รุ่งเช้าของวันใหม่
วันนี้แพรไหมตื่นขึ้นมาด้วยสภาพอ่อนล้ากว่าปกติ เพราะเมื่อคืนเธอเอาแต่มัวคิดถึงเรื่องต้องไปขัดดอกให้กับเจ้าหนี้ของผู้เป็นพ่อ มันทำเอาเธอแทบนอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าจะต้องไปเจอกับอะไรถึงแม้ว่าเธอจะเข้าไปอ่านในประวัติของชายหนุ่มมาบ้างแล้วแต่ก็ยังคงหวั่นในอำนาจของเขาไม่ได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นมาเฟียอะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนเกิดทำปืนลั่นใส่เธอขึ้นมามันคงไม่ใช่เรื่องดี สิ่งนี้ทำเอาเธอคิดหนักเมื่อต้องไปอาศัยอยู่ในดงของมาเฟียแถมต้องเป็นเมียบำเรอให้กับชายหนุ่มผู้หล่อเหลาอีก คิดไปคิดมาเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ตอนตะวันโผล่ขึ้นจากท้องฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อนาคตไม่รู้ว่ามันจะเป็นเช่นไร จะต้องไปอยู่ที่นั่นกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี แต่แพรไหมคนนี้ก็พร้อมสู้
ก๊อก ก๊อก
"คุณหนูคะ ตื่นแล้วหรือยังคะ คุณผู้ชายให้แจ๋วมาตามคุณหนูค่ะ"
"ตื่นแล้วค่ะ เดี๋ยวแพรตามลงไปนะคะ"
"ค่ะคุณหนู"เสียงของสาวใช้เงียบหายไป แพรไหมในชุดเดรสลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ใบหน้าถูกแต่งเติมด้วยโทนสีหวานอย่างน่ารักน่าเอ็นดูกำลังนั่งมองความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกใส
"เธอจะต้องทำได้ เพราะเธอคือแพรไหม"หลังจากตกลงได้ว่าเธอจะเป็นคนไปใช้หนี้ พ่อของเธอก็รีบโทรศัพท์หาเจ้าหนี้สุดโหดว่าจะยอมทำตามสัญญา และดูท่าแล้วตอนนี้ทางนั้นคงจะมารับตัวของเธอแล้ว
"ได้กลับมานอนแค่คืนเดียว ฉันก็ต้องไปอยู่ที่อื่นอีกแล้วสินะ เฮ้อ คราวนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะต้องไปนานแค่ไหน"หญิงสาวนั่งบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วบริเวณห้องนอนของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจออกมา ร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนสองเท้าก้าวลงบันไดอย่างเชื่องช้า ดวงตากวาดมองไปบริเวณรอบ ๆ ภายในบ้านอย่างต้องการจดจำสิ่งเหล่านี้ไว้
สองเท้าเรียวเดินเข้าไปภายในห้องรับแขกสิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือชายชุดดำสัญชาติยุโรปสามคนซึ่งทุกคนล้วนมีใบหน้าหล่อเหลาแต่กลับมีรังสีอันตรายแผ่กระจายออกมาจากพวกเขา
คนตายในห้องรับแขกต่างหันมามองยังร่างของเธอเป็นสายตาเดียวกัน บุคคลมาใหม่เรียกความสนใจจากชายชุดดำทั้งสามคนได้อย่างมาก ความสวยงามไร้ที่ติของเธอนั้นทำเอาทั้งสามคนตกตะลึงเพ้อฝันกันเลยทีเดียว
'สวยงามดั่งราวกับนางฟ้านางสวรรค์ มิน่าล่ะนายใหญ่ของเขาถึงได้เอาแต่พร่ำเพ้อหาอยู่ทุกเวลาและอยากจะครอบครองร่างของหญิงสาวนั้นแค่เพียงผู้เดียว'
"สวัสดีค่ะ"
"ไม่ต้องสวัสดีผมหรอกนะครับ ผมชื่ออีวานเป็นมือซ้ายของนายใหญ่ ท่านจึงให้ผมนำเครื่องบินมารับตัวคุณแพรไหมครับ"อีวานฝาแฝดอีริกมือซ้ายคนสำคัญถูกมอบหมายจากอลันให้มารับตัวของแพรไหม เขาแทบจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้เห็นผู้หญิงสวยงดงามดั่งราวกับนางฟ้ายกมือขึ้นพนมไหว้ แถมอีกในไม่ช้าเธอผู้นี้ก็จะกลายมาเป็นมาดามใหญ่ของตระกูลคาร์สัน
"เอ่อแล้ว"
"วันนี้นายใหญ่มีธุระด่วน ท่านจึงไม่สามารถเดินทางมารับคุณแพรไหมด้วยตัวเองได้ จึงให้ผมเดินทางมารับคุณแพรไหมแทนครับ"อีวานรีบอธิบายให้หญิงสาวได้เข้าใจเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของเธอ ที่จริงแล้วอลันนั้นมีธุระเจรจาเรื่องสำคัญกับคู่ค้า และไม่สามารถเลี่ยงได้จึงให้เขาเดินมารับหญิงสาวคนสำคัญพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคน ส่วนตัวอลันหลังจากเสร็จการเจรจาก็คงรอต้อนรับแพรไหมชุดใหญ่อยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ แถมยังกำชับให้เขาอำนวยความสะดวกสบายให้กับแพรไหมเป็นอย่างดี
"หนูตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมลูก พ่อว่า"
"แพรตัดสินใจดีแล้วค่ะคุณพ่อ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงแพรนะคะ"ไม่อยากให้ผู้เป็นพ่อต้องมาคอยเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าตัวเธอนั้นสามารถเอาตัวรอดได้
"ถ้าไม่ไหวหนูก็โทรมาบอกพ่อได้นะลูก พ่อจะเป็นคนไปรับหนูเอง"แววตาของผู้เป็นพ่อแสดงถึงความผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ เขาไม่น่าหลงมัวเมาไปกับสิ่งพนันเหล่านั้นเลย
"ค่ะ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ อยู่ทางนี้ก็ดูแลตัวเองด้วย"
"ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่านะครับ เพราะต้องเดินทางอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง"
"ถ้าอย่างนั้นน้องแพรขอตัวไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าก่อนนะคะ"
"ผมจะรอกุญแจอยู่หน้าประตูนะครับ"
"ค่ะ"ร่างเพรียวบางตัวกลับเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตนเองโดยมีแจ๋วเดินตามหลังไป
ประตูห้องนอนบ้านใหญ่ถูกเปิดออก หญิงสาวสองคนเดินเข้าไปข้างในห้องแต่งตัวซึ่งมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวางอยู่
"คุณแพรมาได้แค่วันเดียวก็จะต้องจากบ้านไปอีกแล้ว"สาวใช้อย่างแจ๋วบ่นพึมพำออกมาด้วยความน้อยใจ
"แพรไปไม่นานหรอกแจ๋ว เดี๋ยวแพรก็จะกลับมา"แพรไหมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเศร้า อย่าถามว่าเธอจะได้กลับมาตอนไหน ในเมื่อจำนวนหนี้ของพ่อมันสามารถทำให้เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นหลายปีเลยก็ว่าได้ คำพูดก่อนหน้านี้เธอก็แค่พูดปลอบใจของตัวเองก็เท่านั้น
"จริง ๆ นะคะ ครั้งนี้คุณแพรอย่าไปนานนะคะ"
"จ้ะ แพรไปไม่นานหรอก ยกกระเป๋ากันดีกว่าอย่าปล่อยให้เขารอนาน"
"ค่ะ คุณแพร"ทั้งคู่ช่วยกันยกกระเป๋าลงมาถึงด้านล่าง ก่อนชายชุดดำจะทำหน้าที่รับช่วงนำกระเป๋าของแพรไหมไปใส่ยังท้ายรถ เมื่อทุกอย่างพร้อมสำหรับการเดินทางแพรไหมเดินเข้าไปหาผู้เป็นพ่อเพื่อกอดลาท่าน น้ำตาแห่งความรักของสองพ่อลูกถึงกับรินไหล ไม่มีใครอยากมองภาพอันน่าแสนเศร้านี้จนต้องเบี่ยงหน้าหนี แรงกอดรัดด้วยความรักทั้งหมดที่มีส่งผ่านให้ทั้งคู่รับรู้ถึงมันได้
"ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะคุณพ่อ แล้วแพรจะรีบกลับมา"แพรไหมร้องไห้เสียงสะอื้น ใบหน้าสวยก้มลงมองพื้นหลบซ่อนน้ำตาของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ผู้เป็นพ่อเห็นเพราะกลัวว่าท่านจะไม่สบายใจ
"พ่อขอโทษนะลูก ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ถ้าวันไหนพ่อมีเงินพร้อม พ่อจะเดินทางไปรับลูกเอง"มือหนาหยาบกร้านผ่านไปตามกาลเวลาวางลงบนศีรษะของลูกสาวพร้อมกับลูบไปมา แววตาสั่นไหวมองใบหน้าของบุตรสาว เขาหยุดโทษตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเขาแท้ ๆ ถ้าไม่หลงมัวเมาอยู่ในวงการผีพนันจนไม่เป็นหนี้สินหลายสิบล้าน วันนี้เขากับลูกก็คงมีชีวิตแสนสงบสุขอยู่ด้วยกันตามประสาพ่อลูก
"หนูไปก่อนนะคะคุณพ่อ"แพรไหมผละออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อก่อนจับตัวหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถสีดำคันหรู
mercedes benz สีดำเงางามขาออกจากอาณาเขตบ้าน อัศวเมธาวลัย สายตาของผู้เป็นพ่อเต็มความรู้สึกผิดได้แต่ยืนมองรถคันหรูที่ขับออกไปสุดไกลหูไกลตา
"แพรไหม พ่อขอโทษนะลูก"