10

1404 Words
พลอยระวีเดินขึ้นลิฟต์กดไปยังชั้นสามสิบด้วยความหวาดหวั่น ในตอนแรก พนักงานต้อนรับที่โรงแรมแทบไม่ยอมให้ขึ้นไป แต่เมื่อเธอบอกว่าจะไปสมัครงานที่นั่น ฝ่ายพนักงานก็มองเธอหัวจรดเท้าเพื่อพินิจพิเคราะห์ก่อนจะอนุญาตให้ผ่านทางมาได้ หญิงสาวหัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกจากอกด้วยความตื่นเต้น จริงอยู่ว่าเธอเองก็เคยทำหมายที่เสี่ยงตายมาเยอะ แต่หมายนี้แม้ไม่ได้เสี่ยงตายขนาดนั้น แต่เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ อาจเพราะคำพูดของท่านวิมลเมื่อตอนกลางวันว่า เจ้าของที่นี่คือ ‘บุคคลที่พวกคุณไม่ควรเข้าไปยุ่ง’ ก็เป็นได้ แต่แล้ว หญิงสาวก็สะบัดหัวอย่างแรงไล่ความกังวลและเรียกความมั่นใจให้กลับมาทันที หน้าที่ก็คือหน้าที่ เธอต้องทำมันให้ดีที่สุด และคืนนี้จะต้องไม่มีใครจับได้ ประตูลิฟต์เปิดออก พลอยระวีก้าวออกมาพร้อมกับอ้าปากค้างกับความหรูหราภายในซึ่งราวกับหลุดมาจากอีกโลกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น บรรยากาศกาสิโนที่มีแสงสีเสียงและการพนันทุกชนิดเด่นหราอยู่ภายใน โดยแขกแต่ละคนที่เห็นล้วนแต่งตัวดูดี บางคนก็เป็นคนในแวดวงสังคมที่เธอคุ้นเคย และถูกอย่างที่ท่านวิมลยอมรับ ว่ามีนักการเมืองหลายท่านมาใช้บริการที่นี่ เหยี่ยวข่าวสาวได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้มีใครจำตนเองได้เลย “หยุด! เข้ามาทำอะไรครับ” การ์ดในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาล็อกร่างบางไว้ ทำเอาพลอยระวีตกใจ แต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้โดนจับได้เสียก่อน “คือ...ฉันมาสมัครงานเป็นสาวเอนเตอร์เทนที่นี่ค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเชิดอย่างมั่นอกมั่นใจ แล้วยังส่งสายตาหวานๆ ยั่วๆ ให้กับการ์ดหนุ่มหุ่นล่ำ จนการ์ดในชุดสูทลดอาการเสียงแข็งลง ในขณะที่ใจเต้นรัวแทบจะหลุดออกจากอก “แต่เราไม่ได้ประกาศรับนะครับ” การ์ดรายนั้นมองหน้าพลอยระวีด้วยความสงสัย “แหม ก็ข่าวออกจะดังว่าที่นี่มีกาสิโน หนูก็เลยอยากมาสมัครงานไม่ได้หรือไงคะคุณพี่” พลอยระวีแกล้งทำเสียงหวานใส่ เพื่อให้การ์ดเชื่อว่าเธอมาที่นี่เพื่อสมัครงานจริงๆ “แต่ว่า…” “นะ นะคะพี่ขา ช่วยน้องหน่อยนะคะ น้องอยากได้งานที่นี่จริงๆ กำลังร้อนเงิน” การ์ดหนุ่มที่ตั้งใจจะมาไล่ให้เธอออกไปชักเสียงอ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อถูกหญิงสาวออดอ้อน “แต่ว่า..” “เสียงเอะอะอะไร” เสียงของชายรายหนึ่งดังจากข้างหลัง ทำให้การ์ดรายนั้นปล่อยแขนของพลอยระวีพร้อมกับหันไปก้มหัวให้กับผู้มาเยือนใหม่ทันที “คุณเมธีครับ น้องผู้หญิงคนนี้บอกว่าอยากมาสมัครเป็นสายเอนเตอร์เทนกับทางผับของเราครับ” การ์ดรายงานกับผู้ชายที่ชื่อ ‘เมธี’ ด้วยความเคารพ พลอยระวีลอบมองชายที่ชื่อเมธีอย่างพินิจพิเคราะห์ ดูจากการวางตัวของการ์ดที่ท่าทางจะเกรงกลัวนายเมธีไม่น้อย ไม่แน่หมอนี่อาจจะเป็นเจ้าของกาสิโนก็เป็นได้! เมธีจ้องมองพลอยระวีอย่างไม่วางตา ก่อนจะมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อพิจารณา เขายอมรับว่ามีผู้หญิงสวยๆ ผ่านตามามาก แต่ผู้หญิงคนนี้แลดูน่าค้นหา ดูมีอะไร แม้ตอนนี้จะไม่ได้ประกาศรับ แต่สวยกระแทกตาแบบนี้ ใครก็อยากให้โอกาสทั้งนั้น “งั้นคุณตามผมเข้ามาข้างใน” เมธีพูดพร้อมกับเดินนำหน้าพาพลอยระวีเข้าไปนั่งในโซนด้านใน ห่างจากโซนการพนันเล็กน้อย โดยโซนนี้จะเป็นส่วนที่จัดให้ลูกค้านั่งดื่มกินกันตามอัธยาศัย และแน่นอนว่ามีสาวสวยหลายต่อหลายคนคอยให้บริการแขกอยู่ด้านในด้วย “ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานที่นี่ครับ” เมธีเอ่ยถามหลังจากที่พาพลอยระวีมานั่งที่โซฟาด้านใน “อ้อ ผมลืมแนะนำตัว ผมเมธีเป็นผู้จัดการของกาสิโนนี้” ชายหนุ่มแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มให้พลอยระวีเบาๆ เขายอมรับว่าหญิงสาวสวยสะดุดตามาก ปกติแล้วที่กาสิโนไม่เคยรับผู้หญิงคนไหนนอกจากเด็กที่ทีมงานหามา แต่สำหรับพลอยระวี เธอสวยและมีเสน่ห์เกินกว่าที่จะปฏิเสธได้ลง “ฉัน พะ…” พลอยระวีนิ่งไปขณะคิดว่าจะแนะนำตัวด้วยชื่อจริงของตนเองไม่ได้ และใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะตั้งชื่อใหม่ของเธอขึ้นมา “พิงค์ค่ะ ฉันชื่อพิงค์ ที่แปลว่าสีชมพูค่ะ” เจ้าของร่างบางลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกแล้วยังโปรยยิ้มหวานให้คนถาม ดีที่เมธีไม่ทันจับสังเกตได้ แต่เมื่อกี้ เขาแนะนำตัวว่าเป็นผู้จัดการของที่นี่สินะ แม้ว่าไม่ใช่เจ้าของ แต่หากได้เสียงหรือแอบถ่ายภาพผู้จัดการของที่นี่ติดมือไปก็คงไม่เลว “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ว่าแต่คุณพิงค์ยังไม่ได้ตอบผมเลยว่าทำไมถึงอยากมาทำงานที่นี่” เมธีเอ่ยถามอีกครั้ง แม้ความสวยของเธอจะถูกใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องถามเพื่อความปลอดภัยของกาสิโนยิ่งช่วงนี้เพิ่งมีข่าวกาสิโนออกไปด้วย “อ๋อ ค่ะ งั้นพิงค์พูดตรงๆ เลยนะคะ พิงค์ร้อนเงินค่ะแล้วก็เห็นข่าวกาสิโนออกไป ว่าเป็นกาสิโนใหญ่โต ขนาดมีนักการเมืองมาเที่ยว ลูกค้าที่นี่คงกระเป๋าหนัก ทิปเยอะ เลยอยากเสี่ยงมาสมัครดูค่ะ” พูดพร้อมยิ้มหวานอย่างมีเสน่ห์ให้กับเมธีอีกครั้ง “แล้วก่อนหน้านี้ คุณพิงค์เคยทำงานแบบนี้มาก่อนไหมครับ” เมธีซักประวัติของพลอยระวีต่อ ทำเอาหญิงสาวไปไม่เป็น เพราะลืมไปเสียสนิทว่าเธอต้องถูกสัมภาษณ์งาน “เอ่อ คือ…ค่ะ ก็เคยทำบ้างค่ะ” พลอยระวีตอบตะกุกตะกักพลางคิดถึงข่าวเก่าๆ ที่เคยทำ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้โกหกเมธี “เช่น…” เมธีซักต่อราวกับตำรวจซักผู้ร้ายอย่างไรอย่างนั้น “ก็…มีเป็นเด็กเสิร์ฟบ้าง มีชงเหล้าให้แขกบ้าง มี…” “เคยรับงานกินข้าว หรืองานวีไอพีไหม” ผู้จัดการหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าเธออย่างจริงจัง “คะ?” พลอยระวีงงกับสิ่งที่ได้ยิน พร้อมกับพยายามคาดเดาคามหมายของงานวีไอพีที่ว่า “ที่นี่ เราให้พนักงานรับงานวีไอพีได้ แต่ต้องเกิดจากความยินยอมของพนักงาน ที่ผมถามเพราะอยากรู้ว่าคุณรับงานมากน้อยแค่ไหน เวลาแขกมาจะได้ช่วยเลือกให้คุณบริการถูกคน” เมธีอธิบายต่อเพราะกลัวว่าสาวสวยจะตกใจไปมากกว่านี้ “เอ่อ ค่ะ พิงค์รับได้ทุกงานเลยค่ะ” พลอยระวีเข้าใจความหมายของงานวีไอพีทันทีหลังเมธีอธิบาย และเธอก็เลือกที่จะตอบไปแบบนั้นเพื่อให้เขายอมรับเธอเข้าทำงานง่าย “โอเคครับ รับทุกงานเลยเหรอ ถ้าอย่างนั้น ผมขอบัตรประชาชนของคุณด้วย” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยืนมือไปหาพลอยระวี นาทีนั้น หญิงสาวทำตัวไม่ถูก และไร้ข้ออ้างมาพูดกับเขาอีกแล้ว “เอ่อ คือ…” งานเข้า เธอลืมเรื่องบัตรประชาชนปลอมไปเลย “เฮ้ย เด็กใหม่เหรอเมธี” ทันใดนั้นก็มีเสียงของชายรายหนึ่งดังเข้ามา พลอยระวีหันไปมองแล้วรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้เป็นพิเศษ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นไฮโซคนหนึ่งที่เพิ่งหันมาเล่นการเมือง เขาน่าจะอายุมากกว่าเธอไม่กี่ปี “สวัสดีครับคุณปริญ” เมธียกมือไหว้คนมาใหม่อย่างนอบน้อม แต่สายตาของนายปริญไม่ได้สนใจผู้จัดการหนุ่มแม้แต่น้อย กลับจ้องมองพลอยระวีอย่างไม่วางตา เธอโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น และยังมีแรงดึงดูดให้เขาสนใจจนต้องพาตัวเองมาอยู่ตรงนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD