~ Intro ~
“ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301 ร่างแก้ไขให้หญิงตั้งครรภ์ซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ ไม่มีความผิด”
-พัดชา-
ในยุคสมัยปัจจุบันการตั้งครรภ์เมื่อพร้อมเป็นเรื่องสำคัญ และการตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อมก็ไม่ควรเกิดขึ้น
ฉันยืนมองคลินิกยุติการตั้งครรภ์ถูกที่กฎหมายอยู่ตรงหน้า หลังจากอายุครรภ์ของฉันเข้าเกณฑ์ฉันก็ยื่นประสงค์ขอยุติการตั้งครรภ์ทันที ฉันท้องได้ 10 สัปดาห์ หรือสองเดือนกับอีกสองอาทิตย์
“แกทำถูกแล้ว...พัด” ฉันกล่าวย้ำกับตัวเองก่อนจะก้าวขาเดินเข้าไป ใจของฉันมีบ้างที่เกิดอาการหน่วง ๆ ที่หัวใจ มันมีความรู้สึกผิดต่อเด็กในท้องที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่ฉันไม่อยากให้เขาเกิดมาแล้วพูดคำว่า ฉันเลือกเกิดไม่ได้ ก็เลยต้องทำทุกอย่างเหมือนกับฉัน ซึ่งมันแย่ยิ่งกว่าหากเขาบอกว่าฉันเลือกที่จะเกิดไม่ได้ และเลือกที่จะไม่เกิดก็ไม่ได้เช่นกัน
ฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เกิด ใช้ชีวิตเติบใหญ่ที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า มีหลายครั้งที่ฉันคิดมาตลอดว่าทำไมฉันถึงเลือกที่จะไม่เกิดไม่ได้ ทำไมฉันถึงเกิดมาแล้วต้องได้ยินว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ ไม่หรอก ในโลกความจริงคนไม่เงินแบบฉันเลือกที่จะเป็นไม่ได้ ไม่ได้เลย...
“เอ่อ มาตามนัดใช่ไหมคะ เชิญเข้าพบคุณหมอก่อนนะคะ” ฉันยิ้มรับพยาบาลที่เดินมาบอกฉันเพราะเห็นฉันทำตัวไม่ถูก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตรวจครรภ์
หลังจากที่มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์คลินิกทำแท้งถูกกฎหมายก็ผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด คลินิกนี้ก็เช่นกัน
“เชิญนั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวหมอขอตรวจประวัตินิดนึง” ฉันกำมือที่ชื้นเหงื่อก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับคุณหมอหนุ่มตรงหน้า
“เอ่อ ในนี้เขียนบอกว่าท้องมีพ่อไม่ใช่เหรอครับแล้ว เอ่อ...”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ” ฉันพูดขึ้นเพราะดูเหมือนคุณหมอจะไม่รู้ว่าควรแทนผู้ชายที่ทำฉันท้องนั้นว่าอะไรดี
“อ้อ โอเคครับงั้นผมแทนว่า นาย A นะครับ”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ
“ได้คุยกับนายเอแล้วใช่ไหมครับ แม้ว่าการตัดสินใจจะขึ้นกับคุณผู้หญิงที่เป็นเจ้าของร่างกาย แต่หากว่าท้องมีพ่อที่สามารถระบุตัวตนได้ควรคุยกันก่อน เพื่อป้องกันการฟ้องร้องในอนาคตนะครับ”
“อ้อ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เขาโอเค” ซะที่ไหนล่ะ จะโอเคไม่โอเคมันไม่ได้ขึ้นกับเขาแล้วล่ะ
เขาตั้งใจทำให้ฉันท้องก็จริง
แต่ความตั้งใจของเขามันมาจากการอยากเอาชนะ
“เอ่อ งั้นผมอยากให้คุณผู้หญิงอ่านทวนเอกสารที่กรอกมาอีกรอบก่อนนะครับ ค่อยเซ็นยืนยัน”
“ค่ะ” ฉันรับเอกสารที่ฉันยื่นเรื่องผ่านออนไลน์มาถือไว้ คลินิกที่นี่ทำงานเป็นระบบดีจังเลยนะ เตรียมพร้อมทุกอย่างเลย
“อย่าหาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ หลายเคสที่ท้องแล้วมีพ่อส่วนใหญ่มักคุยกันไม่ลงตัว พอถึงวันนัดทำจริงก็ปฏิเสธไปทางเราต้องเตรียมเครื่องมือนานน่ะครับ อยากให้คุณลองกลับไปคุยกันดี ๆ อีกรอบนะครับ”
