6
ฟางหรงกระชับเสื้อคลุมขนจิ้งจอกขาวเอาไว้ นางเดินก้มหน้า เพียงแค่ไม่อยากพบหน้าคนใจร้ายอีกครั้ง แต่ในจังหวะที่นางเดินคล้ายว่าเบี่ยงตัวและหลบสายตา ทำให้หย่งคังรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังแปลกไป
“ลูกชายข้าเขาชอบกินอะไร” ไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงเลือกข้ออ้างเป็นลูกชายขึ้นมา เพียงแค่มองนางชัด ๆ เหมือนว่านางผอมลงมาก ใบหน้าซีดอยู่ตลอดเวลา คล้ายกับนางอิดโรยและอดนอน
“...” ฟางหรงคร้านจะพูดกับคนใจดำ นางจึงเลือกเมินเฉยและเย็นชาใส่เขา ไม่หยุดแม้แต่ที่เขาซักถามนาง ทำได้เพียงแค่เดินผ่านด้วยความอันใจอันร้าวราน
“ไม่ได้ยินที่ข้าถามเจ้ารึไง” น้ำเสียงเข้มขึ้นมาเล็กน้อย แววตาของนางรักใคร่เทิดทูนเขาไม่มีสักเสี้ยวในดวงตาที่นางมองกลับมา
“ได้ยิน แต่ไม่อยากตอบ” น้ำเสียงเย็นเหยียบนั่นได้กล่าวออกไป เดินตัวตรงไม่มีความหวั่นไหวใด ๆ อีกแล้ว สายตาของนางแน่แน่วคิดจะไปยังเรือนของตน แต่ทว่าคล้ายว่านางกำลังยั่วยุให้เขากรุ่นโกรธ
จ้าวหย่งคัง คว้าข้อมือของนางมา จากนั้นกระชากร่างบอบบางที่ล้มได้ทุกเมื่อ นางหวีดร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ร่างเล็ก ๆ ของนางถลาเข้าแนบแผงอกของสามีอย่างจัง มือหนาจับปลายคางเชยขึ้น แววตาดุร้ายนั่นเหมือนนายพรานกำลังจะง้างธนูล่าเหยื่อ
“ปล่อยข้านะ” นางแผดเสียงออกไปและดิ้นรนขัดขืนการกระทำที่โหดร้ายนั่น
“ทำเป็นเล่นตัว เมื่อก่อนเป็นเจ้าวางยาไม่ใช่รึไง ถึงได้มีลูกให้ข้า คราวนี้ไม่ต้องพึ่งยา เช่นนั้นก็ทำลูกให้ข้าอีกคนจะเป็นไรไป” น้ำเสียงแข็งกระด้างพ่นคำพูดไม่น่าฟังเป็นไหน ๆ
ฟางหรงไม่พอใจ ตวาดเสียงใส่ชายใจร้ายคนนี้ ดวงตาคู่งามมีแต่ม่านน้ำตาปกคลุมอยู่ “เลวทราม ป่าเถื่อน” เขาใจร้ายกับนางยังไม่พอ ยังคิดจะข่มเหงรังแกนางอีกหรืออย่างไรกัน
“ใครจะมารยาเช่นเจ้าเล่า” เขาต่อปากต่อคำใส่นาง และก็ปล่อยนางให้ยืนประชันหน้าเขาอีกครั้ง แววตาของนางไม่มีแล้วสายตาที่อบอุ่น มีเพียงแค่สายแห่งความชิงชัง ทำให้เขารู้สึกวูบโหวงแปลก ๆ
“เชิญไปอยู่กับว่าที่ภรรยาของท่านเถอะ หากไม่รักไม่เห็นใจกันก็เชิญหลีกทางให้ข้า” นางตัดพ้ออีกครั้งเพียงแค่เล็กน้อย จึงได้เร่งฝีเท้าเดินหนี แต่ก็ไม่เป็นผล
จ้าวหย่งคังคล้ายถูกยั่วยุ ปากเล็ก ๆ ของนางช่างต่อว่าต่อขานเขาเสียจริง เขาจึงกระชากร่างของนางเข้ามาครั้ง คราวนี้เขาบดเบียดริมฝีปากหยักลงมาที่กลีบปากนุ่มนิ่มของนาง ความหวานหอมนี้ครั้งหนึ่งเป็นของเขาเมื่อนานมาแล้ว
ฟางหรงตาเบิกกว้างเมื่อถูกเขารุกรานปลายลิ้นเข้ามา นางเผยอปากขึ้นเล็กน้อย กำลังดิ้นหนีมือหนาของเขาแต่ก็ดูไร้วี่แววจะต่อต้าน ดังนั้นเองนางจึงกัดเข้าไปยังปลายลิ้นสากนั่น
“โอ๊ย!” เขาร้องอย่างตกใจเพราะเจ็บเมื่อถูกนางกัดปลายลิ้นเข้าให้
ฟางหรงเท้าเอวท่าทางอวดดีโอหังเสียเหลือเกิน “แค่กัด มันยังน้อยไป อย่าคิดข่มเหงข้าให้มันมากนัก รักนักรักหนามิใช่หรือไรแม่นางถังของท่าน หากอดอยากนักก็ไปสมสู่กับนางเสียสิ” กล่าวจบไม่ฟังเสียงอีกฝ่าย นางสะบัดหน้าเดินหนี มือนุ่มยกขึ้นมาทาบทับกลางหน้าอก
