ร้านอาหารที่คุณบอมบ์พามาเป็นร้านอาหารอิตาเลียนบรรยากาศเริ่ด อาหารก็เลี่ยนนิดๆสมชื่อตามความรู้สึกของฉัน เพราะคนมันลูกทุ่งนี่นา ถึงเรื่องรสนิยมทางการกินไม่ตรงกัน...แต่ดูท่าเรื่องของหัวใจพัชราภากับคุณบอมบ์คงตรงกันเด๊ะๆ
“คุณพัชชอบรสชาติอาหารร้านนี้ไหมครับ?”
“ชอบค่ะคุณบอมบ์ อาหารเขาอร่อยนะคะ”
ตอแหลอีกแล้วพัชราภา! เพราะอยากรักษาน้ำใจคนหล่อตรงหน้าแท้ๆเชียวพัชราภาจึงยอมผิดศีลข้อสี่(อีกแล้ว)
“ถ้าอย่างนั้น เรามาดินเนอร์ที่นี่ด้วยกันทุกสัปดาห์เลยก็แล้วกันนะครับ ผมชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนแต่ไม่มีเพื่อนมาทานด้วย”
มัดมือชกพัชราภาอีกแล้วค่ะคุณบอมบ์ขา... แต่พัชก็อยากตอบว่าโอเคนะคะๆ
“ถ้ามาดินเนอร์กับคุณบอมบ์ทุกสัปดาห์แบบนี้ พัชจะโดนสาวๆ ของคุณบอมบ์เอาเปลือกทุเรียนไปตบถึงที่ห้างรึปล่าวคะนี่?”
“ผมพึ่งกลับมาอยู่เมืองไทยไม่ถึงเดือน คุณพัชคือผู้หญิงคนแรกที่ผมมาดินเนอร์ด้วยตั้งแต่เรียนจบครับ”
คุณบอมบ์หยอดคำหวานอ่อยเหยื่อพัชราภาอีกแล้ว! อย่างนี้จะไม่ให้พัชราภาเขินได้ยังไงกันหนอ????
“คุณพัชล่ะครับ มีหนุ่มๆชวนไปดินเนอร์บ่อยไหม?”
“ก็ไม่บ่อยหรอกค่ะ” ตอแหลอีกแล้วพัชราภา! ก็ใครจะกล้าบอกความจริงล่ะว่านี่คือการดินเนอร์ครั้งแรกกับผู้ชายทั้งแท่งตั้งแต่เกิดมา (ไม่นับรวมนังปองศรีเพราะถือว่านางเป็นสปีชี่ส์สเปเชี่ยล )
“ผมขอสั่งห้ามคุณพัชดินเนอร์กับหนุ่มๆ นอกจากผมเอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในฐานะผู้บริหารหัวใจของคุณพัช... เป็นแฟนกับผมนะครับ”
ยัง! แค่คำพูดยังมัดมือชกไม่พอ คุณบอมบ์เอื้อมมือมากุมมือฉันทันทีหลังพูดจบ แล้วถอดแหวนตรงนิ้วก้อยมาสวมนิ้วนางข้างซ้ายที่เล็กเรียวของฉัน...
“ท่าทางคุณบอมบ์กับพัชคงไม่เหมาะสมกันมังคะขนาดแหวนยังไม่เป็นใจเอาซะเลย”
ฉันแย้งตามความเป็นจริง! พัชราภาคงวาสนาไม่ถึงแหวนเพชรตัวเรือนแพลทตินั่มราคาแพงลิบลิ่ววงนั้นเพราะมันหลวมโพรกใส่ไม่ได้แม้กระทั่งนิ้วกลาง!
โถ! ชีวิตจริงพัชราภามันไม่ได้สวยงามเหมาะเหม็งเหมือนละครหลังข่าวเอาซะเลย
“ไม่เป็นไรนะครับ วันหลังเราไปลดไซส์แหวนให้คุณพัชด้วยกันเพราะว่าแหวนวงนี้มีความสำคัญกับผมมาก มันคือแหวนแต่งงานคุณย่าที่ให้ผมเอาไว้หมั้นหลานสะใภ้ในอนาคต ผมคิดว่าผมหาหลานสะใภ้ให้ท่านได้แล้วครับ!”
“คุณบอมบ์!”
“คุณพัชเรียกชื่อผมบ่อยมากเลยวันนี้ กลัวลืมเหรอครับ”
“โธ่คุณบอมบ์คะ! แหวนวงนี้มีความสำคัญมากนะคะ... เรารู้จักกันได้ไม่นาน แถมยังไม่ได้คบหากันจริงจังคุณบอมบ์จะเอาของสำคัญมาให้พัชง่ายๆแบบนี้ได้ยังไงกันคะ?!!”
“ใครบอกว่าเรารู้จักกันได้ไม่นาน ผมรู้จักคุณตั้งแต่สมัยเป็นพนักงานขายด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าเจ้าแว่นตาหนาเตอะนั่นมันบดบังคุณเอาไว้! คุณเป็นคนที่พนักงานทุกคนรักและชื่นชมรวมถึงผมและคุณแม่ด้วย คุณพัชจะบอกว่าเรารู้จักกันได้ไม่นานนั้นคงไม่จริง”
“คุณจำพัชได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
ถึงคราวที่ฉันต้องอึ้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้ เหลือเชื่อที่คนระดับเซเล็บจะจดจำผู้หญิงแสนธรรมดาอย่างฉันได้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันได้แต่แอบมองแอบฝันถึงคุณบอมบ์เหมือนสาวๆ ทั่วไป ไม่เคยนึกฝันว่าเขาจะมองเห็นฉันในสายตาเลยสักนิดเดียว
“ผมต้องขอบคุณเจ้าแว่นตาหนาเตอะอันนั้นนะครับ เพราะว่ามันแท้ๆที่ทำให้คุณพัชโสดมาจนถึงป่านนี้”
“พอเถอะค่ะคุณบอมบ์ หวานกว่านี้พัชจะละลายแล้วนะคะ”
“โอ๊ย!!”
คุณบอมบ์ถึงกับร้องจ๊าก! เพราะฉันเผลอหยิกหมับเข้าที่หลังมือของคุณบอมบ์ด้วยความเขินอายสุดฤทธิ์
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ พัชลืมตัว”
“คุณพัชนี่มือหนักจริงๆ ในอนาคตยังไงก็เพลาๆ มือกับลูกของเราหน่อยนะครับ”
“คุณบอมบ์!”
คุณบอมบ์ทำฉันเขินอายจนแทบจะขดม้วนเหมือนเป็นตัวนิ่ม คนอะไรไม่รู้ปากหวานจีบสาวเก่งกว่าขุนแผนเสียอีก
"ส่งพัชแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”
“ขอผมไปดื่มกาแฟสักแก้วก่อนกลับนะครับ... รู้สึกหนังตาหนักๆ ยังไงไม่รู้”
“จะดีเหรอคะ... คอนโดพัชเล็กเท่ารูหนู พัชกลัวคุณบอมบ์จะรับสภาพไม่ได้” ฉันทำท่าอิดออดแต่พองาม ใจจริงก็อยากจะลากคุณบอมบ์ขึ้นไปทำมิดีมิร้ายเต็มแก่
“ผมรับคุณพัชได้ทุกอย่างครับ”
“คุณบอมบ์พูดจริงจังเชียว ถ้าอย่างนั้นก็เชิญค่ะ”
ลิฟท์อีแก่ขนาดเล็กพาเราสองคนขึ้นไปบนคอนโดสภาพร้อยปีของฉัน นึกอายเหมือนกันที่ต้องพาเศรษฐีพันล้านมาเยี่ยมห้องหับขนาดรูหนูของตัวเอง
“คุณบอมบ์ดื่มกาแฟอะไรดีคะ พัชมีแค่เอสเพรสโซ่ คาปูฯ?”
“ผมขอเอสเพรสโซ่ครับ”
“ห้องของคุณพัชก็น่าอยู่ดีนี่ครับ ตอนอยู่อเมริกาผมก็เช่าห้องขนาดนี้อยู่เอง ไม่ได้อยู่บ้านคุณพ่อ”
“กาแฟค่ะ... ขอบคุณที่พูดปลอบใจพัชนะคะ”
“ผมพูดความจริงเสมอครับ! อื้อ!กาแฟคุณพัชหวานจัง”
“ตายจริง! หวานเกินไปรึปล่าวคะ พัชลืมถามเรื่องน้ำตาล แต่พัชใส่ให้คุณบอมบ์แค่ครึ่งก้อนเองนะคะ”
“ถ้าไม่เชื่อคุณพัชลองชิมดูสิครับ”
“ไหนคะ... คุณบอมบ์ดื่มหมดแล้วนี่คะ!”
ฉันกำลังจะใช้ช้อนตักกาแฟในแก้วของคุณบอมบ์ แต่กลับพบว่ามันหมดแล้ว
“ต้องชิมตรงนี้ครับคุณพัช”
พูดจบคุณบอมบ์ก็จูบหมับลงบนปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มของฉัน กลายเป็นว่า ฉันต่างหากที่โดนคุณบอมบ์ชิม!