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ” ฉันตอบออกไปโดยที่ไม่ได้ละสายตาออกจากเอกสารที่อยู่ตรงหน้า
“จริง ๆ แล้วเขามีสิทธิ์ในตัวเด็กนะครับ”
“คุณหมอคะ เท่าที่ฉันทราบคือกฎหมายตัวนี้เขาแก้ไขใหม่เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ในร่างกายตัวเองใช่ไหมคะ ดังนั้นฉันขอใช้สิทธิ์นั้นในการตัดสินใจค่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะยิ้มให้กับคุณหมอที่มองมา
“งั้น ผมขอโทษครับ” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นยืนยันความต้องการของตัวเอง
“งั้น หมอจะอัลตร้าซาวด์ดูเด็กก่อนนะครับ เท่าที่อ่านมาไม่มีประวัติฝากครรภ์มาก่อนนะครับ” ฉันพยักหน้ารับ ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้องก็เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“งั้นขึ้นเตียงรอหมอเลยก็ได้ครับ” ฉันทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่คุณหมอก็เดินออกไปข้างนอกห้องตรวจ ไม่รู้หมือนกันว่าไปไหน
ฉันยกมือขึ้นลูบท้องเบา ๆ แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ท้องได้สองเดือนแต่ท้องน้อยของฉันกลับนูนขึ้นมากแล้ว ซึ่งมันเป็นเหตุที่ทำให้ฉันสงสัยว่าตัวเองท้องเพราะท้องที่นูนขึ้นนี่แหละ
เขาว่ากันว่าความรักมักเอาชนะทุกอย่างได้ หากการท้องในครั้งนี้ของฉันมันเกิดจากความรักมันก็คงจะดี ฉันก็พร้อมจะกัดก้อนเกลือกิน เพราะฉันก็ยังเชื่อว่าคนจน ๆ แบบฉันก็สามารถมีลูกที่ดีได้ แม้สังคมจะไม่เห็นด้วยก็ตามแต่
แต่การท้องในครั้งนี้ของฉันมันเกิดจากผู้ชายคนหนึ่งที่คิดสั้น ๆ เพียงแค่อยากเอาชนะ เขาไม่ได้รักฉันแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าฉันรักเขามาก หากเขาจริงจังกับความสัมพันธ์ของเราสักนิดมันก็คงดี หากว่าเขาตั้งใจทำให้ฉันท้องเพราะอยากสร้างครอบครัวมันก็คงดี แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่
ครืดด ครืดด~
เสียงโทรศัพท์ของฉันที่จู่ ๆ ก็ดังขึ้นทำให้ฉันตกใจ แต่พอหันไปมองโทรศัพท์ที่ฉันวางไว้อยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็ทำให้ฉันเลือกที่จะไม่ยื่นมือไปคว้ามันมารับ
‘อิทธ์’
“ตื่นแล้วสินะ” ฉันพึมพำออกมาก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้องตรวจพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ และขณะนั้นเองที่คุณหมอได้เปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง
“โอเคครับ ช่วยดึงเสื้อขึ้นให้หมอด้วยครับ” ฉันทำตามที่คุณหมอบอกอย่างว่าง่าย ซึ่งคุณหมอก็พะวงอยู่กับเครื่องมือก่อนจะเอาเจลมาทาท้องของฉันพร้อมกับเอาเครื่องมืออะไรไม่รู้มาอัลตร้าซาวด์ให้ฉันดู
“ว้าว...”
“คะ?” ฉันหันไปมองหน้าจอมอนิเตอร์หลังจากที่อยู่ ๆ คุณหมอก็พึมพำออกมา
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ดูนี่นะครับ นี่เป็นถุงตั้งครรภ์ และนี่ที่กะพริบ ๆ อยู่เป็นหัวใจเด็กครับ” อะไรไม่รู้ดลใจให้ฉันกระตุกยิ้มออกมาราวกับกำลังดีใจกับสิ่งที่เห็น ซึ่งในความเป็นจริงฉันไม่ควรดีใจเสียด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวนะหัวใจงั้นเหรอแต่ทำไม...
“เอ่อ คุณหมอคะทำไมมันกะพริบ ๆ แบบนั้นถึงสามจุดเลยล่ะคะ” ฉันงงนะ ถ้าบอกว่าเป็นหัวใจ ซึ่งคนเรามีหัวใจกันคนละดวงแต่ทำไมมันกะพริบถึงสามจุดแบบนั้น
“หึ ดูตรงนี้นะครับ ไม่ใช่แค่หัวใจกะพริบสามจุด แต่ถุงตั้งครรภ์ก็มีสามถุงครับ”
“ห้ะ...”
“ครรภ์แฝดครับ แฝดสาม...”