หลายอาทิตย์ต่อมา...
ฉันไม่รู้ว่าเวลาที่ทุกคนมีความสุขนั้น ทุกคนหลงระเริงกับมันนานแค่ไหน แต่สำหรับฉันแล้วในตอนนี้ฉันมีความสุขมาก และยังคงหลงระเริงอยู่กับสิ่งนี้ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของฉันกับอิทธ์มันไม่ได้ดีขึ้นหรอก แต่มันทำให้ฉันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
อย่างตอนนี้ที่เขานอนอยู่ข้าง ๆ ฉัน ก็ตามนั้นสถานะของฉันกับเขาคือเพื่อนนอน เรามีสัมพันธ์กันหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความต้องการ ในตอนนี้ฉันไม่เห็นว่าเขาควงผู้หญิงคนไหนหรือพาผู้หญิงคนไหนมาห้องของเขาเท่ากับว่าตอนนี้เขามีแค่ฉันคนเดียว
อิทธ์เวลานอนหลับเขาเหมือนคนไม่มีพิษมีภัย หลับตาพริ้มแบบนี้แล้วทำให้ฉันกล้ามองเขาไม่วางตา นานมากแล้วที่เราอยู่กันอย่างนี้ อิทธ์ไม่ได้ย้ายออกไป เขาบอกว่าเขาไม่ได้งานแล้ว
ส่วนฉันก็ยังไม่มีงาน
ใช่
ไม่มีอีเมลตอบกลับฉันเลยสักบริษัท อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงจบใหม่ของหลาย ๆ คนและหลาย ๆ มหา’ลัยตัวเลือกก็คงเยอะตามไปด้วย ฉันก็อาจจะต้องรอในช่วงที่คู่แข่งไม่เยอะ อืม...ก็คงต้องรอต่อไป
ส่วนอิทธ์เห็นบอกว่าไม่อยากทำงานตามสายที่เรียนแล้ว ฉันไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาพูดแบบนี้ออกมา อยู่ ๆ เขาจะทิ้งปริญญาแบบนี้มันทำให้ฉันตกใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่เห็นบอกว่าสมัครไปก็ไม่มีใครรับเขา ซึ่งฉันก็ไม่เชื่อเขาก็เลยเปิดอีเมลให้ฉันดู ขนาดอิทธ์เกรดสูงผลงานดีขนาดนี้ยังถูกปัดตกเลย แล้วฉัน...
จะเหลือเหรอ
“อืม~” เสียงครางในลำคอของอิทธ์ทำให้ฉันข่มตาปิดลงเพราะเขากำลังรู้สึกตัวตื่น ก่อนที่เขาจะยกลำแขนแกร่งขึ้นมาพาดที่เอวของฉันพร้อมกับดึงตัวของฉันเข้าไปกอดราวกับว่าเป็นหมอนข้าง
ความรู้สึกแนบชิดอิงกายแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเริ่มจะคุ้นชินแม้ว่าใจจะยังเต้นแรงเหมือนเดิม และยิ่งเป็นลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่เป่ารินรดศีรษะของฉันแล้ว มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“เธอ...ตื่นแล้วใช่ไหม” ฉันชะงักไป เขาก็คงรู้แหละ เพราะฉันก็ดิ้นพอสมควร ก่อนที่ฉันจะตอบกลับเขา
“อืม...” ทว่า
“ไปสระผมเดี๋ยวนี้ หัวโคตรเหม็น”
“ห้ะ อะไรนะอิทธ์”
พลั่ก!
ฉันผลักร่างหนาออกจากตัวของฉันซึ่งเขาก็หัวเราะออกมาให้กับท่าทีของฉัน
“ฉันพูดผิดตรงไหน”
“ไม่ผิด แต่...ฮึ่ย!” ฉันว่าพร้อมกับหายใจฮึดฮัดไม่พอใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปรั้งศีรษะของเขาเข้ามาดมหัวฉันให้กลิ่นเหม็น ๆ ที่เขาว่านั้นมันเข้าไปในปอดของเขาให้เต็มปอด
“อ๊ากก~ เธอจะฆ่าฉันหรือไง!”
“เหม็นนักใช่ไหม...”
“พัดชา! หัวหรือระเบิดถังขี้” อิทธ์เหมือนคนจะขาดใจตาย ซึ่งถ้อยคำของเขานี้ทำให้ฉันอยากจะหมักผมไม่สระมาให้เขาดมบ่อย ๆ เลย
“ฮ่า ๆ เป็นไง หอมจนทนไม่ไหวเลยล่ะสิ” ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะร่าออกมาก่อนจะปล่อยมือออกจากผมของเขา ซึ่งผมเผ้าที่กระเซอะกระเซิงของเขานั้นทำให้เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งตื่นนอน
“ยัยบ้า ถ้าฉันตายไปจะทำยังไง”
“โถ่ มันไม่ทำให้นายถึงตายหรอกน่า”
“กลิ่นติดจมูกเลยว่ะพัด” ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่หัวฉันเหม็นจนกลิ่นติดจมูก แต่
“มองอะไรของเธอ”
“นายเรียกฉันว่าพัด...”
“แล้ว?”
“ก็...” มันดูสนิทกันน่ะสิ ฉันไม่ได้พูดประโยคหลังออกไป ซึ่งอิทธ์ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรให้มากความ เขาลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วก็เหมือนเดิม...เปลือยทั้งตัว
“นายช่วยใส่อะไรหน่อยได้ไหม ไม่งั้นก็เอาอะไรมาคลุมบ้าง”
“อะไรของเธอ ทำเป็นอาย”
“ก็...”
“หึ ฉันเห็นเมื่อคืนทั้งอมทั้งเลียไม่เห็นอาย แค่เห็นทำเป็นอาย”
“กรี๊ดด ยะ...หยุดพูดนะ” ฉันยกมือขึ้นปิดหู ซึ่งยิ่งฉันมีอากัปกิริยาแบบนี้เขาก็ยิ่งหัวเราะออกมา อิทธ์เดินเข้ามาหาฉันและฉันก็พยายามที่จะไม่ก้มลงไปมองอะไรที่มันแกว่งไปมาได้
“มานี่ ไปอาบน้ำฉันจะสระผมให้”
“นายทำให้ฉันขายหน้า” เขาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากและเดินเข้ามาช้อนตัวฉันขึ้นแนบอก
“หนักว่ะ”
“ปล่อยสิ”
“ไม่หรอก เธออาบน้ำเองเดี๋ยวเธอไม่สระผมอีก”
“หึ นายชอบคนหัวหอมเหรอ”
“อืม” เสียงของเขาทำให้ฉันเงียบไป ผมที่ยาวของฉันทำให้ฉันขี้เกียจสระผม และการมีเขาช่วยมันก็ดีเหมือนกัน...ดีมากเลยล่ะ
เวลาต่อมา...
“วันนี้นายไม่ไปทำงานเหรอ”
“อืม หยุด” ฉันยิ้มให้เขาเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับไปสนใจไข่เจียวที่อยู่ในกระทะ แม้ว่าอิทธ์จะเลือกทิ้งปริญญาแต่เขาก็ขยันทำงาน ไม่เลือกงานไม่ยากจนคงเป็นประโยคที่เหมาะกับเขา ตอนนี้เขาก็เลยทำงานในร้านคาเฟ่ และรับจ๊อบขับแกร็บ(การขนส่งเอกชน)ในบางเวลาส่วนฉันคือบุคคลว่างงานของจริง
“แล้วเธอ?”
“ก็คงออกไปหางานเหมือนเดิม”
“เห้อ...ฉันว่าเธอทำฟรีแลนซ์จะดีกว่า”
“ไม่หรอก เพราะถ้านายไม่ทำด้วยฉันก็ทำคนเดียวไม่ได้ ฉันไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น”
“อย่าดูถูกตัวเองสิวะ”
“ก็เพราะว่าฉันดูถูกนี่แหละ ก็เลยไม่ทำ แล้วทำไมนายไม่ทำกับฉันล่ะ เราก็ช่วยกันออกแบบก็ได้นิ”
“งานมันไม่ใช่แค่ออกแบบไงพัดชา ทั้งต้องติดต่อหาอะไรหลาย ๆ อย่าง เชื่อเถอะว่าการที่งานของเธอมีชื่อฉันอยู่ด้วยมันไม่มีใครซื้อโปรเจกต์ของเธอหรอก” ฉันขมวดคิ้วให้กับสิ่งที่เขาพูด เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ทำไมการมีชื่อเขาจะทำให้งานของเราขายไม่ออก
“นายยังไม่ลองเลยนะ”
“หึ เธอไม่เข้าใจหรอก” ฉันพ่นลมหายใจออกมา แม้เราจะเป็นเพื่อนนอนกันจนถึงตอนนี้ที่เริ่มสนิทกันเรื่อย ๆ สิ่งหนึ่งที่ฉันพยายามทำคือการให้ความเป็นส่วนตัวของเขา อะไรที่เขาไม่อยากบอกฉันก็จะไม่เซ้าซี้ ส่วนอะไรที่เขาไม่อยากรู้ฉันก็อยากเล่าให้เขาฟัง
ย้อนแย้งชะมัด...ฉันเล่าหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวเอง ราวกับอยากนำเสนอตัวให้กับเขา
แต่ช่างเถอะ สนใจแค่ความสุขเราก็จะมีความสุขฉันคิดอย่างนั้น ดังนั้นอย่าสนใจเลยว่าอิทธ์เขาเหมือนกับว่ามีอะไรปกปิดฉันอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า
“พัด! พัดชา!”
“หือ?”
“ยัยบ๊อง ไข่ไหม้แล้วไม่ได้กลิ่นหรือไง” ร่างสูงเดินมาหาฉันหลังจากยืนพิงกรอบประตูห้องครัวนานสองนาน เขาเดินเข้ามาเอื้อมมือไปจับตะหลิวเพื่อพลิกไข่เจียวที่อยู่ในกระทะแต่การเอื้อมของเขามันไม่ต่างจากการโอบกอดฉันจะทางด้านหลัง เขาพลิกไข่เจียวอย่างรวดเร็วขณะที่ฉันยังคงห่อไหล่ด้วยความรู้สึกเขินอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“แบบนี้ค่อยหอมหน่อย” ฉันหันไปมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองไข่เจียวที่อยู่ในกระทะ
“ก็ต้องหอมสิ ฝีมือทอดไข่เจียวของฉันเลยนะ”
“เปล่า ฉันหมายถึงผมเธอ สระผมแล้ว...หอมดี” ฉันชะงักไปในทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน ใจดวงน้อยของฉันมันกระหน่ำเต้นราวกับว่าดีใจให้กับคำเอ่ยชมของเขา ซึ่งอิทธ์เพียงแค่ยกยิ้มขึ้นก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องครัวขนาดเล็กนี้
ฉันส่ายศีรษะเบา ๆ เพื่อขับไล่ความคิดเพ้อฝันนั้นออกจากหัว ก่อนจะหันมาสนใจไข่เจียวต่อ แต่ไม่วายหัวสมองของฉันยังคงมีเรื่องที่เขาพูดอยู่
หอมอย่างนั้นเหรอ...
ว่าแล้วฉันก็ยกมือขึ้นจับปอยผมของตัวเองขึ้นมาดม ซึ่งมันก็หอมอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ความรู้สึกที่เป็นอยู่มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ในวันที่ไม่มีงาน ในวันที่เงินใกล้จะหมด แค่คำไม่กี่คำของเขา มันก็ทำให้ฉันมีความสุขอย่างน่าประหลาด
หลังจากที่ฉันกินข้าวเสร็จ ฉันก็มาแต่งตัวเพื่อออกไปสมัครงานข้างนอก ช่วงนี้คู่แข่งน้อยลงแล้ว หวังว่าดวงชะตาจะนำพาเรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิตของฉันบ้างนะ
“อิทธ์ นายจะนอนอยู่นี่หรือว่าจะกลับห้อง ถ้ากลับห้องนายอย่าลืมล็อกประตูให้ฉันนะ” ฉันเอ่ยพูดขึ้นขณะที่อิทธ์ก็นอนเล่นโทรศัพท์บนที่นอน
“แล้วก็...ไปส่งฉันหน่อยสิ”
“ขี้เกียจ แต่ไปรับได้อยู่”
“โอเค” ฉันไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา เขาก็ควรได้พักตามที่เขาพึงมี
“งั้น...บ่าย ๆ ไปรับที่สำนักงานใหญ่ของจีเอฟนะ...”
“ห้ะ!”
