ตอนที่ 8

1232 Words
8 “อย่าแส่เรื่องของข้า เพราะเจ้ายังไม่ได้เป็นภรรยาของเขา เพราะฉะนั้นจงหุบปากเน่า ๆ ของเจ้าเสียไม่อย่างนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน!” ฟางหรงสิ้นสุดความอดทน การเป็นภรรยาที่ดีไม่ช่วยอะไรจริง ๆ “ท่านแม่ทัพดูพี่สาวสิ นางกล้าข่มขู่ข้าอีกด้วย นางช่าง...” ม่านชิงไม่ยอมให้อีกฝ่ายโต้ตอบนางเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่านางจะกล้าตีปากตอกหน้ากลับมา จึงทำให้นางเต้นเร่า ๆ ด้วยความกรุ่นโกรธ “เอาน่า เจ้ากลับไปห้องก่อน เดี๋ยวข้าจะเข้าวัง” ด้วยเพราะเห็นแล้วว่านางกำลังเปลี่ยนไป เด็กน้อยคนนั้นของเขาได้หายไปแล้ว ยามนี้มีเพียงแค่ความแข็งกร้าวและเย็นชา ฟางหรง เดินออกมาพร้อมกับหนังสือและยังมีสมุดอีกหลายเล่มถูกเย็บเข้าด้วยเชือก แต่ละเล่มนั้นหนามาก ๆ ก็ว่าได้ เมื่อเห็นแผ่นหลังของนางคล้ายว่ารีบเร่ง ตัวเขาเองก็ไม่อยากพูดให้มากความ จึงได้เดินไปยังคอกม้าเสีย คิดจะไปยังวังหลวงกราบทูลรายงานและขอพักผ่อนอยู่ที่เมืองหลวง จากนั้นก็จะแต่งงานถังม่านชิง จู่ ๆ ในหน้าอกของเขาก็รู้สึกวูบไหวแปลก ๆ เหมือนมีบางอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า นึกถึงถ้อยคำของนางที่กล่าวว่า หลังจากเดือนเอ้อร์เยว่ไปแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้นมาเอง เขานึกถึงใบหน้าของลูกสาวยามควบม้าออกมาจากจวนยิ่งนัก ดวงหน้านั่นน่ารักเป็นไหน ๆ แก้มของนางแดงระเรื่อ แต่งตัวก็ดูน่ารักรัดผมเป็นก้อนสองข้างทำให้เขาอยากปกป้องนางใจจะขาด ติดแต่ปากมันดีนี่สิทำให้ลูกสาวต้องเสียใจ ฟางหรงเดินออกมาจากห้องครัว แม้อากาศจะหนาว นางก็ช่วยเหล่าแม่ครัว ลงมือปรุงอาหารให้เหล่านักรบแดนเหนือให้กินอย่างอิ่มหนำสำราญใจ ทั้งอาหารผลไม้และขนม ถูกจัดเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย นางไปช่วยแม่ครัวตักอาหารให้ชายหนุ่มกลัดมันทั้งหลายถึงที่ แม่ทัพจ้าวนึกขึ้นได้ว่าจะต้องลากตัวของรองแม่ทัพไปด้วย จึงได้ควบม้ากลับไปยังที่พักผ่อนของเหล่าพี่น้องที่ร่วมรบกันมาหลายปี ในนั้นมีแต่เหล่าคนสนิทชิดเชื้อ แต่ทว่าทันทีที่เขาลงจากอาชาแล้ว ก็พบว่าเหล่าพี่น้องยืนรุมสตรีนางหนึ่งที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดี เขาเดินเข้าไปกลางวง มองนางด้วยความไม่พอใจ นางยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้ชายไม่เขินอายกระมิดกระเมี้ยนสักนิด แต่กลับกันยังหัวเราะอีกด้วย จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไรกันเล่า “มาทำอะไรตรงนี้ กลับไปที่เรือนเสีย” “ก็ไม่เห็นรึไง รึว่าท่านตาบอดกันแน่ ข้ามาดูแลเหล่าพี่น้องของท่าน นำอาหารมามอบให้ ดูแลพวกเขาดั่งเครือญาติเช่นนี้ ยังจะมาต่อว่าข้าอีกนะ ช่างไม่มีหัวคิด! สมองของท่านคิดอ่านอันใดอยู่ รึคิดเพียงแค่ว่าจะแต่งแม่นางถังม่านชิงเมื่อไหร่ดี” ฟางหรงเชิดหน้าน้อย ๆ ของนาง วางอุปกรณ์ลงแล้วถลึงตาใส่เขา แววตาของนางหาได้หวาดกลัวและตระหนกตกใจไม่ มีแต่ความห่างเหินและเย็นชาใส่เขาเข้ามาอีก แววตานี่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน กลับทำให้เขาร้อนรุ่มทุกข์ใจนัก “ออกไป อย่าเข้ามาในนี้อีกไสหัวเจ้าออกไป!” ท่านแม่ทัพตะคอกเสียงใส่นาง จนทำให้เหล่าพี่น้องทหารทั้งหลายไม่พอใจนัก แต่เห็นว่าเป็นเรื่องของผัวเมีย