กลับจากส่งริสาที่โรงเรียน พรกมลก็ไปที่ร้านริสาแฟชั่น ไปถึง 07.30 ก็เห็นสาริกา นั่งรออยู่หน้าร้านแล้ว
“สวัสดีค่ะ คุณนาย”
สาริกายิ้มให้พรกมลอย่างนอบน้อม พรกมลเองก็ไม่ได้แสดงความใจดีและสนิทสนมกับสาริกามากเกินไป ยังคงรักษาระยะห่าง เพื่อให้เกิดความเกรงใจ ความย้ำเกรงกันก่อน
“สวัสดีค่ะ พี่สาริกา มาค่ะเข้าไปคุยกันในร้าน”
"ร้านของเราขายสินค้าแบบออนไลน์ด้วยนะคะ โดยปกติร้านจะเปิด 09.00 - 16.00 น. ตอนนี้หน้าร้านจะยังไม่เปิด
พรทำตารางการทำงานมาให้ พี่ลองอ่านดูว่ามีตรงไหนไม่เข้าใจบ้าง
เวลา 08.00 - 09.00 น.
ทำความสะอาดร้านจัดสถานที่ให้เรียบร้อย
เวลา 09.00 - 11.30 น. แพคสินค้าออนไลน์จากออเดอร์ค้างตั้งแต่
และรอแพคสินค้าจากออเดอร์และปิดรับออเดอร์ในแต่ละวันเวลา 12.00 น.
เวลา 11.30 - 13.00 น. พักเที่ยง
เวลา 13.00 - 14.00 น.
กลับมาแพคสินค้าหรือถ่ายภาพสินค้าใหม่ๆ
เวลา 14.00 - 15.00 น. จัดส่งสินค้าที่ไปรษณีย์
เวลา 15.00 - 17.00 น. แพคสินค้าหรือถ่ายภาพสินค้าใหม่ๆ
“พี่ทำได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ให้พี่พักเที่ยง 1.30 ชั่วโมงเลย”
สาริกา มองดูงานที่ให้ทำเป็นงานหลังร้านซะส่วนใหญ่ ไม่ลำบากเลยขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้เธอได้งานดี เธอดีใจมากจริงๆ จนมีน้ำตาไหลคลอๆๆ
“นี้กุญแจร้านฉันจะไปรับส่งลูก ไปโรงเรียนตอนเช้าจะมาสายประมาณ 09.30 น. และจะกลับก่อนบางวันอาจจะแวะมาตอนเย็น”
ริสามอบกุญแจให้สาริกา ไม่ใช่ว่าไว้ใจสาริกา แต่ข้าวของในร้านส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า ถ้าสาริกาจะขโมยนำไปขายก็ไม่ได้ราคาเท่ากับเงินเดือนเลย แถมยังลำบากต้องเอาไปขายด้วย เพียงข้อนี้ก็เพียงพอต่อการไว้ใจแล้ว
“มาค่ะ เรามาเริ่มแพคสินค้ากัน นี้คือรายการออเดอร์นะคะ จะมีชื่อลูกค้า รายการสั่งของ มี รหัสสินค้า สี ขนาด จำนวน พี่จัดตามนี้แล้วนำมาแพคใส่กล่องที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปจากปริมาณของนะคะ ตรงนี้ต้องดูอย่างละเอียดนะคะ ระวังอย่าให้ผิดพลาด ดูซ้ำสัก 2-3 รอบก่อนแพคจริงค่ะ พี่เดินดูของแต่ละจุดก่อนก็ได้ค่ะ วันนี้วันแรกพรจะช่วยดูค่ะ”
วันนี้ออเดอร์ที่จัดส่ง 150 ออเดอร์ ยังเหลือออเดอร์หลังปิดยอด 12.00 น.
อีก 100 กว่าออเดอร์ พรกมลจึงบอกกับสาริกาว่า
“พี่สาลองทำดูนะคะ สัก 2-3 วัน มีอะไรที่คิดว่าควรปรับปรุง ปรับเปลี่ยนเสนอได้นะคะ”
แต่หลังจากจ้างสาริกาได้เพียง 7 วัน ออเดอร์ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ พรกมลจึงตัดสินใจจ้างพนักงานเพิ่มอีก 5 คน โดยให้สาริกา เป็นผู้จัดการร้านเพิ่มเงินเดือนให้เธอเป็น 15000 บาท สาริกาดีใจมาก ทำงานไม่ถึงเดือนก็ได้เงินเดือนขึ้นแล้ว งานนี้ต้องกอดเอาไว้แน่นๆ
ออเดอร์มีมากขึ้นๆ และแต่ออเดอร์ไม่ใช่การขายปลีกแล้ว เป็นการขายส่งกำไรต่อออเดอร์มีมูลค่าหลายพันบาทรายได้พรกมลพุ้งเข้าสู่หลักล้านในแต่ละวัน
พรกมลนั่งงงกับบัญชี รายรับรายจ่าย เธอขายเสื้อผ้าออนไลน์มาเข้าสู่เดือนที่ 4
แล้วแต่เธอมีเงินเก็บหลายร้อยล้านแล้ว เหมือนฝันมากๆ จากนี้ต้องควบคุมคุณภาพของสินค้า
ตอนนี้เธอต้องซื้อห้องแถวเปิดบริษัทต้องจ้างพนักงานบัญชี พนักงานจัดซื้อ จัดขาย ฯลฯ เยอะแยะไปหมด
เรื่องพวกนี้เธอให้สาริกาไปจัดการดีกว่า
ว่าแต่ตอนนี้ในเมื่อเธอมีเงินแล้ว ก็ต้องทำตัวให้เหมือนคนมีเงินหน่อย
แต่ก่อนเธอไม่ได้คิดเรื่องการซื้อรถ ถึงแม้ปกติไปไหนมาไหนจะใช้รถสาธารณะ พอจะไปต่างจังหวัดไปเที่ยวก็ค่อนข้างลำบากอยู่ เธอมีความฝันไว้ว่าจะขับรถพาริสาไปเที่ยวในวันหยุด ตอนนี้คงถึงเวลาที่ต้องซื้อรถเสียที
“ริสา วันหยุดนี้เราไปซื้อรถกันนะคะ”
“ซื้อรถ!! เย้ๆๆ ริสาขอเป็นรถคันใหญ่ๆ นะคะ จะได้ใส่ของได้เยอะๆ”
ริสาบอกแม่เป็นกลายๆ ว่าเราควรซื้อรถครอบครัวนะคะแม่ เวลาไปเที่ยวจะขนข้าวของไปได้ด้วย มันจำเป็นจริงๆ
“อ๋อจ้ะ ได้ค่ะ ขอแค่ริสาชอบอะไรก็ดีหมดเลย หนูเป็นนางฟ้าของแม่ แม่เชื่อหนูค่ะ”
ทุกวันนี้พรกมลไม่เคยสงสัยในความคิดของริสาเลย บางครั้งจะดูเหมือนเป็นความคิดที่ใสซื่อหรืองอแง แต่กลับมีเหตุผลและสมเหตุสมผล พรกมลก็คอยบอกตัวเองมันคือเรื่องบังเอิญ เรื่องบังเอิญ
หลังจากที่ตัดสินใจซื้อรถครอบครัว พรกมลก็เข้าไปดูรถหลายยี่ห้อ อยากจะได้อย่างดีเลย เพราะสำหรับริสาต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถ้ามีเงินเธอไม่เคยหวงกับลูก หลังจากดูสเปคพรกมลก็เลือก รถยนต์ของ Senz รถครอบครัวราคาอยู่ 8-9 ล้าน พอมีเงินมันก็ดูสมเหตุสมผลทันที
พอถึงวันเสาร์ 2 สาวก็พากันไปเบิกเงินที่ธนาคารแล้วรีบนั่งแท็กซี่ไปที่ศูนย์ Senz ทันที
ช่วงจังหวะที่ 2 สาวลงจากแท็กซี่มีพนักงานหลายคนเห็นไม่น้อย แต่ไม่มีใครวิ่งมาตอนรับเลย ริสาดูแคลนพนักงานเหล่านี้อยู่ในใจ เฮ้อ! ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน การดูถูกคนด้วยกันก็มีเสมอ ส่วนพรกมลไม่ได้คิดอะไรเธอตื่นเต้นมากไม่รู้ว่าตื่นเต้นเพราะความหรูหราของสถานที่กับรถยนต์ หรือ ตื่นเต้นที่ต้องใช้เงิน 10 ล้านซื้อรถก็ไม่รู้ แต่นั้นยิ่งทำให้พนักงานมั่นใจที่ไม่ไปต้อนรับ 2 สาว แต่นั้นก็ทำไม่ได้ ราดาพนักงานรุ่นพี่คนหนึ่งจึงหันไปเห็นพนักงานใหม่ที่กำลังเสริฟน้ำลูกค้า เลยร้องเรียกเบาๆ
“มะลิ” ราดาเอ่ยปากเรียกอีกครั้ง
“น้องมะลิค่ะ รบกวนต้อนรับลูกค้า 2 ท่านที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยค่ะ”
มะลิหันมองตามเสียงเรียกและคำสั่ง
แล้วก็คิดในใจ “โชคดีจังเลย เราได้แนะนำเรื่องรถแล้ว ไม่ใช่คอยเสริฟน้ำ”
มะลิก็รีบกุลีกุจอ ไปตอนนั้นทันที
“สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิงทั้งสองท่านรับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ”
มะลิพยายามไม่ประมาทแต่ก็ยังเสียงสั่นอยู่บ้าง ที่นี่เขายกเรื่องการบริการไว้สูงมาก
เพราะลูกค้าส่วนมากเป็นคนระดับสูง แม้จะได้รับการอบรมมาอย่างเข้มงวด พนักงานใหม่เงินเดือนหลักหมื่นที่พึ่งแนะนำลูกค้าครั้งแรก แบบเธอก็อดที่จะประมาทไม่ได้เธอกลัวว่าตัวเองจะทำพลาด ราดาแอบมองเห็นก็แอบยิ้มที่มุมปากเบาๆ คิดว่าจะได้ขายเหรอ
ดูสภาพ 2 แม่ลูกนั้นสิ และก็หอบกระเป๋าอะไรมาไม่รู้ นี้ยังสงสัยทำไมถึงกล้าเดินเข้ามา จะไล่ก็ไล่ไม่ได้ ได้แต่ตอนรับเท่านั้น โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะ ทำให้ไม่ลำบากใจมากไปกว่านี้ สักหน่อยค่อยให้แม่บ้านไปทำความสะอาดตรงที่ 2 แม่ลูกนั้นนั่งล่ะกัน แล้วนี้ยายมะลิ ยังจะมัวแต่เสริฟน้ำจะเสนอรถ พอเห็นราคารถก็น่าจะวิ่งออกจากศูนย์แทบไม่ทันแล้ว
“ขอน้ำเปล่าค่ะ”
พรกมลตอบและยิ้มอย่างใจกว้าง มะลิรีบนำน้ำมาเสริฟและสอบถามทันที
“ไม่ทราบว่า ท่านได้ดูรุ่นมาก่อนรึเปล่าค่ะ หรือสนใจรถไปใช้งานแบบไหนเอ่ย”
“หนูอยากได้รถคันใหญ่ๆ ค่ะ”
ริสาตอบเสียงดังฟังชัด ทุกคนได้ยินและหันกลับมามอง หลายคนก็ไม่สนใจคำพูดของเด็กน้อยเท่าไรนัก แค่แอบประหลาดใจ 2 แม่ลูกนี้หลงทางมารึเปล่าคะ
“รถครอบครัวใช่ไหมคะ มะลิมีรถที่ขอนำเรียนเสนอค่ะ”
หลังจากที่มะลิพูดจบพร้อมทั้งอธิบายการบริการหลังการขายการดูแลต่างๆ และราคาที่เสนอให้ พรกมลปลื้มมากดีใจที่ตัวเองตัดสินใจซื้อรถที่นี่ ดูทุกอย่างช่างดีไปหมดทั้งคุณภาพรถการบริการหลังการขาย การดูแลเธอมีกัน 2 คนแม่ลูก เธอสะดวกใจกับการดูแลการบริการหลังการขายแบบนี้
“ฉันเอาคันนี้ล่ะค่ะ หนูต้องการหลักฐานอะไรบ้างคะ”
หลังจากที่พรกมลพูดจบ พนักงานรุ่นพี่ก็รีบวิ่งเข้ามาต้อนรับต่อทันที
“ขออนุญาตค่ะ ไม่ทราบว่า ท่านได้เตรียมเอกสารด้านการเงินมาด้วยไหมคะ”
เธอรีบถามทันที่เกือบเสียลูกค้าให้เด็กใหม่แล้ว ริสาเข้าใจได้ทันทีว่า พนักงานคนนี้คงเข้าใจว่าคุณแม่จะผ่อนและน่าจะแอบดูถูกพวกเราในใจล่ะสิ ตอนนี้พึ่งเสนอหน้ามา ส่วนพรกมลก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจที่พนักงาน กำลังจะเอ่ยปากบอกว่าจะซื้อสด ริสาก็พูดแย้งขึ้นมาก่อน
“ไม่เอา ริสาจะซื้อกับพี่คนเมื่อกี้ ริสาชอบคนสวย”
ด้วยความที่มีใจอคติ ราดาเลยรีบอธิบาย
“ให้ดิฉันดูแลเถอะนะคะ การยืนขออนุมัติกู้ต้องเตรียมเอกสารการเงินหลายอย่าง /ไม่เอา จะเอาพี่คนเมื่อกี้”
ริสาโต้แย้งทันทีขี้เกียจฟังคำอธิบายและตอนนี้เธออยากได้รถแล้ว ราดาหน้าชาและค่อยๆ ขยับออก มะลิก็เดินเข้าไปคุยกับลูกค้าทันที
“ลูกค้าสะดวกเป็นชำระแบบไหนคะ”
“ฉันซื้อสดค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้จะรับรถได้เลยไหม และต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกไหมฉันเตรียมมาแค่ 10 ล้าน ไม่รู้ว่าจะพอรึเปล่า"
จากนั้นก็เปิดกระเป๋าถุงลายสีรุ้งที่ไว้เอาใส่เสื้อผ้ากลับไปถ่ายรูปที่บ้านออก ในวันนี้มีเงินแพคละ 1 แสนบาท จำนวน 100 แพคออกให้มะลิดู มะลิดีใจมาก รถคันแรกที่เธอขายได้ 9 ล้านบาท คิด 3% เธอรวยแล้ว เธอรวยแล้ว
ตึง!!!!
“ว้ายยยยยยยยยย มีคนเป็นลมค่ะ”
ริสาหันไปดู ก็ไม่แปลกใจเลยคนนั้นคือ ราดา สมใครบอกให้มาดูถูกคุณแม่เธอ