เขาจะรังแกนางไปถึงเมื่อไหร่กัน ในไม่ช้าเขาก็มีภรรยาใหม่ เขาคิดจะย่ำยีใจนางอีกครั้งอีกหน เขาไม่ควรจะเป็นลูกผู้ชายเสียด้วยซ้ำไป ฟางหรงเดินกลับเรือนนอนด้วยน้ำตาที่มันก็ไหลลงมาโดยที่นางไม่ต้องการสักนิด
ตะเกียงน้ำมันถูกจุดขึ้นในห้องของนางหลายอัน นางเดินไปยังโต๊ะตัวหนึ่ง บนโต๊ะตัวนั้นมีบัญชีรายรับ และรายจ่าย ยังรวมถึงบัญชีของกำนัลที่จะมอบให้บรรดาญาติพี่น้องและยังมีซองแดงที่จะต้องมอบให้เด็ก ๆ ในวันชิวอิกที่จะถึงในไม่ช้านี้
กว่าจะได้นอนก็เกือบจะรุ่งเช้าของอีกวัน นางงีบหลับไปเพียงแค่ไม่นาน เสียงของสาวใช้ก็ปลุกให้นางตื่นเสียแล้ว และวันนี้นางตื่นสายจนไม่ได้เตรียมสำรับตอนเช้าให้มารดาและบิดาสามี จึงแจ้งให้สาวใช้ไปบอกพวกท่านทั้งสอง
ห้องโถงใหญ่เรือนด้านหน้า วันนี้มีอาหารสีสันน่ากินนัก มีผัด มีน้ำแกง และมีขนม ฝีมือเป็นของแม่ครัวคนเดิม แต่ทว่ามีเสียงหนึ่งดังออกมา “ท่านปู่ ท่านย่า ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงดุจกระดิ่งหยกดังขึ้นมา
ผู้ที่ถูกกล่าวถึงลุกขึ้นยืนทันใด แม่ทัพจ้าวยังคงงุนงงไม่เข้าใจ จู่ ๆ ดรุณีตัวน้อยสวมชุดสีฟ้าอ่อนวิ่งเข้ามาอย่างไม่สำรวมนัก นางวิ่งพุ่งเข้ามาหาท่านปู่ก่อน โอบกอดพลางหอมแก้มอีกด้วย จากนั้นก็ตรงมายังท่านย่าของนาง กระทำเหมือนท่านปู่ไม่ผิดเพี้ยน
เมื่อหอมแก้มผู้สูงวัยแล้ว นางจึงนึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้เหมือนมีคนแปลกหน้าที่นางไม่เคยพานพบ นางหันกลับไปมองก็เห็นเขานิ่งอึ้งในมือถือตะเกียบเอาไว้
จ้าวฟางหลินแฝดน้องที่น่ารักน่าเอ็นดู นางฉลาดเฉลียวเป็นไหน ๆ และยอบกายลงอย่างงดงาม “คารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ ข้าจ้าวฟางหลิน” นางแนะนำตัวเสร็จสรรพ ตะเกียบในมือแม่ทัพหล่นลงพื้นทันใด เขาลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ
“ลูกสาวของข้า” แม่ทัพจ้าวหย่งคังตาเบิกกว้างขึ้นมา
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของเด็กน้อยกล่าวขึ้นมาอีก จ้าวหย่งเล่อไม่ปล่อยผ่าน “น้องสาวข้าหาใช่ลูกของท่านแม่ทัพไม่ หลินเอ๋อร์ ไปพบท่านแม่ก่อน อย่าได้อยู่สูดดมอากาศร่วมกับคนใจร้าย”
ฟางหลินคล้ายว่ารู้ความนัก “คนใจร้ายที่พี่ใหญ่กล่าวถึง คือท่านแม่ทัพหรอกรึ ข้าหลงดีใจที่มีบิดาแล้วเสียอีก” สีหน้าของนางผิดหวังนัก
ผู้สูงวัยกลั้นหัวเราะแทบจะไม่ไหว เมื่อหลานชายพูดจาเข้าหูนักเชียว และยังมีฟางหลินอีกคน พวกเขาทั้งสองต่างเป็นที่รักใครเอ็นดู และยังถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดีอีกด้วย ฟางหลินน่ารักอ่อนหวาน แต่อย่าให้นางร้ายขึ้นมาเชียว นางจะงัดทุกมารยาทขึ้นมาจัดการอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น
“ข้าผิดหวังนัก ผิดหวังจริง ๆ ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพจ้าว”
จ้าวหย่งคังหน้าชาทั้งตัวแข็งทื่อ เมื่อเพิ่งจะพบว่าเขามีลูกสาวอีกคน ถังม่านชิงร้อนใจนัก นางดึงท่านแม่ทัพที่เห็นว่าชะงักงัน “ท่านแม่ทัพ นั่งลงกินข้าวต่อเถิดเจ้าคะ”