พอกินข้าวเสร็จแล้วในห้องโถงก็มีนักเล่านิทานมาตั้งซุ้มตุ๊กตาหุ่นเชิด เด็กๆ รีบกรูกันไปนั่งฟังด้านหน้า ฮูหยินหยางเข้ามาเรียกหลานชายด้วยตัวเอง เขาเอาแต่นั่งข้างๆ ชางเยว่ไม่ไปไหน “จื้อถง ข้างนอกจะเริ่มเล่านิทานกันแล้ว เจ้าชอบฟังนิทานมากมิใช่หรือ” หยางจื้อถงหันมาพูดกับชางเยว่ “เสี่ยวเยว่ไปฟังนิทานกันเถอะ” ฮูหยินหยางเห็นก็หัวเราะ “น้องยังเล็กนัก ฟังนิทานไม่รู้เรื่องหรอก” กระนั้นก็ไม่ได้ขัดขวางหากชางเยว่จะตามไปด้วย ชางเยว่เห็นว่าหยางจื้อถงนิสัยใจคอกว้างขวาง น่าคบไว้เป็นมิตรสหายจึงไม่ได้ปฏิเสธ นางยกก้นขึ้นจากพื้นทำท่าจะคลานตามเขาไปด้วย หยางจือถงเห็นนางคล้อยตามก็ดีใจจนแก้มแดง “ไปกันๆ” เขาเอ่ยพลางทำท่าจะฉุดให้นางลุกขึ้น “จื้อถง! น้องยังเดินไม่ได้” หลิวซื่อกล่าวกับลูกชาย หยางจื้อถงได้ยินเช่นนั้นจึงนั่งยองๆ ข้างชางเยว่ “พี่ชายจะอุ้มเสี่ยวเยว่ออกไปเอง” เขาเพิ่งจะอายุสี่ขวบวันนี้! เหมยฮว