พวกเขาจึงเก็บปากเงียบเอาไว้ ฟางหรงถอนหายใจ แย้มยิ้มขึ้นมา นางกล่าวน้ำเสียงหวาน ดวงตาคู่งามสั่นระริกเต็มไปด้วยความเสียใจ นางระบายยิ้มอ่อนหวานให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงแล้ว นางมองใบหน้าของชายที่นางรักยิ่งกว่าชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่นางจะตัดสินใจบางอย่าง ครั้งนี้นางพูดกับเขาดี ๆ หวังว่าเขาจะอ่อนลงให้นางบาง “ท่านแม่ทัพกลับเรือนกับข้าสักครู่ได้หรือไม่” “ยังจะใช้ลูกไม่อะไรอีก สตรีอย่างเจ้าช่างเจ้าเล่ห์มารยานัก” สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกจะดูแคลนนางเช่นนั้น ทนต่อไปก็ไม่มีความหมายอันใดสำคัญอีกแล้ว ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดสะบั้น นับแต่นี้ต่อครึ่งชีวิตของนางก็เลือกเดินที่จะไม่มีเขาตลอดกาล “สุดท้ายแล้วเป็นข้าที่ดื้อดึง ขอบคุณท่านแม่ทัพที่รักและเอ็นดูข้า นับแต่นี้ข้าจะดูแลตนเองมิให้ท่านต้องเดือดร้อนขุ่นมัวเพราะข้าอีก เชิญท่านไปทำธุระเถิดเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะกลับเรือนแล้ว” ฟางหรงเดินกลับเข้ามาในจวนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก มือข้างหนึ่งยังคงมีสาวใช้ประคองนาง ระหว่างที่เดินทางกลับมา อากาศข้างนอกก็หนาวเหน็บ ร่างกายของฮูหยินก็เจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง ต้องทำมาทำงานหนัก ๆ เช่นนี้อีก สาวใช้ของนางคืออาชุน ติดตามดูแลนางตั้งตระกูลไป๋ จวบจนย้ายมาอยู่ที่จวนตระกูลจ้าว “ฮูหยิน อย่าว่าข้าสอนเลยนะเจ้าคะ อยู่ไปก็รังแต่จะเจ็บปวด” อาชุนไม่พอใจนัก สีหน้าของนางหาได้ยิ้มแย้มไม่ มีเพียงแต่ความไม่พอใจอยู่มากโข “ข้ารู้ดีเจ้าค่ะ” เพียงแค่พูดก็เหมือนจะหมดแรงลงได้ทุกเมื่อ “เดี๋ยวเช่นนั้นก็คงจะต้องเก็บของเตรียมตัวย้ายแล้ว” นางคิดดีแล้ว และคิดมาตลอดทั้งคืนแล้ว “อีกหน่อยท่านแม่ทัพแต่งงานก็ย่อมมีลูกของตนเอง” ฟางหรงกล่าวขึ้น ลูก ๆ ของนางก็คงจะยินดีหากว่าย้ายไปอยู่ที่อื่น จะได้ไม่ต้องทนเห็นบิดามารดาทะเลาะเบาะแว้งกันเช่นนี้ “ที่จวนทุกอย่าง ข้าจัดการเอาไว้แล้ว” ฟางหรงรูปร่างผ่ายผอมนัก เพียงแค่แรงลมปะทะนางก็อาจจะล้มลงได้ทุกเมื่อ นางกินน้อย นอนน้อย หน้าหนาวทีไรนางก็จะป่วยอยู่เสมอ หลังจากคลอดลูกทั้งสอง สุขภาพของนางก็ไม่แข็งแรงนับจากนั้นเป็นต้นมา นางไม่เคยใส่ใจดูแลบำรุงร่างกายของตนเองสักนิด ใช้เวลาดูแลลูก ๆ สองคน เด็กแฝดคู่นี้นอนยาก และไม่กินนมแม่นมอีกด้วย นางดูแลตั้งแต่คลอดเอง ทำเองทุกอย่าง จะเอาเวลาไหนมาดูแลตนเอง พ่อแม่สามีก็ชรามากแล้ว พวกท่านช่วยดูแลได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น เด็กน้อยทั้งสองไม่เคยต้อนรับใครก็ว่าได้ หากมีใครที่ไม่คุ้นหน้าเข้ามาอุ้มก็มักจะส่งเสียงร้องไห้เสมอ เวลานอนแขนทั้งสองข้าก็มักจะมีเด็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ นางก็หวังเพียงแค่สามีได้รับรู้ จดหมายที่ส่งไปก็ไร้ซึ่งการตอบกลับมา ระหว่างที่ฟางหรงกำลังจะเข้าเรือนนอน เป็นถังม่านชิงยืนขวางทาง คล้ายว่ารอมานานแล้ว สีหน้าบึ้งตึงและยังกล่าวขึ้นมาว่า “เมื่อไหร่พี่สาวจะหยุดดื้อดึงเสียที หย่ากับท่านแม่ทัพเสีย อย่ารั้งตำแหน่งที่ไม่ใช่ของท่านอีกต่อไปเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD