แพรไหมเดินขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง สภาพด้านในยังคงอยู่เหมือนเดิมในเช่นทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนที่เธอจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ กลิ่นหอมฟุ้งกระจายทำให้คนเดินทางไกลถึงจะผ่อนคลายเกณฑ์การลงบนเตียงนอนก่อนจะนึกถึงสิ่งที่เป็นพ่อของเธอกำลังสงสัยอยู่ และสิ่งนั้นมันคงจะต้องร้ายแรงเป็นอย่างมากเพราะไม่อย่างนั้นท่านคงจะเอ่ยปากบอกกับเธอไปเสียแล้วไม่แอบซ่อนปิดบังเอาไว้แบบนี้
"คุณพ่อกำลังปิดบังอะไรเราอยู่กันแน่"ยิ่งคิดยิ่งสงสัยก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางมาเป็นเวลานาน
การพักผ่อนเป็นเวลาหลายชั่วโมงของแพรไหมสิ้นสุดลงเมื่อเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการฝันร้าย ยากายปวดขึ้นตามกรอบหน้าและร่างกายรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้า ฝันร้ายในครั้งนี้มันช่างเหมือนจริงมาก งูเหลือมสีทองขนาดใหญ่กำลังเลื้อยไล่ให้เธอวิ่งเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางป่า ความใหญ่โตของมันทำให้เกิดความหวาดกลัวจนต้องรีบวิ่งหนี แต่ในที่สุดมันก็เหลือตามเธอทันจนได้ ด้วยความไม่ทันระวังทำให้เธอสะดุดล้มลงกับพื้น งูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยรัดตัวของเธอจนแน่นแทบหายใจไม่ออกสายตาของงูตัวนั้นมันกำลังจ้องมองมายังใบหน้าลิ้นสองแฉกของมันแลบออกมาตวาดไปทั่วกรอบหน้าของเธอจนเปียกชุ่ม เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่องูตัวนั้นเปล่งเสียงของมนุษย์ออกมา
'ในที่สุดผมก็หาคุณจนเจอ ที่รัก'งูตัวนั้นพุ่งเข้าฉกจนเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาซึ่งเป็นเวลาตกเย็น
"ฝันบ้าอะไรกันเนี่ย"ฝ่ามือเรียวลูบเม็ดเหงื่อบนใบหน้าของตัวเองออก สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาซึ่งอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาอาหารเย็น ร่างเพรียวบางยันกายลุกขึ้นจากเตียงนอนก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำชำระเหงื่อไคล
"อ้าวแจ๋ว นั่นเธอจะไปไหน"หลังจากอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนอนสบาย ๆ เสร็จ แพรไหมก็เปิดประตูห้องนอนออกมาซึ่งเป็นจังหวะเดี๋ยวกับแจ๋วกำลังเดินตรงมายังตัวเธอ
"อ๋อ แจ๋วจะมาตามคุณแพรกับคุณผู้ชายไปทานอาหารเย็นนี่ล่ะค่ะ"
"แจ๋วมีอะไรก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปตามคุณพ่อเอง"เพราะตอนนี้ท่านคงจะหมกตัวอยู่ในห้องทำงานซึ่งอยู่ถัดออกไปไม่ไกลจากห้องนอนของเธอ
"ก็ได้ค่ะ คุณแพรรีบลงมาเร็ว ๆ นะคะ แม่บ้านกำลังเตรียมโต๊ะอาหาร วันนี้ผู้ชายสั่งแม่ให้ทำแต่อาหารโปรดของคุณแพรทั้งนั้นเลยค่ะ"ริมฝีปากกระจับของแพรไหมถึงกับต้องยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ไม่ว่าวันเวลาผ่านไปนานกี่ปีพ่อคนนี้ยังคงเอาใจใส่คอยดูแลเธออยู่เสมอ ความรักที่ท่านมอบให้เธอไม่เคยลดน้อยลงและยังคงเพิ่มขึ้นมากในทุก ๆ วัน
