ร่างเพรียวบางพกพาความสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร เดินออกมาจากสนามบิน ในมือของเธอมีกระเป๋าเดินทางถูกลากตามมาติด ๆ สายตาดุจดั่งนางพญาภายใต้แว่นกันแดดแบรนด์ดังสีชากวาดมองหาพาหนะในการเดินทางกลับบ้านหลังใหญ่ในครั้งนี้ ฝ่ามือเรียวเล็กสะบัดโบกไปมาเมื่อได้เห็นรถแท็กซี่เปิดส่งสัญญาณสีแดง ริมฝีปากเรียวกระจับยิ้มกว้าง การกลับมาเมืองไทยในครั้งนี้หวังว่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น
การต้องไปศึกษาอยู่ต่างประเทศคนเดียวมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผู้หญิงอย่างแพรไหม อัศวเมธาวลัย กว่าจะเรียนจบได้รับปริญญาก็หนักหนาสาหัสพอสมควร เพราะเธอทั้งเรียนด้วยและทำงานควบคู่กับเพื่อนไปด้วย การกลับมาไทยในครั้งนี้เธอตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้มาบริหารกิจการธุรกิจที่บ้านของตัวเอง เนื่องจากมีข่าววงในลือกันว่าธุรกิจที่บ้านของเธอนั้นกำลังแย่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเป็นจริงหรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรเธอก็จะทำให้ธุรกิจของครอบครัวกลับมาเหมือนเดิม
"คุณครับ ถึงแล้วครับ"แพรไหมสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงจากคนขับแท็กซี่ปลุกให้เธอออกจากห้วงภวังค์ความคิด
"นี่ค่ะเงิน ไม่ต้องทอนนะคะ"หญิงสาวล้วงเงินในกระเป๋ายื่นให้คนขับก่อนจะเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของตนเอง
"เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ"หญิงสาวพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นัยน์ตาเศร้ากวาดมองบ้านหลังใหญ่ที่เคยดูสดใส แต่บัดนี้กลับกลายเป็นทรุดโทรมไปตามกาลเวลาหลังจากผู้เป็นภรรยาและบุตรชายคนโตของบ้านหลังนี้ได้จากโลกนี้ไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อไม่กี่ปีก่อน
อ๊อด อ๊อด
นิ้วเรียวเล็กจิ้มไปยังออดตรงหน้าประตูรั้วสูงชัน เพียงแค่ยืนรอไม่นานหญิงสาวก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวร้องลั่นมาจากภายในบ้าน
"มาแล้วค่า มาแล๊ว"หญิงสาวในชุดแม่บ้านวิ่งตรงดิ่งมายังหน้าประตูรั้วใหญ่ด้วยความรีบร้อน ก่อนจะร้องเสียงหลงอย่างคนตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใครกำลังยืนส่งยิ้มอยู่
"คุณหนูแพรไหม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย"แจ๋วสาวใช้ร่างท้วมรีบเปิดประตูต้อนรับคุณหนูคนสุดท้องของบ้านก่อนเธอนั้นจะรีบเข้าไปคว้ากระเป๋าเสื้อผ้ากับถุงกระดาษมากมายจากเจ้านายมาถือเอาไว้
"แพรพึ่งเดินทางมาถึงค่ะพี่แจ๋ว แล้วนี่คุณพ่อท่านอยู่ไหมคะ"แพรไหมเอ่ยถามก่อนจะเดินเข้ามาในอาณาเขตรั่วบ้านโดยมีแจ๋วเดินถือกระเป๋าตามเข้ามาติด ๆ
"คุณผู้ชายอยู่ในห้องรับแขกค่ะคุณหนู"
"ถ้าอย่างนั้นแพรขอตัวไปหาคุณพ่อก่อนนะคะ รบกวนพี่แจ๋วช่วยเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บให้แพรด้วย ส่วนของในถุงเป็นของฝากเอาไปแจกให้พวกพี่ ๆ เขาด้วยนะคะ"
"ได้ค่ะ คุณหนู"
แพรไหมปลีกตัวเดินไปยังห้องรับแขก แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเท้าเดินไปถึงก็เห็นร่างของใครบางคนเดินซึ่งเธอนั้นรักและเคารพเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนกำลังเดินตรงและส่งยิ้มมาให้เธอ
"คุณหนูแพรไหม"
"ป้าม่อน แพรคิดถึงจังเลยค่ะ ป้าม่อนสบายดีนะคะ"
"ป้าก็สบายดีตามประสาคนแก่นั่นล่ะคะคุณหนู ป้าคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"ทั้งสองยืนกอดกันด้วยความคิดถึง ป้าม่อนคือแม่นมที่เลี้ยงดูพี่ชายกับเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ แถมยังเป็นคนสนิทของคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้
"จะมาแล้วทำไมไม่โทรศัพท์มาบอกป้า ป้าจะได้บอกให้คนขับรถไปรับ แล้วนี่คุณผู้ชายท่านทราบแล้วหรือยังคะว่าคุณหนูจะกลับมาวันนี้"
"คุณพ่อท่านไม่ทราบค่ะ แพรจะกลับมาเซอร์ไพรส์ท่าน"
"คุณหนูนี่นะชอบเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ"
"แต่คุณหนูกลับมาก็ดีเหมือนกันค่ะ ช่วงนี้คุณผู้ชายเป็นอะไรไม่รู้ วัน ๆ ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน สีหน้าเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังไม่สบายใจเรื่องอะไรสักอย่าง ป้าล่ะเป็นห่วงท่านจริง ๆ "หลังจากผู้เป็นเจ้าของบ้านกลับมาจากเมืองนอกเมื่อสองเดือนที่แล้วก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้องทำงานข้าวปลาไม่ยอมลงมาทานร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด
"เดี๋ยวแพรถามคุณพ่อเองค่ะ ป้าม่อนมีอะไรก็ไปทำเถอะนะคะไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้"เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมสถานการณ์ของทางบ้านมันตื่นได้เป็นเช่นนี้ เพราะหลังจากเสร็จงานศพของผู้เป็นแม่และพี่ชายเธอก็ได้บินกลับไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพียงไม่กี่เดือนต่อจากนั้นเธอก็ได้ข่าวมาว่าผู้เป็นพ่อติดการพนันอย่างหนัก แต่ตอนนั้นเธอกำลังเรียนและทำงานจึงไม่ได้สืบหาข้อมูลให้แน่ชัดว่ามันเป็นจริงดั่งข่าวที่เขาลือกันหรือเปล่า
"ป้าขอฝากคุณหนูด้วยนะคะ"
"ได้ค่ะ ป้าม่อนไม่ต้องเป็นห่วง"สีหน้าของแพรไหมเคร่งเครียดไม่ต่างอะไรกับหญิงวัยกลางคน สายตาของทั้งคู่มองเข้าไปยังห้องรับแขกซึ่งมีประมุขของบ้านกำลังนั่งอ่านเอกสารสำคัญอยู่ในตอนนี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดสมองแทบจะระเบิดออกมา
"เซอร์ไพรส์"เสียงหวานอันแสนจะคุ้นเคยดังขึ้นทำเอาคนที่นั่งอ่านจดหมายทวงหนี้ถึงกับสะดุ้งทำให้มือที่กำลังถือเอกสารไร้เรี่ยวแรงเอาเสียดื้อ ๆ หรือทำกระดาษแผ่นสำคัญหลุดร่วงลงสู่พื้น
"ลูกแพร"พิภพมองลูกสาวคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ด้วยความตกใจก่อนจะตั้งสติรีบหยิบกระดาษขึ้นมาพับใส่ในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีร้อนรนกลัวว่าลูกสาวจะมาเห็น
"เซอร์ไพรส์ค่ะคุณพ่อ นายคิดถึงคุณพ่อจังเลย"แพรไหมเดินเข้ามาหาบิดาของตนเองด้วยความคิดถึง จมูกโด่งจรดลงบนแก้มของท่านกลิ่นหอมคุณเคยช่วยทำให้เธอคลายความคิดถึงได้ลงได้บ้าง
"พ่อก็คิดถึงหนูเหมือนกัน แล้วนี่หนูกลับมาตั้งแต่ตอนไหน ทำไมไม่บอกพ่อ พ่อจะได้ให้คนขับรถไปรับที่สนามบิน"สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักจ้องมองใบหน้าของลูกสาว ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับภรรยาของเขามันออกจะทำให้คุณพิภพคิดถึงคนเป็นภรรยาซึ่งจากไปไกลแสนไกลไม่ได้
"รอแพรจะกลับมาเซอร์ไพรส์คุณพ่ออย่างไรล่ะคะ"
"ตั้งแต่ไปอยู่ที่นู่นแสบขึ้นเยอะเลยนะลูกสาวของพ่อ"แพรไหมส่งยิ้มให้ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งลงบนโซฟาสายตาให้รู้จับจ้องใบหน้าของผู้เป็นพ่อ หน้าหมองคล้ำไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อนขอบตาดำคล้ำคล้ายกับคนอดหลับอดนอนราวกับว่ามีเรื่องให้ต้องคิดหนักมันยิ่งทำให้แพรไหมสงสัยขึ้นไปอีก
"มีอะไรติดหน้าของพ่ออย่างนั้นหรือลูก"
"เปล่าหรอกค่ะ แต่สีหน้าของคุณพ่อเหมือนคนไม่ได้พักผ่อนเลยนะคะ"คำถามของบุตรสาวทำให้พิภพอึ้งไปชั่วขณะ ช่วงนี้เขานอนไม่ค่อยหลับเพราะเครียดเรื่องหนี้สินจำนวนมากจากการเล่นพนันของเขา ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะถึงวันครบกำหนดชำระหนี้ ตอนนี้เขามีเงินไม่เพียงพอและไม่รู้ว่าจะไปหาเงินรักที่ไหนมาใช้หนี้ หยิบยืมใครก็ไม่ได้ จะให้ขายบริษัทก็ทำใจลำบากเพราะกว่าเขากับปัญญาจะสร้างมันได้ขึ้นมานั้นมันก็แสนยากเย็นเสียเหลือเกิน
"ช่วงนี้พ่อเครียดกับเรื่องงานมากไปหน่อยเลยพักผ่อนน้อย ไม่มีอะไรหรอกลูก ว่าแต่หนูเถอะเดินทางกลับมาเหนื่อย ๆ ไปพักก่อนดีกว่าเดี๋ยวพอถึงเวลาอาหารเย็นพ่อจะให้คนไปตาม"
"คุณพ่ออย่าหักโหมมากนะคะหนูเป็นห่วง"มันจะผิดไหมถ้าเธอไม่เชื่อในคำพูดของผู้เป็นพ่อเลยสักนิด ท่านรับสายตาเธอทุกครั้งเมื่อเลยพูดออกมาแม้แต่ใบหน้าเธอท่านก็ไม่กล้ามอง มันยิ่งทำให้เธอสงสัยขึ้นไปอีกว่าถ้ากำลังมีอะไรปิดบังเธออยู่กันแน่ และมันคงต้องเกี่ยวกับกระดาษแผ่นนั้นในกระเป๋ากางเกงที่ท่านพยายามปิดบังไม่ให้เธอรู้ แต่ถึงอย่างไรก็เอาเถอะเธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าผู้เป็นพ่อกำลังปิดบังเธอเรื่องอะไร
"ถ้าอย่างนั้นหนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ เจอกันตอนเย็นค่ะ"นัยน์ตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักมองแผ่นหลังของลูกสาวเดินออกไปจากห้องรับแขก ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจของผู้เป็นพ่อจนเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมา
"แพรไหมลูก พ่อขอโทษนะลูก"กว่าจะคิดได้ก็ตอนที่ทุกอย่างมันสายไป รอยยิ้มอันแสนจะสดใสของลูกสาวมันทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกผิด แต่ตอนนี้เขากลับย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เมื่อได้กลับมาอ่านสัญญาทวงหนี้
สิ่งที่อลัน คาร์สัน นั้นต้องการก็คือ บุตรสาวเพียงคนเดียวของตัวเองอย่าง แพรไหม