ไปหาหมอกัน

2685 Words
พรกมลปลุกริสาอาบน้ำตั้งแต่ 04.00 น. เดินทางแต่เช้า น่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจะถึงบ้านคุณตาคุณยายที่ภาคอีสาน “ริสา มีหลายเรื่องที่คุณแม่ไม่ได้เล่าให้หนูฟัง ไว้โตขึ้นหนูจะค่อยๆ เข้าใจมัน ไปถึงบ้านคุณตา คุณยาย แม่ขอหนูอย่าพึ่งถามอะไรแม่เลยนะคนดี” การพูดแบบนี้กับเด็ก 7 ขวบอาจจะฟังยากไปสักหน่อย แต่สำหรับริสาเธอเข้าใจดี บางอย่างก็ไม่สามารถพูดออกมาให้เข้าใจได้ในเวลาอันสั้น “ค่ะแม่ หนูเชื่อฟังแม่ค่ะ” สำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา พรกมลอยากให้มันจบไป สำหรับริสาเรื่องขัดแย้งในอดีตไม่มีประโยชน์ที่ริสาจะรับรู้ เธอจะเพียงแนะนำให้ลูกรู้จักพ่อกับแม่ พี่สาวพี่ชายเธอเท่านั้น แม้จะรับคำแม่ไปอย่างนั้นแต่จริงๆ ริสาอยากบอกแม่เหลือเกิน เล่าเถอะค่ะแม่ หนูอยากรู้เรื่องราว หนูจะได้ไม่ต้องสืบ แต่ไม่เป็นไรค่อยๆ สังเกตและเดาเอาก็ได้ เพื่อความสบายใจของแม่ เธอไม่ถามอะไรก็ได้ เหมือนคุณแม่มีเรื่องในใจมากมาย คุณแม่แทบไม่คุยอะไรตลอดทาง ริสาก็ว่าง่ายนั่งนิ่งเงียบและมองทางไปเรื่อยๆ เส้นทางนี้เธอยังไม่เคยเดินทางมาเลย ก็น่าสนใจไม่น้อย พรกมลยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเริ่มต้นพูดคุยอย่างไรกับครอบครัว เรื่องที่ผ่านมาเธอรับรู้ได้ว่าเธอเองที่ผิด ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง พ่อกับแม่ส่งเธอเรียนจนจบปริญญาตรี หลังเรียนจบเธอหางานทำที่กรุงเทพฯ 1-2 ปี ในวันที่กลับบ้านปีใหม่ เธอบอกพ่อแม่ว่าเธอท้อง พ่อโกรธมาก ยื่นคำให้เธอเลือก 2 ทาง แต่งงานและกำจัดเด็กคนนี้ซะ เธอปฏิเสธทั้งสองเส้นทางเธอทิ้งลูกคนนี้ไม่ได้และก็แต่งงานไม่ได้เช่นกัน แม่ไม่ได้พูดอะไรได้แต่นั่งร้องให้และถามถึงพ่อของเด็ก เธอไม่ได้เล่าอะไรให้พ่อกับแม่ฟัง เธอจัดดอกไม้ธูปเทียน ขอขมาพ่อกับแม่และทิ้งเงินไว้จำนวนหนึ่งก่อนจะจากมาในวันเลย หลังจากวันนั้นเธอไม่ได้กลับบ้านอีกเลย เธอเพียงส่งเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน เขียนจดหมายถึงให้ที่อยู่และเบอร์โทร แม้จะทะเลาะกันเธอก็รู้ว่าแม่กับพ่อยังเป็นห่วงเธออยู่ ผ่านมา 8 ปี พ่อกับแม่ไม่เคยติดต่อเธอมาเลย มาวันนี้เธอได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านทั้งเสียงร้องให้ของแม่ เธอกังวลใจเป็นอย่างมาก เธอภาวนาขอให้อย่ามีเรื่องราวอะไรเลย เธออยากแก้ตัวกับสิ่งที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้ดูแลพ่อกับแม่เลย เธอขอโอกาสอีกสักครั้ง พรกมลขับรถถึงบ้านประมาณ 09.00 น. เธอจอดรถอยู่หน้าบ้านและแอบมองเข้าไปในบ้าน บ้านที่เธอเคยอยู่ตั้งแต่เกิด ภาพเธอวิ่งเล่นกับพี่สาวและพี่ชาย เสียงแม่ร้องเรียกให้ไปกินข้าว สะท้อนขึ้นมาจากความทรงจำ มือจับพวงมาลัยสั่นเล็กน้อย ใจของพรกมลสั่นไหว บ้านดูเงียบๆ เหมือนไม่มีงานและเรื่องราวอะไรอย่างที่คิดมาตลอดทาง เธอจอดรถอยู่หน้าบ้านสักพัก คนในบ้านก็ออกมาดูว่ารถใคร รถคันใหญ่ค่อนข้างสะดุดตาตั้งแต่ขับเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว บ้านใกล้เคียงก็ออกมาดูเหมือนกัน พ่อศักดิ์ได้ยินเสียงรถจอดหน้าบ้านก็เดินออกมาดู พรกมลมองเห็นพ่อแล้วพ่อใส่เสื้อยืดสีเทาผูกผ้าขาวม้า ยืนดูรถแบบงงๆ เพราะยังไม่รู้ว่าใครมา พ่อแก่ลงไปมาก ภาพที่เห็นบีบหัวใจพรกมลเหลือเกิน เธอเป็นลูกที่อกตัญญูไม่ได้ดูแลท่าน พรกมลค่อยๆ เปิดประตูลงไปและจูงมือริสาเดินเข้าไปในบ้าน คุกเข่าหน้าพ่อแล้วค่อยๆ ก้มลงกราบเท้าพ่อ เธอสะอื้อเบาๆ ริสาก็ทำตามแม่อย่างว่าง่าย พ่อศักดิ์ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกสักระยะ ก็เอ่ยปากออกมา “กลับมาก็ดีแล้ว ดีแล้ว ไป ไป เข้าบ้าน...แม่อยู่ในบ้าน” เสียงเอ่ยแผ่วเบาของพ่อปลอบใจพรกมล ยายแก้วนอนอยู่แคร่ใต้ถุนบ้านด้านใน พอรู้สึกตัวว่ามีคนเข้ามาในบ้าน จึงได้ลุกขึ้นมา หันมาเจอพรกมลก็ร้องให้ทันที พรกมลจึงโผรีบเข้าไปกอดแม่ ทั้งสองคนร้องให้กล่าวขอโทษกันอยู่สักพัก “แม่นี้ ริสา ลูกสาวหนูค่ะ” พอได้ร้องให้อย่างพอใจแล้ว พรกมลพึ่งได้เอ่ยแนะนำให้ยายรู้จักหลาน ยายแก้วมองดูหลานตัวน้อย ทั้งน่ารักและสดใส ดูทั้งสองคนน่าจะมีชีวิตอยู่สุขสบายไม่น้อย แม้หลายเดือนมานี้ลูกสาวจะส่งเงินมาให้แม่หลายแสนบาทแต่ก็ไม่สบายใจและอุ่นใจเท่าที่ได้เห็นด้วยตาตนเอง คุณยายคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมารู้สึกว่าตัวเองทำร้ายลูกมาก ตอนนั้นน่าจะไปตามลูก แต่ก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหน พรกมลเห็นแม่มองหน้าแล้วร้องให้ ก็รู้ว่าแม่คิดอะไร “แม่ มันผ่านไปแล้วค่ะ เราไม่ไปคิดถึงมันได้ไหมคะ" พรกมลไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องที่ผ่านมาแล้วเธอรู้ว่าแม่เจ็บปวดและเธอเองก็รู้สึกผิดที่ทำให้แม่เสียใจ ตอนนี้ช่วงชีวิตนั้นได้ผ่านไปแล้วเธออยากให้มันผ่านไป " แม่เล่าให้หนูฟังก่อนค่ะ ที่ว่าไม่สบาย คือ เป็นแบบไหนไปหาหมอกันยังคะ” “ไปมาแล้ว หมอบอกแม่ต้องผ่าตัด แต่มันใช้เงินเยอะมากเป็นล้านเลย แม่เลยตัดสินใจไม่ผ่าตัด เพราะจริงๆ ไม่รู้จะหายหรือเปล่า แม่ไม่อยากให้คนเป็น อยู่ต้องลำบาก คนเราถึงคราวก็ต้องตาย แม่อยากเจอลูกก่อนวันสุดท้ายจะมาถึง” เสียงคุณยายเอ่ยอย่างคนสิ้นหวัง ริสานั่งคิดในใจเท่าที่ฟังดูคุณยายน่าจะมีปัญหาที่ลิ้นหัวใจ โชคดีที่ผ่านมาคุณแม่น่าจะส่งเงินมาเยอะพอสมควร พอล้มป่วย ครอบครัวจึงได้พากันไปหาหมอ คุณหมอน่าจะแนะนำให้คุณยายผ่าตัด จะได้ลดความเสี่ยงหรือหายขาด แม้การผ่าตัดจะใช้เงินไม่มากในสายตาของคุณแม่ แต่สำหรับครอบครัวชนบทเงินจำนวนนี้ถือว่ามากพอสมควรและหลายครั้งไม่ประสบความสำเร็จหลังการผ่าตัดเพราะการดูแลผู้ป่วยหลังการผ่าตัดที่ไม่ดีพอสมควร ไม่แปลกใจที่คุณยายตัดสินใจไม่ผ่าตัด เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังเป็นภาระให้กับลูกหลาน คงกังวลใจไม่รู้จะตายเมื่อไรจึงอยากเจอหน้าคุณแม่ จะว่าโชคร้ายในโชคดีรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจระดับความอันตรายของโรคของคุณยายเท่าไร คุณยายเองก็เล่าให้ฟังแบบไม่ปะติดปะต่อเท่าไรนัก คงต้องพาไปหาหมอเพื่อตรวจอาการอีกทีหนึ่ง “คุณยายไม่ต้องกลัวค่ะ หมอที่กรุงเทพฯ เก่งๆ ทั้งนั้นเลย คุณยายไปหาคุณหมอกันนะคะ” ริสายังคงให้คำแนะนำคุณแม่ในรูปแบบเดิม ว่าควรไปหาหมอที่กรุงเทพฯ ตรวจเช็คอาการก่อน พรกมลได้ยินแบบนั้นก็ตัดสินใจทันทีว่าจะพาคุณยายไปหาหมอที่ กทม. เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับตอนนี้ เธอมีเงินมากพอ “ยายไม่ไป ยายไม่ไป ยายจะอยู่บ้าน” ยายแก้วปฏิเสธทันที เธอไม่อยากเป็นภาระให้กับลูกหลานมากไปกว่านี้แล้ว ตั้งแต่ป่วยมา เธอแทบทำอะไรไม่ได้ เหนื่อยง่าย หน้ามืด ตาก็ต้องคอยอยู่ด้วยไม่ได้ไปไหน ถ้าต้องใช้เงินที่มีหมดไปกับตัวเองอีก ยายรู้สึกผิดมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว “แม่ หนูมีเงินมากพอค่ะ ตอนนี้หนูรวยมาก หนูดูเหมือนคนไม่มีเงินหรือคะ” พรกมลรู้สึกดีใจมากที่ตัดสินใจซื้อรถก่อนหน้านี้ “พรุ่งนี้เราไปหาคุณหมอกัน ให้คุณหมอตรวจก่อนเราค่อยว่ากันอีกที เรื่องค่ารักษาแม่ไม่ต้องห่วง นะแม่นะ หนูขอ แม่ แม่ยังไม่ยกโทษให้หนูหรือคะ เลยไม่อยากใช้เงินหนู” พรกมลทำทีโทษตัวเองแต่กระนั้นน้ำตาก็ไหลอย่างอดไม่ได้จะร้องให้อีกครั้ง ยังไงก็เธอต้องพาแม่ไปหาหมอให้ได้ “ไม่ๆๆ ไปๆๆ ยายจะไป” ยายแก้ว เห็นลูกสาวจะร้องให้อีกครั้งก็รีบรับปากทันที “พี่มล พรุ่งนี้พี่ไป กทม. ด้วยกันนะคะ” พรกันมาคุยกับพี่สาวที่มาถึงสักพักแล้ว พี่สาวคนนี้ห่างกับเธอ 2 ปี วิถีชีวิตที่ผ่านมากลับทำให้มลกมล ดูแล้วอายุมากกว่าพรกมลเป็น 10 ปีได้ “ค่าใช้จ่ายพี่ไม่ต้องห่วง ฉันขอบคุณพี่มากที่ผ่านมาช่วยดูแลแม่แทนฉัน” จะอย่างไรพรกมลก็ติดค้างพี่สาวคนนี้มากเหลือเกิน แม้จะส่งเงินมาให้ทางครอบครัวก็ไม่เท่ากับสิ่งที่พี่สาวทำ พรกมลหันมองไปรอบๆ บ้าน บ้านยังเป็นเหมือนเดิมถึงแม้ไม่ถึงกับขัดสน แต่ก็ไม่ใช่มีชีวิตที่ดีนัก บ้านพ่อกับแม่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ตอนนี้ที่ท้ายหมู่บ้าน มีการเลี้ยงหมูตอนนี้ก็มีกลิ่นลอยมาเป็นระยะๆ ไม่แปลกใจที่แม่จะป่วย คงต้องหาที่อยู่ใหม่ให้พ่อและเร่งสร้างบ้าน “พ่อค่ะ ตรงถนนทางเข้าหมู่บ้านหนูเห็นว่าเขาประกาศขายที่ดิน” “ตรงนั้น แกจะย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ประมาณ 4-5 ไร่ ขายหมดที่เดียวเลย ที่ดินติดถนนใหญ่ แกขายแพงเลยยังไม่มีคนซื้อ ประกาศมาเกือบปีแล้ว” ตาศักดิ์เอ่ยตอบไปตามข้อมูลที่มี พรกมลได้คำตอบดีใจมาก เพราะอยากได้ที่เยอะๆ ยังไม่ถามราคาก็ตกลงซื้อในใจแล้ว “พ่อติดต่อให้หนูหน่อย หนูจะซื้อ ไปหาแกตอนนี้ได้เลยไหมคะ” “ได้ๆๆ เดี๋ยวพ่อไปหาคุยตอนนี้” ตาศักดิ์รีบไปติดต่อให้ลูกสาวทันที เรื่องซื้อที่ดินแกสนับสนุนมาก ดูแล้วลูกน่าจะมีเงินพอ ซื้อที่ดินไว้เป็นสิ่งที่ดี “พ่อเชิญผู้ใหญ่บ้านมาด้วยเลยนะคะ ถ้าตกลงกันได้ หนูอยากซื้อวันนี้เลย” ข่าวเรื่องที่พรกมลกลับบ้านและขับรถคันใหญ่กลับมา รวมกับได้ยินข่าวว่าซื้อที่ดินมูลค่าหลายล้านบาททันที ลือไปทั่วหมู่บ้านทันที หลายคนเข้าใจว่าพรกมลได้สามีรวย ทุกคนก็พูดถึงแต่สิ่งดีงามลืมเรื่องราวในอดีตหมดสิ้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเที่ยงเลย พรกมลเลยขอแม่เข้าไปในเมืองเบิกเงินมาซื้อที่ดินก่อน อย่างที่เขาว่ามีเงินไม่ใช่เรื่องยาก พรกมลเข้าไปในเมืองไปกลับ ไม่ถึงชั่วโมง ยายบัวเจ้าของที่และผู้ใหญ่บ้านมานั่งรอสักพักแล้ว ที่ดิน 4 ไร่ 3 งาน ยายบัวขายทั้งหมด 5 ล้าน พรกมลเบิกเงินมา 10 ล้าน จริงๆ อยากเบิกมากกว่านี้แต่ธนาคารมีเงินสำรองให้ไม่เพียงพอ หลังจากตกลงราคาเรียบร้อย พรกมลก็เชิญทุกคนไปที่สำนักงานที่ดินโอนให้เรียบร้อยเธออยากจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไป กรุงเทพฯ พรุ่งนี้ “พี่มล พี่ไปด้วยนะคะ ที่ดินตรงนี้ให้เป็นของพี่” มลกมลตกใจ เธอเข้าใจว่าน้องสาวแค่อยากซื้อที่ดินเก็บไว้เท่านั้น มันแพงมากไปที่จะให้กัน “มันแพงไปไหม พรที่ผ่านมาเธอก็ส่งเงินมาให้พี่บ้านเยอะแล้ว” มลแย้งขึ้น ในใจก็ละอายอยู่บ้างแม้พรกมลจะไม่ได้อยู่ดูแลพ่อกับแม่ แต่เงินทองที่ใช้จ่ายในครอบครัวเป็นเงินของน้องสาวทั้งนั้น “นะพี่ หลังซื้อที่ดินเสร็จ หนูจะสร้างบ้านด้วย เอาล่ะไปกันเถอะค่ะ เดี่ยวไม่ทันเวลาทำการ" พรกมลเร่งทุกคนอีกครั้งไม่สนใจคำทัดทานจากพี่สาว พรกมลรู้สึกดีมากที่ตัวเองซื้อรถครอบครัว ได้ใช้ประโยชน์จริงๆ รถยนต์ของ Senz ค่อนข้างหรูหรา ยายบัวและผู้ใหญ่บ้านมีอาการประหม่า ชาวบ้านย่อมไม่เคยได้นั่งรถราคาเกือบสิบล้านได้ ส่วนมลพอเห็นรถของน้องสาวข้างในสวยกว่าข้างนอกมาก เธอจึงรู้สึกสบายใจขึ้น น้องสาวคงมีเงินจริงๆ ถึงสามารถซื้อรถคันนี้ได้ หลังจากจ่ายเงินและโอนโฉนดที่ดินเรียบร้อย พรกมลพายายบัวไปฝากเงินที่ธนาคารก่อนและแวะจองโรงแรมที่ต้องนอนคืนนี้ พร้อมซื้อมือถือสักเครื่องให้พ่อและซื้ออาหารไว้ทานด้วยกันตอนเย็น ใจจริงอยากพาออกมาทานข้าวข้างนอกแต่ว่าสิ่งที่สำคัญตอนนี้เป็นเรื่องพาแม่ไปหาหมอก่อน ที่ผ่านมาแม้ไม่ได้พูดถึงเธอก็ไม่เคยสบายใจเลยที่ไม่ได้ดูแลพ่อกับแม่ “พ่อค่ะ เดี่ยวหนูจะติดบริษัทสร้างบ้าน ให้เขาติดต่อพ่อ หนูซื้อมือถือมาให้ต่อไปจะได้ติดต่อกันได้สะดวกนะคะ” “คุณตา เดี่ยวริสาสอนคุณตาใช้นะคะ” ริสารีบอาสาสอนคุณตา หนูน้อยรู้ดีว่าบทนี้ตัวเองควรเล่นอย่างยิ่ง “ได้ลูก” ตาศักดิ์ยังไม่ทันได้คิดอะไร ไม่กล้าปฏิเสธหลานสาวตอบรับทันที หลานคนนี้หน้าตาน่ารัก น่าชัง เป็นเด็กที่เจริญเติบโตดีเหลือเกิน คิดถึงวันที่บอกให้พรกมลทำร้ายเด็กคนนี้ จริงๆ ตอนนั้นตัวเองแค่ขู่ลูกไปเท่านั้นไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ แต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ ทำให้ตาศักดิ์ตอนแรกแทบไม่กล้ามองหน้าหลานของตัวเอง ทุกวันนี้ก็คิดมากมาตลอดกลัวว่าลูกกับหลานจะลำบาก เห็นเงินที่พรส่งมาทุกเดือนก็ทำให้สบายใจขึ้นมาบ้างว่าลูกคงไม่ได้ลำบากมากนัก ทุกคนทานข้าวกันเงียบๆ พี่มลมีลูก 2 คน เป็นลูกชายทั้งคู่คนโตอายุ 13 ปี ชื่อกร คนเล็กอายุ 10 ขวบ ชื่อ กล ทั้งสองไปช่วยพี่เขยทำนาพึ่งกลับมา ทั้งสองคนพอคุ้นตาพรกมลอยู่บ้างอย่างไรก็เป็นญาติพี่น้องกัน พูดคุยกันสักพักก็สนิทชิดเชื้อกัน พรกมลก็สอบถามการเรียนของหลานๆ เรื่องการทำนาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถามถึงพี่ชาย พี่พลได้ข่าวว่าวันนี้ไปรับจ้างในเมืองเลยไม่ได้เจอหน้ากัน ริสาแอบมองลูกพี่ลูกน้อง ทั้งสองคนทำงานเกินอายุพอสมควร มีผิวคล้ำหน่อย ต่างจากริสาที่มีผิวขาวใส หลังจากวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ริสาก็นับถือแม่ไม่น้อย กล้าที่จะออกจากบ้านในขณะที่ท้องและดูแลเธอคนเดียวมาตลอด ที่ผ่านมาจิตใจแม่ต้องเข็มแข็งมากๆ เรื่องราวนี้ไม่มีคนถูกคนผิด ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ทำให้คิดถึงแม่เมื่อชาติที่แล้ว แม่ก็คงมีเหตุผลของตัวเองเช่นกัน “พรุ่งนี้เช้า หนูจะมารับแม่นะคะ พี่มลไปด้วยกันนะคะ” “ได้ พี่จะเตรียมข้าวของรอ หน้าที่พี่อยู่แล้วต้องไปดูแลแม่” ก่อนจะดึกมากไป พรกมลจึงขอตัวกลับเข้าไปนอนในเมืองวันนี้เธอต้องรีบพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า แม้ในใจเธออยากเดินทางตั้งแต่วันนี้ แต่ถึงจะรีบอย่างไรความปลอดภัยย่อมมาก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD