ตอนที่ 10

1214 Words
10 นางเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่แสนน่ารักและน่าชัง แต่แสนร้ายกาจด้วยนะสิ นางร่ำเรียนเขียนอ่านอันใดล้วนแตกฉาน ท่านอาจารย์ยังออกปากชมเชยนางกับพี่ใหญ่เสมอ จนทำให้เหล่าสหายต่างก็ไม่ชอบหน้า ก็ใครใช้ให้นางเกิดมาเป็นลูกท่านแม่เล่า รับรองนางจะไม่ทำให้ผิดหวัง “เราจะย้ายไปอยู่จวนข้าง ๆ หนีจากคนใจร้ายเช่นพ่อของเจ้าอย่างไรเล่า” ท่านย่ากล่าวขึ้นมา ยังโชคดีสะใภ้หัวอ่อน นางจึงคล้อยตาม “แม่มีของจะมอบให้เจ้ามากมาย สตรีนางนั้นอย่าหวังจะได้ครอบครองมัน สักครึ่งข้าก็ไม่ให้” นางลูบไล้ดวงหน้าของลูกสะใภ้ด้วยความสงสารจับใจ สายตาของนางรักและเอ็นดูสะใภ้คนนี้นัก ผูกพันราวกับเป็นสายเลือดเดียว เด็ก ๆ สองคนต่างก็ดีใจจนเนื้อเต้น “ในที่สุดข้าจะได้ไม่ต้องทนเหม็นหน้าใครบางคนแล้ว” “จริงด้วยพี่ใหญ่ อย่าคิดจะไปเหยียบจวนข้านะ เช่นนั้นจะหาว่าไม่เกรงใจ” ชายชราร้อนตัวกล่าวถามขึ้น เกรงว่าหลานจะไม่รัก “แล้วย่ากับปู่เล่าไปหาได้หรือไม่” หย่งเล่อแย้มยิ้มยืดอกขึ้นมา กล่าวน้ำเสียงใสดังขึ้นมาว่า “แน่นอน ว่าย่อมได้เสมอขอรับ” ฟางหรงร่างหนังสือหย่าเรียบร้อย มีให้เขาหนึ่งแผ่น และต่อหน้าศาลบรรพชนอีกหนึ่งแผ่น ไม่ถึงครึ่งชั่วยามจวนข้าง ๆ ก็จัดการดูแลเก็บกวาดเช็ดถูจนสะอาดเอี่ยม สามแม่ลูกไปอยู่ที่เรือนใหม่ ขนของทั้งหมดออกทางด้านหลัง ไม่มีผู้คนรับรู้ ไม่ให้ใครกล้าปริปากพูดมาก ทุกคนถูกกำชับอย่างดีจากพ่อบ้านฝู และยิ่งสตรีนางนั้นจะพูดได้ก็คงจะเป็นอีกวันแน่ ๆ เพราะถูกเล่นงานปางตาย ท่านแม่ทัพกลับมาจากการรายงานแล้ว ใจจริงคิดว่าจะขอแต่งงาน แต่เขานึกถึงดวงหน้าของฮูหยิน จิตกระสับกระส่ายนัก ยิ่งเห็นสายตาคู่นั้นที่ไม่มีเขาแล้ว มันรู้สึกหนาวเหน็บจนสะท้านและหวาดกลัว เขาควบอาชาตัวเดิมกลับมา ยังคงไม่รู้ว่าภรรยาได้หายไปแล้ว เขามายังห้องหนังสือของตนเอง ก็พบว่ามีบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ เขาเปิดมันออกมาในใจความนั้นเขียนว่า “วันนี้ข้าไป๋ฟางหรง ขอหย่าขาดจากตระกูลจ้าว ด้วยความผิดอิจฉาริษยา อับอายต่อบรรพชนตระกูลจ้าว จึงขอหย่าร้างด้วยตนเอง หลังจากนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าวอีก” ในจดหมายนั่นมีปอยผมอยู่ด้วย และยังมีผ้าเช็ดหน้าที่เขาเคยมอบให้นางอีกหนึ่งผืน ความรู้สึกตอนนี้คล้ายกับว่าเขาควบคุมอาการไม่ไหว ตัวเขาเย็นไปหมด ทำอะไรไม่ถูกมือที่ถือกระดาษอยู่นั่นมันกำลังสั่น จู่ ๆ กระบอกตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา เขารีบร้อนเดินคล้ายราวกับว่าคนหลงทิศ ไปยังห้องของนาง ก็พบว่ามันว่างเปล่าเข้าให้ เดินออกมาไปยังเรือนลูกชาย เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปก็นึกว่าจะได้พบ ก็ไร้ซึ่งเงาของเขา พลันความรู้สึกปวดหนึบขึ้นมายังหน้าอกซีกซ้าย เขาขบกรามเป็นสัน คำรามเสียงดังลั่น “ไป๋ฟางหรง เจ้าคิดจะหย่ากับข้ารึ! เจ้ากล้าดีอย่างไรกัน หลอกลวงให้ข้ารักและทอดทิ้งข้าไปเช่นนี้!” “ไอ้ลูกชั่วมันเป็นเพราะเจ้าต่างหาก อย่ามาร้องฟูมฟายให้ข้าได้เห็น