พรรษวัฒน์หันมาบอกหญิงสาวที่นั่งมองเขาอยู่บนเตียง ธัญญาพยักหน้าเชิงรับรู้ก่อนที่ชายหนุ่มจะออกไปจากห้องนั้น หล่อนรู้สึกว่าตัวเองกำลังหงุดหงิด ทำไมไฟถึงได้ดับนานนัก หล่อนไม่ชอบอยู่ในที่มืด ๆ และมีแสงสว่างเพียงน้อยนิดแบบนี้เลย
หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ และลุกไปหยิบผ้าขนหนูท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้านตอนกลางคืนที่มีแสงตะเกียงพอให้อุ่นใจ ร่างเล็กผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเพื่อจะเข้าห้องน้ำที่ด้านในมีแสงจากตะเกียงซึ่งพรรษวัฒน์จุดเอาไว้พอให้หล่อนมองเห็นได้
“กรี๊ด!!!”
ธัญญากรีดร้องออกมาโดยที่ยังไม่ทันก้าวเข้าไปในห้องน้ำด้วยซ้ำเมื่อตุ๊กแกตัวใหญ่หล่นลงมาเฉียดหน้าหล่อนไปเพียงนิดเดียว
“ซินหมี่...มีอะไร!”
เสียงของพรรษวัฒน์ดังขึ้นที่ประตูห้อง เขารีบวิ่งมาแทบจะในทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ร่างสูงวิ่งเข้าไปกอดร่างเล็กบอบบางในผ้าขนหนูผืนเดียวที่ยืนตัวสั่นด้วยความตกใจ
“พี่วัฒน์...พี่วัฒน์....ตุ๊กแกค่ะ...ตุ๊กแกตัวเบ้อเริ่มเลย!”
ธัญญาเผลอกอดร่างสูงใหญ่ไว้แน่นและร้องอยู่กับอกกว้าง ชายหนุ่มกอดหล่อนตอบและมองไปรอบ ๆ ที่มีเพียงแสงสว่างจากตะเกียงแต่ก็มองไม่เห็นตุ๊กแกตัวใหญ่อย่างที่หญิงสาวบอก
“ไม่เห็นมีอะไรเลยหมี่”
“หมี่เห็นจริง ๆ นะคะพี่วัฒน์...ตุ๊กแกตัวใหญ่มากเลย มันหล่นลงมาจากเพดาน หมี่กลัวค่ะ...หมี่กลัว”
ร่างแน่งน้อยสะท้านสั่นไปหมดทั้งตัว พรรษวัฒน์กอดหล่อนเอาไว้แน่นและในเวลานั้นเองที่แขนของเขาเสียดสีกับผิวลื่น ๆ บนหลังไหล่ของหญิงสาว เขารู้สึกร้อนขึ้นมาอีก แล้วยิ่งตอนนี้ธัญญาก็อยู่ในผ้าขนหนูเพียงแค่ผืนเดียว เขารัดรึงวงแขนและปลอบประโลม
“ไม่มีอะไรแล้วหมี่...ถ้ามีจริงมันก็คงไปแล้วล่ะ ตุ๊กแกเป็นสัตว์ขี้อาย มันไม่กล้าอยู่ในที่โล่งให้คนเห็นมันหรอก มันก็กลัวอันตรายเหมือนกัน”
ธัญญาซึ่งซุกหน้าหลับตาปี๋อยู่กับอกของชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ในขณะเดียวกันแขนเรียวก็ยิ่งกอดรัดเอวหนาของชายหนุ่มจนแน่น หญิงสาวเลื่อนสายตาแลไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นเจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวนั้นแล้ว
©©©©©©©©
บทที่ 6
“เป็นไงล่ะ...พี่บอกแล้วว่าไม่มีอะไร มันไปแล้ว ไม่เห็นมันแล้วล่ะ”
เสียงที่ปลอบประโลมนั้นทำให้หญิงสาวอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด ธัญญาเงยหน้ามองคู่หมั้นหนุ่มที่ยังกอดหล่อนไว้แน่น
“มะ...มันไปแล้วจริงหรือคะ พี่วัฒน์”
“ก็จริงนะซี...หมี่กำลังจะอาบน้ำอย่างนั้นหรือ?”
“คะ...ค่ะ...หมี่กำลังจะอาบน้ำ”
พรรษวัฒน์ก้มหน้าลงไปเกือบชิด “ไม่มีอะไรแล้วล่ะ คราวนี้จะอาบน้ำได้หรือยัง”
เขากระซิบเสียงแผ่วเบา ธัญญาซึ่งเงยหน้ามองเขาสบนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นแล้วทำให้หัวใจสั่น ไม่ใช่เพราะกลัวตุ๊กแกเพราะหล่อนมองไม่เห็นมันแล้ว หากแต่ตอนนี้หล่อนเริ่มเกิดความรู้สึกอีกอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
“ค่ะ...หมี่จะอาบน้ำ”
“ก็อาบสิ”
“พี่วัฒน์คะ”
“หืมม์?”
“ปละ...ปล่อยหมี่ก่อนซีคะ”
ธัญญาพูดเสียงแผ่ว ๆ เนื้อตัวของหล่อนส่วนที่เปล่าเปลือยซึ่งโผล่พ้นผ้าขนหนูที่พันเรือนร่างสวยไว้อย่างหมิ่นเหม่กำลังเสียดสีกับเนื้อตัวของเขา ถึงพรรษวัฒน์จะสวมเสื้อเชิ้ตแต่หญิงสาวก็รู้สึกถึงความร้อนจากตัวเขาที่แผ่ออกมา
“กล้าอาบคนเดียวหรือเปล่าล่ะ? หืมม์”
พรรษวัฒน์ตั้งคำถามที่ทำเอาคนฟังหน้าแดงก่ำจนเห็นชัดแม้อยู่ภายใต้แสงสลัวจากตะเกียงดวงน้อย แขนแกร่งก็ไม่ยอมปล่อยจากร่างกลมกลึงที่นุ่งผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว ธัญญายิ้มเอียงอาย
“อาบได้ซีคะ...ก็...ไม่มีอะไรแล้วนี่คะ”
“หืมม์...หมี่พูดว่าอะไรนะ พี่ฟังไม่ถนัด”
ชายหนุ่มแกล้งก้มหน้าลงไปจนจมูกของเขาชนกับพวงแก้มร้อนผ่าวของหญิงสาว
“หมี่บอกว่า...”
เจ้าของใบหน้าหวานกำลังจะหันไปบอกคู่หมั้นหนุ่มแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรปากจิ้มลิ้มก็ถูกกดไว้ด้วยริมฝีปากหยักหนาอีกหน พรรษวัฒน์จูบหล่อนหนักหน่วงกว่าครั้งแรก ปากของเขาบดคลึงบนกลีบปากนุ่มและแทรกลิ้นเข้าไปในอุ้งปากเล็ก
ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธตัวเองได้เลยว่าเขารอคอยที่จะจูบคู่หมั้นสาวอีกแทบไม่ไหว และครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจจะมอบจุมพิตแสนหวามให้หญิงสาวที่ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปหมด
“อืม...”
ธัญญาส่งเสียงได้แค่ในลำคอ หล่อนตื่นเต้นแต่เริ่มเรียนรู้ว่าจะต้องเอามือไม้ที่เคยแข็งทื่อไว้ตรงส่วนไหนบนตัวเขา มือเรียวบางเริ่มแตะไต่ไปบนลำแขนของพรรษวัฒน์ กระทั่งเขาจับมือของหล่อนวางแหมะไว้บนต้นคอ
“กอดพี่สิหมี่...เธอต้องกอดพี่แบบนี้”
ร่างสูงกระซิบบอกขณะถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะจูบหล่อนอีกครั้ง ธัญญากดปลายนิ้วบนต้นคอของเขา หล่อนรู้สึกวูบวาบในช่องท้องที่บิดเกร็ง พรรษวัฒน์กำลังสอนบทเรียนรักให้หล่อนอยู่หรือนี่
“พี่วัฒน์คะ...”
ธัญญาครางเสียงหวิวเมื่อริมฝีปากของหล่อนเป็นอิสระ แต่ใบหน้าคมคายก็ไม่ยอมเลื่อนห่างออกไปจากดวงหน้างดงาม
“ตื่นเต้นหรือหมี่” เขากระซิบถามเสียงแหบพร่า
“พี่วัฒน์คะ...หมี่ไม่เคยค่ะ”
“เราต้องทำความคุ้นเคยกันก่อนนะหมี่...ก่อนจะถึงวันแต่งงานจริง ๆ ยังไงล่ะ”
พรรษวัฒน์พูดออกไปจากหัวใจของเขาสั่งการ ก่อนหน้านี้เขาคิดแต่การหาทางกลั่นแกล้งแม่สาวหน้าจืดแว่นหนาโดยไม่รู้เลยว่ารสจูบและสัมผัสของหล่อนจะหวานล้ำเสียขนาดนี้ ชายหนุ่มเชยคางมนของหญิงสาวให้หล่อนเงยขึ้นสบนัยน์ตาหวานฉ่ำของเขา
“หมี่...พี่ไม่เคยเห็นหมี่ตอนที่ไม่ใส่แว่น”
“แล้วมันเป็นยังไงล่ะคะ...คงน่าเกลียดมากใช่ไหมคะ”
แทนคำตอบพรรษวัฒน์ก็ก้มหน้าลงไปหากลีบปากนุ่มที่ระริกสั่น ธัญญาตอบรับจูบหวานของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าและรู้สึกว่ามือสากหนาของคู่หมั้นหนุ่มจะเริ่มแตะไต่ไปตามแขนเรียวราวลำเทียนที่เปล่าเปลือย