ณ หน้าห้องเรียนชั้น ป.1
เด็กๆ หลายคนมานั่งเล่นตรงระเบียงหน้าห้อง อาคารเรียนจะมีทั้งหมด 3 ชั้น
ชั้นที่ 1 จะเป็นชั้นเรียนของนักเรียน ป.1 และชั้นที่ 2 และ 3 จะเป็นชั้นที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
ริสาจึงมานั่งรอเด็กคนนั้น เพราะทางขึ้นชั้นเรียนมีบันไดแค่ทางเดียว จะอย่างไรเทวาต้องเดินผ่านห้องเรียนของเธอแน่นอน
“เอาล่ะทำตามแผนเรา” ริสารีบวิ่งเอายางลบไปวางบนพื้นเดิน รอตั้งนานก็ยังไม่เห็นหน้า จวบจนจะถึงเวลาเข้าเรียนในที่สุดเด็กหนุ่มที่รอคอยก็เดินผ่านมา
ริสาก็รีบลองเรียกทันที
“พี่เทวาคะ” เสียงเรียกเบาๆ เพราะริสาเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะใช่เทวาหรือไม่
จังหวะไม่ช้า ไม่เร็ว เทวาหยุดก้าวเดินและค่อยๆ หันมา
ใช่ๆ ต้องใช่แน่ๆ ชื่อเดิมเหมือนเธอ ต้องเป็นเทวาของเธอแน่นอน
เทวาหันไปตามเสียงเล็ก ๆ เสียงนี้สะกดใจเขาอย่างประหลาด เขาหยุดมองดูเด็กหญิงตัวน้อย
เธอถักเปียผูกโบว์สีขาว ตาโต ไร้เดียงสาแต่ดูเฉลียวฉลาดไม่เบา แววตาที่มองเขามีความหมายมากมาย เขาจำได้ว่าไม่เคยรู้จักสาวน้อยคนนี้มาก่อน แต่ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร
“คับ” เทวารีบตอบรับ
ริสายังเหม่อมองเทวา ในใจก็คิดไปต่างๆ นาๆ ตายพร้อมกันทำไม ทำไมเทวาถึงได้มาเกิดก่อน ใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยมีเค้าโครงเดิมและน่าจะผสมผสานกับพ่อแม่ในชาตินี้เหมือนเธอ แต่ว่าก็ยังหล่อเหมือนเดิม
“มีอะไรรึเปล่าครับ” เทวาถามอีกครั้ง
เพราะหลังจากเรียกริสาก็ไม่พูดอะไรเลยนอกจากมองหน้าของเขา
“น้องครับ” เทวาเริ่มหงุดหงิด
เขารู้สึกมีบางอย่างที่เขาไม่รู้ น้ำเสียงจึงสื่อออกรำคาญนิดๆ ทำให้ริสาตื่นจากภวังค์
“พอดีมีของตกลงมาจากกระเป๋าพี่ค่ะ ใช่ของพี่รึเปล่าคะ” ริสาก้มลงเก็บยางลบข้างๆ เท้าของเทวาแล้วยื่นให้มองเทวา ด้วยสายตาแบ๋วๆ
“ไม่ใช่ครับ” เทวารู้สึกเขินอาย เขารู้สึกว่าความรู้สึกนี้ไม่ควรเกิด เมื่อกี้เขาเกือบจะเอื้อมมือไปจับมือของน้องคนนั้นแล้ว เขาเสียอาการมากเกินไป ไม่มีความเป็นตัวเอง เขารู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พูดเสร็จก็เลยหันกายเดินหนีไปทันที
ริสาตะลึงทำอะไรไม่ถูก ไร้เยื่อใยสุดๆ นี้ไม่อาลัยกันเลย ไม่อยากคุยด้วยเลยรึ T^T
นี้ริสาเอง!!! เทวา
จำกันไม่ได้สินะ ริสามองตามหลังเทวาเดินขึ้นชั้นเรียนจนหลับสายตา
“เฮ้อ เทวาจำเราไม่ได้ ทำไงดีล่ะ” -_-”
เทวานะเทวา ไหนบอกเราว่าจะไม่ลืม บอกเราให้ไม่ลืม ตัวเองกลับลืมเสียนี้
“เฮ้อ!! เสียใจจัง”
วันนี้ทั้งวันริสา นั่งคิดหาวิธีเข้าหาเทวา ถึงอย่างไงเรียนหนังสือ เธอเองไม่จำเป็นต้องตั้งใจก็ได้ ยังไงก็สอบได้อยู่แล้ว ตอนนี้ริสาเข้ากับเพื่อนทุกคนได้ดีมาก เพราะริสาช่วยเพื่อนที่เรียนไม่ทันและดูแลเพื่อนที่โดนรังแก เธอได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าห้อง คุณครูปลายฟ้าภูมิใจกับหัวห้องชั้น ป.1/1 ปีนี้มาก เพราะริสาเป็นเด็กที่รอบรู้และเข้าใจในหลายสิ่งทำให้คุณครูง่ายต่อการดูแลชั้นเรียน
เวลา 11.30 น. ในช่วงเวลาพักเที่ยง
“ริสา ชอบพี่เทวาหรอ”
มุกถามริสาตาใสๆ แบบอยากรู้อยากเห็นเก็บอาการไม่อยู่ ริสาเห็นแล้วอดเอ็นดูไม่ได้
“ชอบสิ พี่เขาหล่อมาก”
สาวน้อย ป. 1 เปิดตากว้าง ตะลึงกับคำตอบของริสา ช่างใจกล้าจริงๆ
“พี่ชายเราอยู่ห้อง ป.3/2 ห้องเดียวกับ พี่เทวา เธออยากรู้อะไร ฝากเราถามพี่ได้นะ”
ม่านรีบบอกริสา เธอชอบเรื่องแบบนี้จริงจัง เธอเต็มใจที่จะช่วย
“จริงรึ ดีจังเลยเราอยากรู้ทุกเรื่องเลยเล่าให้หมด” ริสายิ้มจนตาหยี้
“งั้นเดียวเราวิ่งไปถามพี่ชายให้” ม่านรีบวิ่งไปหาพี่ชายที่ถัดไปอีก 4-5 โต๊ะอาหารทันที
ก่อนขึ้นชั้นห้องเรียน ม่านก็กลับมา ตั้งหน้าตั้งตาเล่า ในภารกิจที่ตัวเองได้รับมอบหมายอย่างทุ่มเท
“พี่หมอกบอกว่า บ้านพี่เทวารวยมาก คุณพ่อคุณแม่เป็นหมอเป็นเจ้าของโรงพยาบาล พี่เทวาเรียนเก่งมาก อนาคตจะเป็นคุณหมอเหมือนกัน”
ม่านเล่าไป ด้วยความภาคภูมิใจประหนึ่งว่า เทวาเป็นพี่ชายตนเอง
“ขอบใจม่านมากนะ ฉันจะกินผักให้เธอเองพรุ่งนี้”
“เย้ๆๆๆๆๆ” ม่านร้องดีใจที่ตัวเองไม่ต้องทนกินผักแล้ว
ถึงเวลาเลิกเรียนพรกมลจะรีบมารับริสาทันที ไม่อยากให้ริสารอนาน กลัวลูกไม่สบายใจที่แม่มารับช้า
ริสามองเห็นคุณแม่ก็รีบวิ่งมาหาทันที
“คุณแม่ขา คุณแม่.. ริสายังอยากเล่นกับเพื่อนๆ” ริสารีบบอกคุณแม่เพื่อต่อไปคุณแม่จะได้ไม่ต้องรีบมารับตัวเองมาก การบอกว่าอยากเล่นกับเพื่อนๆ สำหรับเด็กวัยนี้เข้าใจได้ และเธอเองจะได้มีเวลากับเทวามากขึ้นด้วย
“งั้นวันหลัง…คุณแม่อาจจะมารับช้านะคะ” สำหรับพรกมลเองจริงๆ เธอก็อยากจะปิดร้านช้าลงสักหน่อย. เพื่อที่จะได้มีรายได้มากขึ้น
“แต่วันนี้ เราต้องกลับกันก่อน …เนอะคนดี”
“ค่ะคุณแม่” ริสาโผล่เข้ากอดคุณแม่ด้วยความรัก อ้อมกอดคุณแม่อบอุ่นที่สุด วันนี้ถูกเทวาเมินเธอเสียใจจริงๆ นะ
“คนเก่งของคุณแม่ วันนี้มีเรื่องน่าตื่นเต้นไหม” พรกมลลูบหัวริสาเบาๆ เธอรู้สึกว่าลูกสาวกอดตัวเองแน่นผิดปกติ หรือมีราวอะไรรึเปล่า
“มีค่ะคุณแม่ วันนี้ริสาเจอะพี่เทวา”
“เอ้ะ!! พี่เทวาเป็นใครหรือคะ” พรกมลถามลูกสาวด้วยท่าทีงงๆ
“หนูชอบพี่เขาค่ะ สักวันหนูจะพามารู้จักกับคุณแม่ค่ะ”
“อ๋อจ้ะ” พรกมลยิ้มรับริสาไม่ถือสาเด็กน้อย คงไม่มีอะไรจริงเท่าไรนัก
ค่ำคืนนี้ริสา นอนไม่ค่อยหลับ ในใจก็ได้แต่คิด
“เทวา คุณรู้สึกคุ้นเคยคุ้นตาฉันบ้างไหม ชาตินี้เราจะเป็นเนื้อคู่กันอีกรึเปล่า ต้องเป็นสิเรามาเจอกันขนาดนี้”
แล้วริสาก็ค่อยๆ หลับตาลง พรุ่งนี้เธอยังต้องไปดักรอเทวาต่อ