ฝ่าเท้าเรียวสองเท้าภายใต้ในรองเท้าสลิปเปอร์ก้าวเดินไปยังห้องทำงานของผู้เป็นพ่อซึ่งอยู่ด้านในสุด ประตูห้องทำงานเปิดอ้าออกกว้างแค่เพียงเล็กน้อยทำให้แพรไหมซึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ได้ยินบทสนทนาของคนที่อยู่ด้านใน
"ผมขอเวลาอีกสักนิดได้ไหมครับคุณอลัน ตอนนี้ผมไม่มีเงินจริง ๆ "
"ถ้าคุณไม่มีเงินมาคืน คุณก็ต้องส่งตัวลูกสาวมาให้ผมตามสัญญาที่ได้ระบุเอาไว้นะครับคุณพิภพ"คนเป็นพ่อถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขากำลังถูกมัจจุราชหนุ่มกดดันโดยไร้หนทางหลีกหนี แต่เรื่องนี้จะไปโทษใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่เขา
"นะครับคุณอลัน ผมหาเงินไม่ทันจริง ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน อีกอย่างลูกสาวของผมก็ยังไม่กลับมาจากเมืองนอกผมคงส่งตัวลูกสาวของผมให้คุณไม่ได้"หนี้ เงินห้าสิบล้าน ส่งตัว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน แพรไหมเอียงหูแนบไปกับประตูเพื่อฟังบทสนทนาของผู้เป็นพ่อกับปลายสายอย่างเงียบ ๆ
"คุณคิดว่าผมโง่อย่างนั้นเหรอคุณพิภพ ลูกสาวของคุณเดินทางมาถึงเมืองไทยตั้งแต่เมื่อเช้า อย่าคิดจะมาหลอกคนอย่างผมเสียให้ยาก"อลันรู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของแพรไหม เมื่อเช้าลูกน้องของเขาได้รายงานว่าแพรไหมเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย
ส่วนพิภพถึงกับนิ่งไปเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ถึงความเคลื่อนไหวของครอบครัวเขาได้มากถึงขนาดนี้ นี่ก็เท่ากับว่าเขากำลังถูกซาตานร้ายต้อนให้จนมุม
"พรุ่งนี้ถ้าคุณไม่มีเงินคืนให้ผมจะส่งลูกน้องไปรับลูกสาวของคุณ และผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะไม่เล่นตุกติกกับผมนะครับคุณพิภพ"
ติ๊ด
อลันวางสายไปโดยไม่คิดจะให้พิภพได้พูดคัดค้านอะไรเลย ด้านแพรไหมทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหวอีกต่อไปจึงเปิดประตูเดินพุ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อซึ่งตอนนี้ท่านกำลังยืนหันหลังให้กับเธอ
"คุณพ่อคะ"
"แพรไหมลูก หนูเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่"คุณพิภพตกใจเมื่อได้ยินเสียงของบุตรสาวเรียกชื่อของตน เขาได้แต่ภาวนาไม่ให้ลูกสาวได้ยินบทสนทนากับปลายสายเมื่อครู่
"เหนื่อยไหมคะคุณพ่อ"แพรไหมมองไปยังผู้เป็นพ่อซึ่งมีสีหน้าตกใจเมื่อได้เห็นเธอ รองเท้าเดินเข้าไปหาท่านช้า ๆ นัยน์ตาสั่นไหวเมื่อได้เห็นสีหน้าของท่านในตอนนี้
"ไม่เหนื่อยเลยลูก พ่อไม่เหนื่อยเลย เราไปทานข้าวด้วยกันดีกว่านะ วันนี้พ่อสั่งให้แม่ครัวทำอาหารที่หนูชอบ"คุณพิภพรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวว่าลูกสาวจะจับพิรุธได้ แต่มันก็ไม่สามารถหลบคนหนีความจริงไปได้
"บ้านเราเป็นหนี้เหรอคะคุณพ่อ ทำไมคุณพ่อถึงไม่บอกหนู"
"พ่อขอโทษนะลูก พ่อขอโทษที่ทำให้หนูต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย"สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างให้บุตรสาวได้ฟังตั้งแต่ตอนแรกรวมไปถึงการเซ็นสัญญาโดยมีตัวของเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
"คุณพ่อเป็นหนี้เท่าไหร่คะ แพรพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง"เธอเรียนพร้อมกับทำงานไปด้วยจึงพอทำให้มีเงินเก็บอยู่บ้าง ส่วนเงินของผู้เป็นพ่อนั้นเธอจะเก็บไว้ใช้เวลายามจำเป็น
"ห้าสิบล้านลูก พ่อเป็นหนี้คุณอลันอยู่ห้าสิบล้าน"แพรไหมถึงกับหายใจติดขัดไม่นึกเลยว่าผู้เป็นพ่อของเธอจะมีหนี้สินมากมายถึงเพียงนี้
"พ่อต้องขอโทษหนูด้วยนะลูก เพราะพ่อแท้ ๆ ที่ทำให้ลูกต้องเดือดร้อนกับพ่อไปด้วย ส่วนเรื่องเงินพ่อจะหามาคืนคุณอลันเองลูกไม่ต้องเป็นห่วงนะ"เมื่อสิ้นสุดทางตันเขาคงจำเป็นต้องขายบริษัททิ้ง บริษัทที่เขากับภรรยาลงแรงลงทุนสร้างมันขึ้นมาเพื่อไม่ให้ลูกสาวเพียงคนเดียวที่ยังเหลือไม่ต้องตกไปอยู่ในน้ำมือของซาตานร้าย
"คุณพ่อจะไปหาเงินมาจากที่ไหนคะ เงินตั้งมากมายขนาดนั้น"
"พ่อคิดว่าจะขายบริษัท แล้วเอาเงินไปใช้หนี้คุณอลันเขาน่ะลูก"พิภพวางฝ่ามือลูบผมนุ่มสลวยของบุตรสาวเบา ๆ นี่คงเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับเขา
"ไม่ได้นะคะคุณพ่อ แพรจะไม่ยอมให้คุณพ่อขายบริษัทของคุณพ่อที่ร่วมสร้างกับคุณแม่โดยเด็ดขาด แพรไม่ยอม"แพรไหมส่ายหน้าปฏิเสธขั้นเด็ดขาด เธอไม่ยอมให้บริษัทซึ่งเป็นกิจการที่คุณแม่ของเธอรักซึ่งร่วมสร้างมากับคุณพ่อถูกขายไปโดยเป็นอันขาด
"ในเมื่อเขาต้องการตัวแพร แพรจะไปกับเขาเองค่ะ"
"แพรไหมลูก"พิภพส่ายหน้าน้ำตาเอ่อคลอ เขาไม่ต้องการให้ลูกสาวต้องไปอยู่กับซาตานร้ายอย่างอลัน
"แพรไม่เป็นอะไรค่ะ ไว้คุณพ่อมีเงินเมื่อไหร่ค่อยไปรับตัวแพรกลับมานะคะ แพรจะรอ"เธอจะไม่ยอมให้ทุกอย่างมันพัง ในเมื่อผู้ชายคนนั้นต้องการตัวเธอ เธอก็จะยินยอมไปกับเขา
"ขอบคุณมากนะลูกที่หนูยอมสละเพื่อพ่อเพื่อบริษัท หนูสัญญากับพ่อได้ไหมว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ๆ "ถ้าเขายอมส่งตัวลูกสาวไปอย่างน้อยก็ไม่ต้องขายบริษัทและเขาก็สามารถบริหารให้บริษัทกลับมาดีได้เหมือนเดิม
"คุณพ่อไม่ต้องขอบคุณหนูหรอกนะคะ เพราะมันเป็นหน้าที่ลูกอยากรู้ที่ต้องตอบแทนพระคุณที่คุณพ่อเลี้ยงดูหนูมา"ฝ่ามือใหญ่ของผู้เป็นพ่อคว้าดึงร่างของลูกสาวเข้าไปกอดด้วยความรัก แพรไหมเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่และเปรียบเป็นเสมือนแก้วตาดวงใจความรู้สึกของผู้เป็นพ่อนั้นได้แต่นึกกล่าวโทษตัวเองเมื่อเรื่องทั้งหมดมันต้องลงเอยแบบนี้
"หนูจะรอคุณพ่อนะคะ"ต่อไปนี้จะไม่รู้เลยว่าหนทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็พร้อมจะก้าวข้ามมันไปเพื่อที่จะได้กลับมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ ที่ชื่อว่าพ่อของเธอ
"นี่น่ะเหรอผู้ชายที่ชื่ออลัน คาร์สัน"น้ำเสียงเรียบนิ่งไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของคนกำลังนั่งดูรูปของเจ้าหนี้ผ่านหน้าจอโทรศัพท์หลังสอบถามผู้เป็นพ่อถึงประวัติเจ้าหนี้สุดโหด ดวงตากลมโตกวาดมองไปตามกรอบหน้าหล่อเขาของคนในรูป ริมฝีปากสวยยิ้มกว้างออกมาเมื่อสายตาประมวลถึงมัดกล้ามภายในร่มผ้า
"ผู้ชายแบบนี้สิที่เหมาะจะมาเป็นพ่อของลูกนางแพรไหม"
โหด ห่าม ดิบเถื่อน เจอลูกอ้อนของน้องแพรไหมเข้าไปแล้วจะกลายเป็นแมวน้อย
'รอหน่อยนะคะว่าที่ผัว หึ'