เมียคนเดียวลูกอีกสองคนยังทอดทิ้งได้” หลิวซื่อแทบอยากจะเอาไว้เท้าแพ่งกระบาลลูกชาย ชายชราได้ทีรีบสมทบเติมเชื้อถ่านเข้าสุมไฟใส่เข้าไปให้เยอะ ๆ “ไอ้ลูกเลว ทำสะใภ้ข้าหาย เจ้าต้องรับผิดชอบ นางตัวคนเดียวลูกอีกสองคน เดินทางระหกระเหินข้างนอกจะปลอดภัยหรือไม่ ตระกูลไป๋ก็ประกาศไม่รับสตรีหม้าย ทุกอย่างมันเป็นเพราะเจ้าทำทั้งนั้น สะใภ้ข้า เล่อเอ๋อร์ หลินเอ๋อร์ จะเป็นอย่างไรบ้าง” หลังจากที่บิดากล่าวตำหนิ มารดาสั่งสอน คล้ายว่าเขาสมองเลอะเลือนไปหรืออย่างไร ปากกว่าโกรธ ว่าเกลียดนางที่วางแผน สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างเป็นนางที่ยินดีทำทั้งหมดด้วยเพราะรัก พ่อบ้านฝูเดินปาดเหงื่อมาพบฮูหยินใหญ่ กางรายงานยาวเหยียดจนเสียจนหลิวซื่อขมวดคิ้วไม่พอใจนัก “แก่จนป่านนี้แล้ว ยังจะต้องให้ข้ามานั่งทำอีกรึ” นางบ่นตามประสาคนห่างมือมานานแล้ว แม่ทัพจ้าวได้ยินเพราะเดินผ่านพอดี ยังไม่ทันจะเข้ามา ก็ถูกมารดา แผดเสียงใส่ “เห็นรึไม่ มันเป็นเพราะเจ้า ข้ามีสะใภ้ดี ๆ อยู่ทั้งคน เป็นเจ้าออกปากดุด่าว่าร้ายนาง เห็นหรือไม่ สุดท้ายแล้ว คนแก่เช่นข้ายังต้องมานั่งทำงานอีก ไอ้ลูกไม่รักดี” “ท่านแม่ งานง่าย ๆ แค่นี้เอง ไม่เห็นจะยากสักนิด” เขากล่าวขึ้น เหลือบมองรายงานวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะนั่น ทั้ง ๆ ที่เขาร้อนใจจะออกตามหาภรรยา แต่ก็ต้องแวะมาซักถามเสียก่อน เห็นหน้ามารดาราวกับมีกองเพลิงสุมอยู่นั่น ทำให้เขานึกหวาดกลัวไม่เอ่ยปากถามเสียดีกว่า “ถ้ามันง่ายนัก เจ้าก็มานั่งทำดูสิ ไอ้ลูกโง่ โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก” หลิวซื่อก่นด่าเป็นชุด ด้วยเพราะไม่พอใจมากโข ดวงตาของนางก็เริ่มมัวแล้ว มองอันใดก็ไม่ค่อยชัดแจ่มแจ้งเหมือนก่อน โชคดีมีสะใภ้ดี นางอุทิศตนดูแลจวนเป็นอย่างดีเสมอมา ทำให้พวกนางรักและเอ็นดูนัก ทั้งยังมีหลาน ๆ ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจอีก แต่ทว่าพอแม่ทัพจ้าวกลับมา ในจวนนี้จากที่เคยเงียบสงบกลับรุกราวกับมาเปลวเพลิงเสียอย่างนั้น สะใภ้หนีหาย หลาน ๆ ไม่อยู่ ในจวนก็เงียบเหงานัก แม้จะไม่อยู่ไกลสักนิดก็รู้สึกว่ามันอ้างว้างไม่เหมือนก่อนเสียแล้ว จ้าวหย่งคังไม่เข้าใจนัก “ท่านแม่ข้าจะไปตามหาสะใภ้ให้ท่าน” “ลงนามหย่าเสียอย่ามัวอืดอาด” ชายชรากล่าวขึ้นมาทันใด ลูกชายยังถือหนังสือหย่าเอาไว้มือ ไม่ยอมลงนามยังคงทำเพียงแค่เดือดร้อนเพียงแค่นั้น “หย่ากับนางซะ เจ้าจะได้แต่แม่นางถังอย่างไร เจ้ารักใครแม่ก็ยินดีรับมาเป็นสะใภ้ แต่แม่ก็คงไม่ให้อยู่รวมชายคาเดียวกัน แต่เสร็จจะไปอยู่ที่ไหนก็เชิญ ถือเสียว่าตัดขาดกันนับตั้งแต่นี้” “นี่พวกท่านกดดันข้า ดีใจหรืออย่างไรที่นางขอหย่า” หย่งคังกรุ่นโกรธทั้งบิดาและมารดา พวกเขาทั้งสองเหตุใดจึงไม่ร้อนใจเหมือนเขา “ดีใจสิ จะไม่ดีใจได้อย่างไร อยู่กับคนไร้หัวใจจะอยู่เพื่อ!” หลิวซื่อกล่าวจบก็ปาค้อนวงใหญ่ใส่ให้ลูกชาย จนแล้วจนรอดก็โง่งมอยู่ดี ไม่ยักรู้ว่าไม่ตายในสนามรบ แต่มาตายน้ำตื้น ๆ เช่นนี้ช่างน่าขันยิ่งนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD