“คนสวย เสาร์นี้เราขับรถไปเที่ยวทะเลที่ชลบุรีใกล้ๆ กันนะคะ”
พรกมลลูบหัวริสาเบาๆ รู้สึกผิดกับลูกสาวคนนี้นัก ริสาไม่เคยได้ไปเที่ยวทะเลเลย ด้วยรายได้จำเป็นต้องใช้เงินอย่างประหยัดเก็บเงินไว้ตอนเจ็บไข้ได้ป่วยและค่าเล่าเรียนของริสาด้วย แต่ว่าตอนนี้มีรถและมีเงินเก็บจำนวนมาก ควรได้ใช้เวลาใช้ชีวิตให้มีความสุข
“ค่ะ คุณแม่ ดีจังเลยค่ะ ริสาชอบทะเลอยากไปเที่ยวทะเล”
ริสาดีใจมากจริงๆ นานแล้วที่ไม่ได้ไปทะเล ถ้านับรวมกับชาติที่แล้วตอนนี้ก็น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว ชาติที่แล้วตั้งแต่เรียนจนทำงาน ไม่เคยใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายเลย เธอเร่งสร้างฐานะ เร่งสร้างความมั่นคง พอทุกอย่างเริ่มลงตัว กลับมาเสียชีวิตเสียนี้
ชาตินี้เธอจะไม่ทำอย่างนั้นเธอจะมีความสุขในทุกๆ วัน จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่า แต่ตอนนี้ติดตรงที่เธออายุแค่ 7 ขวบ ได้แต่ชี้แนะแนวทางให้คุณแม่ ดูแล้วตอนนี้คุณแม่น่าจะมีเงินเก็บหลายร้อยล้านเลย คิดว่าไม่นานคงเป็นพันล้านเพราะคุณแม่เป็นผู้หญิงที่เก่งเรื่องการบริหารจัดการทำธุรกิจเป็นทุนเดิมขอแค่มีช่องทาง เธอก็คอยแนะนำทุกอย่างเลยผ่านไปอย่างเรียบร้อยและดูง่ายๆ พรกมลคงไม่รู้ว่าเธอแทบไม่ต้องลองผิด ลองถูกอะไร เพราะคำแนะนำของริสานั่นเอง
ในแต่ละวันของริสาผ่านไปอย่างเรียบง่าย ช่วงนี้เธอใช้เวลาในการอ่านหนังสือต่างๆ ความสุขเล็กจากการเป็นเด็กที่เธอเคยผ่านมาเมื่อชาติที่แล้วแต่ไม่ได้สัมผัสมัน เธอเป็นเด็กกำพร้า เธอเติบโตจากสถานสงเคราะห์เด็ก เธอใช้ชีวิตอย่างดิ้นรน ทำงานพิเศษและยังต้องตั้งใจเรียน เพื่อให้ได้รับทุนเรียนดีอย่างต่อเนื่อง
เรื่องราวในชาติที่แล้วนับวันยิ่งเหมือนหมอกควันค่อยๆ จางหายไป มีเพียงเทวาที่ยังตรึงใจเธออยู่ ทุกวันนี้เฝ้ามองเทวา ยิ่งดูยิ่งหลงรัก ถ้าชาตินี้ไม่ได้เป็นเนื้อคู่กัน คงจะเจ็บปวดไม่น้อย
ตอนนี้เธออยู่ ป.1 ไม่มีอิสระในโรงเรียนเท่าไรนัก นอกจากนั่งอยู่หน้าห้องเรียนและคุณครูพาไปทานข้าวเที่ยว ไปเล่นสนามเด็กเล่น คงต้องรอขึ้นชั้น ป.2 เธอจะมีเวลาได้ตามจีบเทวามากขึ้น เฮ้อ!! นานจัง
ตอนนี้ธุรกิจเสื้อผ้าคุณแม่กำลังไปได้ดี หรือเธอจะพับเก็บโปรเจคเป็นดารานะ ไหนๆ ก็ไม่ชอบเท่าไร เงินก็มีแล้ว รอดูสักพักล่ะกันไม่มีอะไรให้ต้องรีบร้อนค่อยเป็นค่อยไป
พรกมลใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับรถใหม่ไม่นาน อาทิตย์แรกเธอขับเล่นทั้งวันจะว่าตื่นเต้นก็ได้ เธอไม่ได้ตื่นเต้นแค่เรื่องรถเท่านั้นยังมีเรื่องของร้านเสื้อผ้า จากที่มียอดสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ร้านจึงได้มีการปรับขยายขึ้น จากร้านเล็กๆ พรกมลได้ซื้อห้องแถวเป็นสำนักงานขึ้นและจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น และจัดตั้งเป็นบริษัทส่วนเสื้อผ้า
จากที่เคยซื้อเสื้อผ้ามาขายตอนนี้เธอปรับเป็นสั่งตัดเสื้อผ้าผ่านโรงงานแทน และใช้ชื่อแบรนด์คือ “RISA” เป็นเสื้อผ้าเกรดกลาง ราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ แบบเสื้อผ้าต่างๆ ส่วนมากโรงงานจะเสนอมาให้พรกมลเลือก ซึ่งได้ทำสัญญากับโรงงานคือแบบที่เราเลือกโรงงานจะต้องไม่ผลิตให้กับลูกค้ารายอื่น แน่นอนว่าความคิดต่างๆ เหล่านี้ พรกมลได้จากริสาทั้งหมด
ทุกวันนี้พรกมลมีหน้าที่เพียงเลือกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น และตรวจเช็ค ควบคุมคุณภาพสินค้า รวมถึงการบริการหลังการขาย และบริหารจากพนักงานที่ตอนนี้มีมากกว่า 20 คน โดยมีสาริกาคอยเป็นเลขาส่วนตัวของเธอ
กริ้ง กริ้ง … เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ในขณะที่สองสาวกำลังช่วยกันเก็บเสื้อผ้า พรกมลหันไปมองโทรศัพท์ที่กำลังดังอย่างครุ่นคิด ตั้งแต่เธอซื้อมือถือมาโทรศัพท์ก็ไม่เคยดังอีกเลย มาหลายเดือนแล้ว สายนี้อาจจะเป็นคนที่บ้านพ่อกับแม่โทรมาจากต่างจังหวัด หรืออาจจะมีเรื่องที่บ้าน
“เดี่ยวคุณแม่รับเองค่ะ”
พอคิดว่าที่บ้านพ่อแม่จะมีเรื่อง พรกมลรู้สึกไม่สบายใจรีบลุกไปรับโทรศัพท์ทันที ท่าทีขมวดคิ้วของพรกมลนั้น ทำให้ริสาอดแปลกใจไม่ได้ ว่าสายโทรศัพท์นั้นมีอะไรกันแน่
“สวัสดีค่ะ”
พรกมลพูดเสียงแหบ สั่นเล็กน้อย ผ่านไปสักครู่จึงได้ยินเสียงปลายทางพูดเบาๆ กลับมา
“พร นี้แม่นะ”
เสียงจากปลายทางดูเหนื่อย
“พร กลับบ้านมาหาแม่หน่อยสิลูก แม่ไม่สบาย แม่อยากเจอหนู..”
เสียงปลายทางปนสะอื้อเล็กน้อย เหมือนกลั้นใจน้ำเสียงเจื่อความเศร้า
พรกมลคิดอะไรไม่ออกเธอติดอยู่ในพะวง แม่ขอให้เธอกลับบ้าน ตั้งแต่วันที่เธอบอกพ่อกับแม่ เรื่องที่เธอท้องเธอก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย มีแค่เงินทองที่ส่งไปให้ช่วงนี้เธอก็ส่งไปให้มากพอสมควร มาวันนี้เธอแม่บอกให้เธอกลับบ้านเพราะไม่สบาย
ในจังหวะที่ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจ เธอยืนนิ่ง ตัวชา คิดอะไรไม่ออกเลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ทำให้ปลายสายเข้าใจว่าเธอไม่ยินดีกลับบ้าน
“แม่ขอโทษนะพร ฮื้อ…” ตื้อ ตื้อ ตื้อ … กำลังจะสอบถามเรื่องราวให้มากกว่านี้ เสียงปลายทางก็ตัดขาดไป
ริสารู้สึกถึงความผิดปกติ เห็นคุณแม่สีหน้าคล้ายคนกำลังจะร้องให้แต่กลับไม่มีน้ำตาและเสียงสะอื้อ
ริสาจึงรีบลุกขึ้นไปกอดพรกมล ไร้ซึ่งการพูดคุย
พรกมลนั่งพักสักเมื่อสงบจิตใจได้จึงหันมากบอกกับริสา
“ริสา คุณแม่ขอโทษนะคะ พรุ่งนี้เราไม่ได้ไปทะเล เราไปเที่ยวบ้านคุณตา คุณยายกันแทนนะคะ”
พรกมลตัดสินใจกลับบ้านทันที จะโทรกลับตอนนี้ก็ไม่ได้เพราะที่บ้านไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือ จะมีก็เป็นของคนในหมู่บ้านซึ่งตอนนี้โทรกลับคงไม่เหมาะสมเท่าไร แม่น่าจะใช้โทรศัพท์ตู้สาธารณะโทรมา แม่สามารถออกมาโทรหาเธอได้คงป่วยยังไม่หนักมาก พรุ่งนี้ค่อยเดินทาง มืดค่ำแล้วเดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก
พรกมลพยายามบอกใจตัวเองให้มีสติไม่ร้อนรน ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี
ริสาอดแปลกใจไม่ได้ นี้เธอมีคุณตา คุณยาย ที่ผ่านมาไม่ได้ถามอะไรคุณแม่ เพราะคิดว่าถ้าโตกว่านี้สักหน่อย คุณแม่คงจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้คงถามอะไรไม่ได้อีกเหมือนกัน รอพรุ่งนี้เราก็คงจะรู้เรื่องแล้ว