“ฉันถามว่านี่เด็กใหม่เหรอ” ปริญเอ่ยถามอีกครั้งในขณะจับจ้องที่หน้าอกของพลอยระวีพร้อมกับกลืนน้ำลายอย่างเสียมารยาท
‘น่าฟัดเป็นบ้า’
“เอ่อ เธอเพิ่งมาสมัครงานวันนี้ ผมยังไม่ได้…”
“คืนนี้ ฉันเอาคนนี้แหละ” เขาต้องเอาให้ได้ ต้องได้เอาเธอคืนนี้ บอกเลยว่าถูกใจมาก
“ว้าย!” พลอยระวีร้องออกมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกปริญกระชากแขนให้ลุกขึ้นจนตัวเซ หญิงสาวไม่เคยถูกจู่โจมถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ “อะไรกันคะคุณ ปล่อยค่ะ”
“เอ่อ คุณปริญใจเย็นนะครับ ขอผมคุยข้อตกลงกับเธอก่อน”
เมธีเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน ปกติแล้วนายปริญก็เป็นแขกที่เรื่องมากและเอาแต่ใจพอตัว แต่ก็ไม่เคยยุ่มย่ามกับผู้หญิงที่นี่ขนาดนี้
“ไม่ต้องคุยหรอก เดี๋ยวฉันคุยเอง เอาเป็นว่าคืนนี้ ฉันเอาคนนี้” ปริญไม่พูดเปล่า ยังดึงตัวของพลอยระวีไปโอบเอวอย่างถือวิสาสะ
“ปล่อยก่อนนะคะ ใจเย็นๆ ก่อนสิคะ พิงค์ตกใจหมด” พลอยระวีทนไม่ไหวพยายามขืนร่างกายตัวเองให้ออกจากนายปริญให้ได้ แต่มีหรือแรงผู้หญิงจะสู้แรงผู้ชายได้
“จะเล่นตัวทำไม ยังไงเธอก็ต้องรับงานที่นี่อยู่แล้ว หรือกังวลเรื่องเงิน ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอรับงานวีไอพีกับฉัน ฉันจ่ายไม่อั้น”
ปริญพูดพร้อมกับเอาหน้าเข้ามาใกล้พลอยระวีหวังจะดอมดมกลิ่นกายสาว แต่แล้วความฝันก็ดับลงเมื่อจู่ๆ ข้อมืออีกข้างของหญิงสาวก็ถูกชายผู้ทรงพลังกระชากให้ห่างกับปริญ
“โอ๊ย!” พลอยระวีร้องเสียงหลงอีกครั้ง พร้อมกับหันไปมองคนที่กระชากแขนเธอ
หญิงสาวตาค้างหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อสายตาประสายกับชายหนุ่มตรงหน้า…ดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้าอมเทาทำเธอแทบหลอมละลาย จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าคมดุดัน บวกกับส่วนสูงที่ประมาณด้วยสายตาน่าจะไม่ต่ำกว่า 190 เซนติเมตร สมดีกรีลูกครึ่ง และแม้ว่าเขาจะอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมลงมาสามเม็ดและกางเกงยีนส์เรียบง่ายสบายๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ราศีของเขาลดลงแม้แต่น้อย
“คุณเฮฟเว่น” เมธีรีบเดินเข้าหาชายผู้ทรงพลังคนนี้ทันที
“สวัสดีครับคุณเฮฟเว่น พอดีผมกำลังจะจ้างผู้หญิงคนนี้” ปริญจับข้อมือของพลอยระวีอีกข้างอย่างถือวิสาสะ
“ปล่อยเธอ” เฮฟเว่นพูดเสียงเข้มพร้อมจ้องไปที่ปริญราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“แต่ว่าผม…”
“เมธี เชิญนายปริญออกจากที่นี่ก่อนไป”
เฮฟเว่นพูดอย่างไม่ลังเล และเมื่อเจ้านายสั่งมีหรือเมธีจะรอช้า
“อะไรกัน คุณเฮฟเว่น ผมเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ คุณจะทำอย่างนี้กับผมไม่ได้” ปริญร้องเสียงหลงทันทีเมื่อเมธีสั่งลูกน้องให้มาหิ้วเขาออกไป
“ผมขอแบนไม่ให้คุณเข้าให้บริการที่นี่จนกว่าผมจะอนุญาต เพราะที่นี่ ผมเป็นเจ้าของ” เฮฟเว่นพูดเสียงนิ่งเรียบ ในขณะที่การ์ดพากันลากปริญออกไป
พลอยระวีมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ ชายผู้นี้มีอิทธิพลที่ทำให้ทุกคนต้องยอมทำตามเพียงคำพูดไม่กี่คำ และหญิงสาวมั่นใจว่าเขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าพ่อกาสิโนที่เธอตามหา
“เมธี ผู้หญิงคนนี้ ฉันสัมภาษณ์เอง”
เฮฟเว่นดึงแขนพลอยระวีให้เดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย แม้จะงงอยู่บ้างว่านี่เธอไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า ทำไมเขาถึงอยากจะสัมภาษณ์งานด้วยตัวเอง!
ห้องทำงานเรียบหรูตกแต่งด้วยสไตล์ของเฮฟเว่นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลดำ ติดโคมไฟเพดานสีดำ ทำให้นึกถึงห้องทำงานของท่านเคาน์แดร็กคิวล่า
เฮฟเว่นพาพลอยระวีเข้ามาที่ห้องของเขาซึ่งหากจากโซนกาสิโนมาไกลพอสมควรจนไม่ได้ยินเสียงเพลงใดๆ
“พวกนายไปทำอะไรก็ไป ฉันจะอยู่ลำพังกับเธอ”
คำสั่งของเฮฟเว่นที่พูดกับการ์ดทำเอาพลอยระวีอดหวั่นใจไม่ได้ ทำไมเขาต้องไล่การ์ดไปไกลๆ ด้วย
“เชิญนั่งสิคุณ” เฮฟเว่นหันมามองเธอพร้อมกับบอกให้นั่ง
“ขอบคุณค่ะ”
พลอยระวีนั่งลงที่เก้าอี้อย่างว่าง่าย พยายามควบคุมสติของตนเอง ตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยอยู่กับชายแปลกหน้าสองต่อสองในที่อันตรายแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะผู้ชายที่ดูดีและมีอำนาจเช่นเขา! ทว่า
“ไม่ใช่ตรงนั้น!”
เสียงคนสัมภาษณ์เข้มขึ้น ดวงตาคู่คมจ้องมองตรงมาที่เธอไม่กะพริบ จากนั้นตบไปที่หน้าขาแกร่งของตน
“ผมให้คุณนั่งตรงนี้ต่างหาก”
“อะไรนะคะ!” พลอยระวีอึ้งที่อีกฝ่ายส่งสัญญาณให้รู้ว่าเขาต้องการให้เธอไปนั่งบนตักเขาไม่ใช่ที่เก้าอี้
พอนึกอีกทีด้วยสกิลความเป็นนักข่าว ผู้หญิงทำงานอาชีพนี้ การนั่งลงบนตักผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ ส่วนเธอเกิดมาไม่เคยจะนั่งลงบนตักใครอาจดูแปลกๆ และเพื่อไม่ให้ถูกเขาจับผิด เรือนร่างเย้ายวนค่อยลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้าไปหาเขา
ภายนอกพลอยระวีแสดงออกมาด้วยท่าทางเย้ายวน ดวงตาคู่หวานสบตาของเขาแล้วยิ้มหว่านเสน่ห์ แต่ไม่รู้ว่าการแสดงที่คิดว่าแนบเนียนก็ไม่อาจจะปิดบังคนผ่านอะไรมาเยอะอย่างเฮฟเว่นไปได้
'เพราะเขาดูออก’
แต่ใครจะรู้ว่าภายในหัวใจหนุ่มหล่อกำลังเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ขณะที่เธอกำลังเก้ๆ กังๆ เพราะไม่รู้ว่าจะนั่งลงไปยังไง กลับถูกวงแขนแกร่งกอดรัดเอวบางแล้วกดร่างบางให้ทิ้งน้ำหนักลงบนตักเขา
ทันทีที่บั้นท้ายนุ่มแน่นแนบลงบนตักชายหนุ่ม พลอยระวีก็ถึงกับใบหน้าถอดสี เก็บอาการไม่อยู่ พวงแก้มนวลเนียนแดงซ่านไปจนถึงกกหู เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งร้อนที่ตลอดชีวิตไม่เคยสัมผัสมาก่อน เธอกระดากอายอยากจะลุกขึ้น แต่มือสองข้างยังรั้งร่างบางไว้แน่น สองแขนล่ำสันกอดเอวเธอไม่ให้ไปไหน พลางกระซิบถาม
“คุณชื่ออะไร” เฮฟเว่นเอ่ยถามเสียงเรียบ
“พิงค์ค่ะ” พลอยระวีพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
“เห็นว่าคุณมาสมัครงาน มาสมัครทำอะไร”
เฮฟเว่นมองการแต่งกายของพลอยระวีอย่างพินิจพิเคราะห์ แม้จะหลอกว่าชื่อ ‘พิงค์’ แต่เขาจำได้ดีว่าเธอคือ ‘พลอยระวี’ นักข่าวสาวที่ตนเองหมายหัวเอาไว้เมื่อตอนกลางวัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าหล่อนกล้าเสี่ยงมาแฝงตัวทำข่าวถึงกาสิโน
“พิงค์มาสมัครเป็นสาวเอนเตอร์เทนค่ะ” พลอยระวีตอบคำถามเพียงสั้นๆ แม้ว่าเธอจะพูดเก่ง แต่ไม่เก่งเรื่องโกหกเอาเสียเลย
“แล้วทำอะไรได้บ้าง รับงานได้ทุกอย่าง?” เฮฟเว่นนึกสนุก ไม่อยากเฉลยให้หญิงสาวรู้ว่าตนเองรู้ความจริง เลยแกล้งลองสัมภาษณ์งานเธอดู
“เอ่อ ค่ะ” ตอบนิ่งๆ เพื่อไม่ให้เขาจับสังเกตได้ว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหน
“งานวีไอพีก็รับเหรอ” เขาถามพร้อมกับเลิกคิ้วเบาๆ
“รับค่ะ รับทุกอย่างที่ได้เงิน”
แม้จะกระดากอายแค่ไหน แต่พลอยระวีก็ต้องตอบแบบนั้นเพื่อให้ชายหนุ่มไม่สงสัย และยอมรับเธอเข้าทำงาน
“ก็ดี แล้วรู้หรือเปล่าว่ามันต้องมีการลองงานก่อนทำจริง”
เฮฟเว่นพูดพร้อมกับสำรวจกายสาว พลอยระวีอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวรัดรูปสีดำต่างจากเมื่อกลางวันจนเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเธอจะซ่อนรูปได้ขนาดนี้! หน้าอกอวบอิ่มที่ล้นออกจากชุดเดรส และเรียวขางามที่เห็นทำเอาชายหนุ่มร้อนในกายได้อย่างรวดเร็ว