆ” ทุกคนต่างหัวเราะออกมาเมื่อวาสนาพูดจบ “ไม่มีปัญหาครับ ผมจะเพิ่มโบนัสให้ทุกคน แต่หักโบนัสของพี่หนาออกดีไหม” “ถ้าอย่างนั้นขอรับเท่าเดิมก็ได้ค่ะ” วาสนาทำหน้างอก่อนหัวเราะออกมา เมื่อเห็นทุกคนหัวเราะด้วยความพอใจ “ก้อยแกเป็นยังไงบ้างวะ พอรู้ข่าวฉันกับป้าหนาก็รีบมาดูแกเลยนะ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกแค่ไหน” ถึงแม้จะคลางแคลงใจ แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนสำคัญที่สุด ดาวลดาจึงทิ้งเรื่องส่วนตัวไว้ในใจก่อน “สะโพกช้ำน่ะแก” “แกไปทำท่าไหนเข้าล่ะ” “ฉันวิ่งตัดหน้าเขา ฉันไม่เห็นรถน่ะ” แล้วทำไมแกถึงต้องวิ่งตัดหน้ารถล่ะ? ดาวลดาอยากถามออกไปแบบนี้ เพราะความรู้สึกบางอย่างในใจ แต่เธอเลือกที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน คนอย่างพิษนุจะทำอะไรต้องมีหลักฐานมัดตัว ไม่งั้นก็จับไม่ได้คามือหรอก “คราวหน้าคราวหลังก็ดูทางให้ดีก่อนนะ แกตัวคนเดียวเป็นแบบนี้แล้วใครจะดูแล ไปอยู่บ้านฉันก่อนไหมล่ะ” อย่างน้อยบ้านเธอก็ยังมีพ่อและป้าอีกสองคน และยังมีลูกจ้างอีกหลายคน “ไม่ต้องหรอกแยม ฉันอยู่ได้” “จะอยู่ยังไงล่ะ” “เดี๋ยว.. เดี๋ยวแฟนฉันก็คงมาอยู่เป็นเพื่อนน่ะ” นนทิยาพูดออกไปไม่ค่อยเต็มปากนัก เพราะไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเขาจะมาไยดีเธอหรือเปล่า ก็ได้แต่หวังว่าเขาคงจะมีความรัก ความห่วงใยให้เธอบ้าง “เชอะ! ที่แท้ก็อยากให้แฟนมาดูแล ตามใจแกก็แล้วกัน แต่ถ้าเขาไม่สะดวกแกก็โทรบอกฉันนะ” ค้อนเพื่อนด้วยสายตาล้อเลียน “อือ ขอบใจแกมากนะแยม” นนทิยารู้สึกละอายใจต่อเพื่อนสนิทยิ่งนัก แต่เธอทำดีที่สุดได้แค่นี้ นั่นก็คือปิดบังทุกเรื่องที่เกิดขึ้นและยอมเป็นเบี้ยล่างในเรื่องความรักให้เธอ ฉันรักแกนะแยม.. แต่ฉันก็รักคุณเต้เขามากเหมือนกัน... “คิดอะไรอยู่” วาสนาถามขึ้นขณะนั่งอยู่ในรถกับดาวลดา หลังกลับจากไปเยี่ยมนนทิยามาด้วยกัน “เปล่าค่ะพี่” “ทำไมจะไม่คิด เวลาที่เธอคิดอะไรอยู่เธอมักจะเรียกป้าว่าพี่ตลอด เธอรู้ตัวบ้างหรือเปล่า” วาสนาซึ่งเป็นคนที่ละเอียดและช่างสังเกตุมากๆ จี้จุด “จริงเหรอ!” ดาวลดาเลิกหันมาเลิกคิ้วและอมยิ้มยียวนใส่วาสนา ทำหน้าให้ดูร่าเริง เธอไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเป็นแบบนั้น เพราะปกติก็เรียกขานเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่คนนี้ว่าป้าบ้างพี่บ้าง “เรื่องไอ้ก้อยหรือเปล่า” “.... แยมมีความลับกับป้าไม่ได้เลยเหรอเนี่ย” หลังจากนิ่งอึ้งไปสักพักก็ยอมรับอย่างไม่ลังเล “มีได้ แต่ต้องเป็นเรื่องที่ไม่เคยผ่านตาป้านะ” วาสนาตบท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะเล็กน้อย “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะแยม อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบตัดสิน ดูให้ถ้วนถี่ มองให้ลึกซึ้ง คิดให้มากๆ แล้วค่อยคัดเอาคำตอบที่ดีที่สุด” ...