หลายวันต่อมา...
หอพัก H ห้อง 1509 เวลา 16.00 น.
ตุบ!
ฉันทิ้งตัวลงบนที่นอนของตัวเองอย่างเหน็ดเหนื่อยเพราะช่วงหลายวันมานี่ฉันยุ่งกับการมอบตัว ปฐมนิเทศเข้ามหาวิทยาลัยไหนจะหางานพาร์ทไทม์ทำอีกเพราะเงินมันเริ่มจะลดลงแล้วต้องรีบหางานทำ
ส่วนพี่แสนแสบก็ไม่ได้เจอเลย แล้วทำไมฉันต้องอยากเจอด้วยล่ะ?
“อีกไม่กี่วันหนูซ่าก็จะเปิดเรียนแล้วนะคะแม่..”ฉันพูดกับรูปของแม่ที่อยู่หัวเตียงและหลับตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย ดีที่พ่อฉันไม่รู้ว่าฉันเรียนที่ไหนไม่งั้นคงส่งคนมาตามหาแน่ๆ
หลังจากนี้ก่อนเปิดเรียนก็หางานให้ได้ก่อนแล้วกัน
อีกหลายวันต่อมา...
มหาวิทยาลัย H เวลา 9.00 น.
วันนี้เปิดเรียนวันแรกกกก เย้! อ๋อ แล้วฉันก็ได้งานแล้วด้วยเป็นงานตอนกลางคืนถึงไม่อยากทำแต่ก็คงต้องทนเป็นงานเด็กเสริฟ์ร้านเหล้า มันเป็นร้านชิวๆ ซึ่งฉันโอเคมากๆเลยไปทำมาแล้ว 2-3 วันเงินดีแต่เลิกดึกไปหน่อยแค่นั้น แต่แค่นี้ฉันทนได้ สู้ๆ
“น้องๆเดี๋ยวเลิกเรียนแล้วไปรวมตัวกันที่ลานเกษตรด้วยนะคะ” เสียงรุ่นพี่ที่เข้ามาบอกในห้องเรียนก่อนเริ่มคลาส
“ค่ะ”/ “ครับ” สิ่งที่ฉันไม่อยากทำที่สุดในการเข้ามหาวิทยาลัยคือการรับน้องนี่แหละ แต่ดีที่ที่นี่ไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่แต่ก็พอมีและทางมหาวิทยาลัยก็กำหนดด้วยว่าให้จัดได้แค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น
“ไม่อยากไปเลยง่า~” เสียงผู้หญิงข้างๆฉันพูดขึ้น
“ทำไปแค่อาทิตย์เดียว” และตอบกลับด้วยเสียงผู้ชายซึ่งคิดว่าทั้งคู่น่าจะรู้จักกันมาอยู่แล้วเพราะเห็นคุยกันตลอดเลย
“รู้แล้วน่า~”
ผ่านไป 3 ชั่วโมงอาจารย์เข้าสอนเลยในคาบแรกมีการแนะนำตัวนิดหน่อยให้พอรู้จักและมันทำให้ฉันรู้ชื่อของ 2 คนข้างด้วยผู้หญิงชื่อวาและส่วนผู้ชายชื่อเต
“ซ่า!” เสียงเรียกของวาทำให้ฉันหันไปมอง
“หะ?”
“ไปด้วยกันสิ มาเรียนที่นี่คนเดียวเหรอ?” วาเดินมาหาและถามฉัน
“อืม แล้ว..วาเป็นเพื่อนกับเตเหรอ?”
“ใช่แล้ว! รู้จักกันมาตั้งแต่แบเบาะ” ว่าแล้วเชียวต้องเป็นเพื่อนกันแต่ไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้แหะ
“งั้นต่อไปนี่มาเป็นเพื่อนกับพวกเราแล้วกัน” เตชวนฉัน
“ได้สิ” ฉันที่ไม่ได้มีเพื่อนมานานแล้วรู้สึกยินดีมาก
“งั้นเราไปที่ลานกันเถอะ”
“สวัสดีน้อง ๆเกษตรปี 1 ทุกคนนะคะ” หลังจากจัดแถวเรียบร้อยแล้ว ก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาพูดกล่าวทักทาย
“สวัสดีค่ะ” / “ครับ”
“เอาล่ะ ก่อนอื่นพี่ของแนะตัวเองพี่ชื่อฝน ปี 2 นะคะ ต่อไป...” เสียงรุ่นพี่ที่กล่าวแนะนำตัวเองไปเรื่อย ๆฉันก็ฟังบางไม่ฟังจำไม่ได้สักคน
“ไปต่อเราจะขอเลือกดาวเดือนคณะเลย”
ฮือฮา ซุบซิบ ๆ
“เงียบๆค่ะ เพราะเราต้องใช้เวลาในการซ้อมที่ค่อนข้างมากเลยต้องคัดเลือกเลยตั้งแต่วันแรก โดยคนได้ไม่ต้องเข้ากิจกรรมรับน้องนะคะ เอาล่ะ นำเสนอมาได้เลย”
“กีวี่ค่ะ” มีเพื่อนเสนอชื่อคนหนึ่งขึ้นมา กีวี่เขินอายเล็กน้อยแต่ก็ยอมออกไป
“มีใครอีกค้า~ถ้าไม่มีก็จะเป็นน้องกีวี่ไปเลยนะคะเพราะผู้หญิงคณะเราค่อนข้างน้อย” รุ่นพี่ตะโกนถามและจริงอย่างที่พี่เขาว่าคณะนี้ไม่ค่อยมีผู้หญิงเรียนห้องฉันมีแค่ประมาณ 10 คนได้มั้ง?
“ซ่าค่ะ!!!” ควับ ฉันรีบหันไปมองหน้าวาทันทีเพราะเธอทำอะไรไม่ปรึกษากันเลย
“น้องซ่าคะ ออกมาค่ะ” รุ่นพี่ที่ชื่อฝนมั้งนะเรียกฉัน ที่จำได้เพราะเธอเป็นคนแรกที่แนะนำตัวและยังเป็นที่พูดเยอะที่สุดด้วย
“งั้นหนูขอ...เลือกวาด้วยค่ะ” ฉันไม่ยอมหรอกนะ หึ
“ซ่า!!” วาเรียกฉันอย่างโมโหแต่ฉันมีความสุขมากกก อิอิ
“เอาล่ะงั้นตอนนี้เรามี 3 คนเนอะ พี่จะให้ทุกคนยกมือเลือกคนที่ชอบ เริ่มจากกีวี่”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ
มือค่อยๆทยอยยกขึ้นถือว่ามากอยู่และเหมือนกีวี่จะพอใจคะแนนเสียงเธอเพราะยืนยิ้มไม่หยุดเลย
“ต่อไปน้องวาค่ะ”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ
ว้าว คนยกเยอะกว่ากีวี่อีกและเหมือนตอนนี้กีวี่จะยิ้มไม่ออกไปเลยแหะ ส่วนวาหน้าบูดไปแล้ว ฮ่าๆ
“เยอะกว่าน้องกีวี่อีกแหะ แต่เรายังเหลืออีก 1 ใครโหวตน้องซ่ายกค่ะ”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ แปะๆๆๆ วู้ววววว
เห้ย! ทำไมเยอะขนาดนั้นอ่ะ แงง ไม่อยากทำเลยอ่า เสียเวลาทำงานแน่ๆเลย
“เอาล่ะๆ รู้แล้วว่าชอบที่กลับไปนั่งที่ส่วนน้องซ่าอยู่แนะนำตัวก่อน เชิญเลยจ๊ะ” พี่ฝนยิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะถอยหลังและให้ฉันพูด
“เอ่อ สวัสดีค่ะ นางสาวพิชญา รัตนกุล ชื่อเล่น ซ่าค่ะ” ฉันแนะนำได้แค่นี้แหละ
“เอาล่ะ จ๊ะเดียวเราไปนั่งรอตรงนู้นเพราะเดี๋ยวพอหาเดือนเสร็จจะมีพี่ๆที่ดูแลเรื่องนี้มาอธิบายสิ่งที่ต้องทำ”
“อ่อค่ะ”
ฉันเดินไปนั่งตรงพี่ฝนบอกและเราก็เริ่มเดือนของคณะและผลที่ได้คือ ไม้เมตรหรือเมตร ชื่อแปลกดีแหะไม่เคยได้ยินเลย และเมตรก็ต้องเดินมานั่งกับฉัน
“สวัสดีซ่า”
“อืม สวัสดีเมตร^^” ฉันยิ้มกว้างส่งไปเพราะคิดว่าผูกมิตรไว้ดีกว่าเนื่องจากเราต้องทำงานร่วมกันอีกยาววววววว
“เป็นผู้หญิงแต่ชื่อซ่าแปลกดี” ใครๆก็บอกแบบนี้เพราะน้อยมั้งที่จะเจอผู้หญิงชื่อซ่า แต่ฉันว่าเท่ดีออก
“ชื่อเมตรก็แปลกเหมือนกันแหละ”
“ฮ่าๆ เหรอใครก็ว่างั้นแหละ” ขำอะไรของเขา?
และหลังจากที่แนะนำตัวกันไปพี่ๆเขาก็พูดเรื่องการเป็นดาวเดือน ซึ่งมีกฎแปลกๆคือห้ามมีแฟนตลอด ปี 1 ซึ่งฉันคิดว่าตัวเองทำได้เพราะไม่มีแฟนและไม่มีใครมาตั้งแต่เกิดสำหรับฉันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
พอคุยเรื่องต่างๆเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านและฉันก็ต้องไปทำงานต่อเข้างานตอน 1 ทุ่ม และการซ้อมของดาวเดือนคือซ้อมเดิน ซึ่งเวลาเขาเข้ารับน้องกันฉันกับเมตรต้องไปซ้อมเดิน ซึ่งเลิกแค่ 5 โมงครึ่งซึ่งดีมากๆ
การเดินออกจากมหาวิทยาลัยต้องผ่านคณะวิศวกรรมโยธา ซึ่งมีแต่ผู้ชายๆ แต่ผู้หญิงบางคนก็ชอบไปเดินผ่านให้โดนแซวแล้วก็เขิน แต่ฉันก็เดินผ่านเฉยๆแหละ แต่สายตาไปเห็นคนๆนึง
พี่แสนแสบ?
เรียนอยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ? ดีใจจัง เอ๊ะ ทำไมต้องดีใจด้วยล่ะเรา?
ปิ๊ดๆๆๆๆ
“หลบๆๆหน่อย” เสียงผู้ชายคนนึงพร้อมรถมอเตอร์ไซต์กำลังพุ่งมาหาฉันแต่ว่าฉันหลบไปทันแล้ว
โครม!!!
“โอ๊ยยยย!” เจ็บฉิบ เจ็บมากสรุปหลบไม่ทันโดนชนลงไปกองกับพื้นเรียบร้อย
“เธอเดินยังวะหะ!!! บอกให้หลบๆ” เห้ย! เดียวก่อนนะนี้มันทางเท้าไม่ใช่ทางมอเตอร์ไซต์
“นายนั่นที่ผิด..” ฉันบอกไปอย่างไม่ยอม
“ก็บอกให้หลบไม่หลบล่ะหะ!!!”
“ก็นี่มันทางคนเดิน ไม่ใช่ทางที่ควายจะขับรถขึ้นมา...” คนเริ่มมามุงกันแล้วและคนที่พูดก็เป็น...
“ฮะเฮียแสบ” คนที่ชนฉันเรียกเขาเสียงสั่น
“มึงต่างหากที่ผิด!ขอโทษเธอซะ!!!” เขาตะโกนเสียงดังจนคนแถวนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบ
“ขะขอโทษ”
“และมึงอย่าโพล่งน่ามาให้กูเจออีกไม่งั้นกูกระทืบมึงแน่ ไป!!!” พี่แสนแสบไล่เขาไป ส่วนคนที่ชนฉันก็รีบยกรถขึ้นและขับออกไปเลย
“มึงลุกซะสักดิ” พี่แสนแสบหันมาบอกฉันอยากลุกเหมือนกันแต่ว่ามัน...
“หนูเจ็บ..” ฉันเริ่มเบะปากเพราะว่ารู้สึกชาที่ขา
“เหี้ยเอ้ย!! แล้วมึงไม่บอกว่ะว่าเลือดออก” เขาพูดอย่างโมโห พลึ่บ!
“อ๊ะ!” ฉันร้องตกใจเพราะพี่แสนแสบอุ้มฉันขึ้นมา
“อยู่นิ่งๆ”
พี่แสบแสนอุ้มฉันมาหยุดที่รถคันนึงอย่างหรูเลยแหะ
“พี่ปล่อยหนูก่อน” อายเด้อ~ คนมองเต็มเลยอ่า
“มึงอยู่นิ่งๆดิ หนูซ่า” นะหนูซ่าเหรอ..?
“ตะแต่ว่า...” ยังไม่ทันได้พูดพี่แสนแสบก็วางฉันลงฝั่งคนนั่ง
“เงียบกูจะพาไปทำแผล”
“พะพี่แสนแสบหนูซ่าไม่ไปได้อ่ะ” ไม่อยากไปโรงพยาบาล ไม่อยากทำแผลแสบ
“ทำไม?” ถามโดยไม่มองหน้าเพราะกำลังขับรถอยู่
“กลัวอ่ะ แสบด้วยปล่อยทิ้งไว้เดียวมันก็หาย” จริงๆนะฉันไม่เคยทำแผลแค่ล้างน้ำเปล่าก็พอแล้ว
“ตลก? มึงเป็นหมาที่แผลมันจะหายเองอ่ะ” แรงงง
“มะ..”
“แต่ถึงเป็นหมาเจ้าของมันยังพาไปทำแผลเลย แล้วมึงคนทั้งคนนะหนูซ่าจะไม่ทำได้ยังไง?” เปรียบฉันเป็นหมาหรือเปล่าว้า?
“งั้น..พี่ทำให้หนูซ่าได้ไหม?ไม่อยากให้คนอื่นทำ” ฉันส่งสายตาอ้อนๆไปแต่ไม่รู้จะได้ผลไป
“เรียกกูว่าเฮียแสบก่อนดิ” ฮะเฮียแสบเหรอ?
“ฮะเฮียเหรอคะ?”
“จะเรียกไม่เรียก?” เสียงดุๆถามย้ำ
“อ่ะๆโอเคค่ะ เฮียแสบทำแผลให้หนูซ่าหน่อยน้า~” ฉันอ้อนๆเพราะไม่อยากไปทำที่อื่น ไม่รู้ทำไมต้องไว้ใจพี่แสบ เอ้ย เฮียด้วยนะ?
แต่การมีเฮียแสบอยู่มันอุ่นใจแปลกๆแหะ