“หือ? มีอะไรหรือเปล่า” ฉันเอี้ยวตัวหันไปหาอิทธ์พร้อมกับเอ่ยปากถามออกไป ก็อยู่ ๆ เขาก็ร้องออกมาเสียงดังอย่างนี้ จะไม่ให้ฉันสงสัยก็คงไม่ได้
“เธอว่าที่ไหนนะ”
“จีเอฟไง” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากัน และใบหน้าที่เรียบตึงของเขาทำให้ฉันมึนงง
“ฉันอยากลองไปสมัครดูอีกครั้ง...”
“อีกครั้ง?”
“ช่ายย ฉันเคยสมัครไปแล้วสามรอบ”
“งั้นรอบนี้ก็เป็นรอบที่สี่?”
“ก็ใช่อีก”
“เธออยากทำงานที่นั่นขนาดนั้นเลย”
“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ใคร ๆ ก็อยากทำงานที่นั่น ถ้าฉันมีโอกาสทำงานอยู่ที่นั่น เท่ากับว่าชีวิตของฉันจะพลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยนะ เงินเดือนเด็กจบใหม่ก็สูง...ฉันจะสมัครจนกว่าฉันจะได้เลยล่ะ”
“หึ เธอไม่ได้หรอก...เสียเวลาเปล่า”
“ทำไมนายมั่นใจจัง”
“ก็เธอไปสมัครมาแล้วตั้งสามครั้งไง” ใบหน้านิ่งเรียบของอิทธ์ทำให้ฉันถอนหายใจออกมา
“ความพยายามของฉันไม่เคยสิ้นสุดหรอกนะ มันจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อฉันได้มัน” ฉันเอ่ยขึ้นน้ำเสียงหนักแน่น สุดท้ายแล้วแม้ฉันจะกลัวบริษัทใหญ่แต่พอได้เข้าไปเดินข้างใน สภาพแวดล้อมข้างในบริษัททำให้ฉันอยากก้าวเข้าไปทำงานที่นั่น
“เห้อ...” อิทธ์ถอนหายใจออกมาเหมือนกับว่าเบื่อหน่ายเรื่องที่ฉันพูดก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วถ้าไม่ได้งานเธอจะเร่ร่อนเดินสมัครงานอยู่อย่างนี้...เหรอ”
“ก็คงงั้น” ฉันหมุนตัวไปสบสายตากับเขา
“ฉันสวยหรือยัง”
“อืม”
“หือ? ตอบตรงจัง” อยู่ ๆ ฉันก็เขินออกมา คือที่ถามฉันก็แค่อยากจะเบี่ยงประเด็นไม่ให้เขาพูดเรื่องสมัครงานออกมา
“ก็ความจริง” อิทธ์ตอบหน้าตาย ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมามากกว่าใบหน้านิ่งเรียบของเขา
“หูยย~ มาจูบหน่อย” ฉันเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะยื่นใบหน้าไปหมายจะจูบปากเขา ทว่าเขาก็ยกมือขึ้นดันหน้าผากของฉันออก
“อะไรของเธอ เราไม่ได้เป็นแฟนกันไม่ต้องทำอะไรแบบนี้หรอก” สิ่งที่ได้ยินทำให้ฉันชะงักไป ก่อนที่ฉันจะตอกย้ำความคิดตัวเองว่าอย่าน้อยใจเพราะมันเป็นสถานะของเราที่ขีดไว้แค่เพื่อนนอน...แค่นั้นอยู่แล้ว
“แค่ล้อเล่นเอง” ฉันยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองด้วยความขวยเขิน
“งั้น ฉันไปก่อนนะ”
“อืม...”
“อวยพรให้หน่อยสักคำ”
“ตกลงเธออยากได้ที่นี่จริง ๆ?”
“ก็ใช่”
“ถ้าฉันอวยพรให้เธอได้ แล้วเธอได้จริง ๆ เธอจะให้อะไรฉัน” ดูเขาสิ เรื่องแค่นี้เขาก็ยังมีเงื่อนไขให้ฉัน
“ให้ทุกอย่างเลย ฮ่า ๆ” ฉันขำออกมา ยังไงดีล่ะ ฉันสมัครมาแล้วสามครั้ง ก็แน่นอนว่ารอบนี้ก็น่าจะเป็นแบบเดิม ฉันเลยไม่กลัวว่าเขาจะขออะไร
“หึ เธอว่าเองนะ เดี๋ยวฉันจะเสกเวทมนตร์ให้เธอได้ก็แล้วกัน” ฉันขำออกมาให้คำพูดของเขาอีกครั้ง เสกเวทมนตร์เห