พี่บอกเธอได้แค่นี้นะแยม ถึงแม้อยากจะพูดให้มากกว่านี้ แต่เรื่องนี้มันเกินหน้าที่คนอย่างพี่ที่เป็นเพียงคนนอก พี่รู้ว่าเธอฉลาด ฟังแค่นี้น่าจะเข้าใจว่าคืออะไร.. วาสนาคิดในใจด้วยความรู้สึกเห็นใจทั้งดาวลดาและนนทิยา ผู้หญิงสองคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันมาก กับการที่ต้องมีคนรักคนเดียวกัน เรื่องนี้เธอรู้ดีที่สุดว่ามันเจ็บแค่ไหนเพราะเคยเจอมากับตัว.. ครั้งนั้นเธอเลือกที่จะเดินออกมา เพราะรู้ดีว่าเขาคนนั้นรักอีกคนมากกว่า ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนที่มาก่อน “... ถ้ามันเป็นเรื่องจริง” ดาวลดาไม่สามารถพูดออกมาได้จบประโยค เพราะมีก้อนแข็งๆ ก้อนหนึ่งวิ่งมาจุกอยู่ที่คอหอยจนเจ็บไปหมด “ป้าถึงบอกให้เราคิดให้มากๆ ไง ก้อยมันเป็นคนยังไงแยมก็น่าจะรู้นะ แต่มันก็ยอมให้แยมมากขนาดนี้ มันก็น่าจะรักเรามากแหละ อันนี้ป้าพูดถึงกรณีถ้ามันเป็นเรื่องจริงนะ แต่บางทีเราอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้นะแยม” วาสนาไม่วายปลอบใจตบท้าย ทั้งที่มั่นใจเต็มอกว่ามันต้องจริงแน่ๆ “ขอบคุณค่ะป้า แยมจะจำคำของป้าเอาไว้ แวะหาอะไรกินก่อนเข้าบริษัทดีกว่าค่ะป้า” ดาวลดาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากคิดมากให้ปวดหัว “เอาสิ ป้าก็เริ่มหิวแล้ว”... ดวงเดือนและดวงดาวต่างก็ลุกจากที่นั่งเมื่อได้ยินเสียงรถของหลานสาว ดวงเดือนออกมายืนรออยู่ที่เพิงหน้าบ้านด้วยรอยยิ้ม รอจนหลานสาวเดินลงจากรถและเข้ามากอด “เหนื่อยไหมลูก” “เหนื่อยมากเลยค่ะป้าเดือน เหนื๊อยเหนื่อย” ดาวลดาออดอ้อนออเซาะผู้เป็นป้า “ป้าดาวล่ะคะ” “ป้าเขาไปเตรียมน้ำนมให้หนูอาบน่ะ” ดาวลดาถึงกับคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของป้าเดือน ทุกวันศุกร์ที่สองและสี่ของเดือนถ้าเธอไม่ติดทัวร์ เธอจะต้องอาบน้ำนมที่ป้าดาวทำให้ เธอลืมไปได้ยังไงเนี่ย ความจริงเรื่องนี้เธอไม่คิดจะทำเป็นจริงเป็นจัง ตอนแรกที่ทำเพราะเปิดเจอในเว็บหนึ่งเขาแนะนำการทำสปาผิวด้วยตัวเองง่ายๆ เธอก็แค่ทำตามในยามที่ว่างเท่านั้น แต่พอนานวันเข้ากลายเป็นว่าป้าทั้งสองของเธอกลับจดจำรายละเอียดและจัดการให้เธอเสร็จสรรพ “แยมรักป้าเดือนกับป้าดาวที่สุดในโลกเลยค่ะ จะมีหนุ่มคนไหนรักแยมเท่าป้าทั้งสองคนไหมนะ” “ป๋านี่ไงหนุ่มคนนั้น” เสียงของอาทิตย์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เขาเพิ่งจัดการกับที่ร้านเสร็จและกำลังจะกลับมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพื่อรอต้อนรับแขก จึงทันได้ยินที่ลูกสาวกับพี่สาวคุยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD