chapter 3
“พี่ใหญ่รู้ข่าวจากไหนคะ” เปรมมิกาอดจะสงสัยไม่ได้ ก็ขนาดว่าคนใกล้ชิดเธออย่างมารดาก็ยังไม่รู้เรื่องเลย แล้วคนซึ่งแม้จะรักแต่ไม่ค่อยได้ติดต่อกันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง
“ข่าว”
“ข่าว!” เปรมมิกาตอบรับเสียงสูงลิ่ว แค่เธอขับรถไปชนต้นไม้นี่ถึงกับเป็นข่าวด้วยเหรอ ตากลมโตใสแจ๋วเบิกกว้างอย่างคิดไม่ถึง ก่อนผ่อนลมหายใจออกจากปอดผ่านกลีบปากอวบอิ่มที่ตอนนี้เป็นสีซีดจางด้วยความเซ็งจับจิต อาจมีใครสักคนพอรู้จักครอบครัวเธอมั่ง เลยทำให้มีข่าวออกไป
“เพราะแบบนี้เอง เปรมมิก็สงสัยอยู่แล้วเชียว ทำไมเปรมต้องย้ายโรงพยาบาล น่าเบื่อชะมัดเลย”
“ว่าแต่เราแน่ใจนะ หมดรักไอ้เจ้าหมอนั่นแล้ว ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งพอมันมาปะเหลาะขอคือดีด้วยคำพูดหวาน ๆ เราก็จะใจอ่อนยอมยกโทษให้ง่าย ๆ หรอกนะ” การัตน์เอ่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบจับจ้องวงหน้าขาวไม่ถึงกับซีดมากอย่างต้องการคำตอบที่ชัดเจน ไม่อยากเดาไปเอง ถ้าผิดขึ้นมา เขาขี้เกียจที่จะรับผิดชอบในผลเสียที่จะเกิดขึ้น
“เปรมยังมีหัวคิดน่าพี่ใหญ่ ไม่บ้าถึงกับจะกลับไปคืนดีและยกโทษคนที่เห็นเปรมเป็นเพียงแค่นางบำเรอหรอกคะพี่ชาย” เปรมมิกาตอบกลับพร้อมกัดฟันดังกรอด ๆ คำที่ทินภัทรพูดให้เธอเป็นเมียน้อยเขายังติดดังก้องอยู่ในหูอยู่เลย
ผู้ชาย...เพศเห็นแก่ตัว มักมาก คิดว่าเธอรักแล้วจะยอมให้ทุกอย่างเลยเหรอ คิดผิดไปเสียแล้ว สำหรับเธอนะ ถ้าได้ ต้องได้ทั้งหมดและเป็นหนึ่งเดียว ไอ้ที่จะได้เพียงแค่กระพีกเดียวนะ ไม่เอาไม่อยู่ในความคิด
“ก็ดี” การันต์พยักหน้ารับ เปรมมิกาเคยมีผู้ชายมาคบหามาหลายคนแล้ว พอเลิกรากันไป น้องสาวก็ดูจะเศร้าหม่นหมองไร้ชีวิตชีวาไปสักช่วงหนึ่ง แต่ไม่นานก็จะกลับมาร่าเริงแจ่มใสเหมือนเดิม ทว่าครั้งนี้ผิดกันเพราะเปรมมิกาคบกับไอ้เจ้าหมอเฮงซวยนั่นตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสาม จากการเจอกันโดยบังเอิญแล้วสานต่อความผูกพัน ก่อนฝ่ายชายไปเรียนต่อเมืองนอกก็ยังให้คำสัญญา เมื่อจบก็จะแต่งงานกัน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ลมปาก
“พี่ใหญ่คิดทำอะไรหรือเปล่าคะ” เท่าที่รู้จักนิสัยพี่ชายคนนี้มา เธอมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นเลย การันต์จะต้องคิดทำอะไรเพื่อช่วยเอาศักดิ์ศรีคืนมาให้เธอ
ไหล่กว้างเลิกขึ้นสูง สอดมือเข้าในกระเป๋ากางเกง มองออกไปเบื้องนอกอย่างไรจุดหมาย ทว่านัยน์ตากลับมุ่งมั่น
“หมอบอกหรือเปล่า กี่วันถึงจะกลับบ้านได้” ชายหนุ่มไม่ตอบในสิ่งที่น้องสาวถามและยังถามไปเรื่องอื่น
“ไม่แน่ใจเหมือนกันคะ แต่คิดว่าไม่พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้แหละ” ไอ้เธอนะ อยากออกเสียงตั้งแต่วันนี้เลยด้วยซ้ำ นอนอยู่อย่างนี้ น่าเบื่อจะตายอยู่แล้ว ทำอะไรก็ไม่ได้ แม้กระทั่งจะลุกไปห้องน้ำเองก็ยังทุลักทุเลเลย แต่วันนี้ดีขึ้นหน่อย พอเดินไปเองโดยไม่ต้องให้แม่ช่วยพยุง
“ก็ดี ไปพักผ่อนสักพัก ทำใจให้สบาย ๆ ร่างกายหายดีเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาเอาคืน” ใครก็ตามที่ปล่อยข่าวแบบนี้ ต้องหวังผลไม่ให้เปรมมิกากลับไปหาทินภัทร เป็นการทำให้ฝ่ายหญิงเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย เขาซึ่งเป็นพี่จะต้องหาตัวให้เจอว่าเป็นใคร เพื่อจะทำให้รู้ว่าการเล่นงานคนในครอบครัวพิริยะสนิทชัยวงศ์ได้รับผลอย่างไร!
ถึงเธอไม่อยากทำตามความต้องการของพี่ชาย แต่เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแล้ว เธอต้องทำตามอย่างเดียว ขัดไม่ได้!
“ไม่ไปพักที่นั่นไม่ได้หรือคะพี่ใหญ่” แม้กระทั่งเดินทางใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้วก็ตาม เปรมมิกาก็ยังพร่ำบ่นและถามพี่ชายไม่ยอมหยุด ใบหน้าขาวสวยเบะง้ำอย่างกับคนจะร้องไห้ เมื่อผู้เป็นพี่ชายไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ
“ทำไมคะ ทำไมต้องให้เปรมไปพักที่นั่นด้วย ดูสิคะ ทางจะไปจะมาก็ลำบาก หลุมบ่อเต็มไปหมด แถมยังจะเป็นถนนดินลูกรัง ฝุ่นปลิวว่อนเต็มถนน ไกลไม่เท่าไหร่ แต่นี่มัน...บ้านป่าเมืองเถื่อนชัดๆ เลยนะคะพี่ใหญ่ พี่จะพาน้องสาวหน้าตาดี ๆ อย่างเปรมไปหมกตัวอยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้จริง ๆ หรือคะ” ท้ายสุดเมื่อบ่นเสร็จเปรมมิกาก็ทอดเสียงอ่อนเรียกร้องความสงสาร
“พี่ใหญ่ไม่กลัวบ้างหรือไงคะ ถ้ามีคนมาทำร้ายเปรมล่ะ” เปรมมิกาอ้อนถามเสียหวานจ๋อยให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ พาเธอกลับไปส่งบ้านหรือว่าที่ไหนก็ได้ที่ดีกว่าที่นี่ บ้านป่าเมืองเถื่อน ยังไงก็ต้องมีคนเถื่อน ๆ หน้าตาน่ากลัว นิสัยหยาบกระด้างอยู่ด้วยแน่นอน แล้วเธออยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แบบนี้ เกิดถูกรังแกละ ใครจะช่วยได้ หวังพึ่งพี่ชายหรือ...ก็อยู่ไกลเกิน หวังพึ่งไอ้บ้าคนที่พี่ชายหวังจะให้คอยดูแลหรือ ไอ้หน้ามหาโจร แล้วยังดำปิดปี๋อย่างกับถ่านไฟ แถมยังมีหน้าเดียวอีก หน้าตายยิ้มไม่เป็น ปากยังกับอมสุนัขไว้ทั้งฟาร์มแบบนั้น แล้วยังเกลียดขี้หน้าเธออย่างกับอะไรดี
เหอะ...ชาติหน้าตอนบ่าย ๆ แล้วล่ะ ที่ไอ้บ้าปากเสียนั่นจะมาคอยดูแลเอาใจใส่เธออย่างที่การันต์ฝากฝังไว้
“พี่ให้เรามาพักฟื้นร่างกายให้แข็งแรง และทำจิตใจให้แข็งแกร่ง พร้อมสำหรับการกลับไปอย่างผู้ที่เชื่อมั่นในตัวเอง ที่นี่แหละดีที่สุดแล้ว”
การันต์ตอบกลับเสียงเข้มงวด มาเพิ่มพลังให้กับร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำให้แข็งแกร่ง พร้อมที่จะกลับไปห้ำหั่นศัตรูผู้หมายคิดร้าย ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าการได้มาพักกับคนที่เขาไว้ใจได้ เขาคนนั้นนอกจากจะดูแลเปรมมิกาเป็นอย่างดีแล้ว ยังจะเอาหญิงสาวอยู่ด้วย แล้วที่สำคัญก็คือ...ที่นี่ไกลมาก ไกลจนญาติ ๆ ผู้ไม่หวังดีทั้งหลายแหล่จะไม่ตามมารังควาญซ้ำเติมเปรมมิกาให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจแน่นอน
“แต่มันไกลมากเลยนะคะ พี่ใหญ่ก็รู้ คนของพี่ใหญ่ก็ไม่ได้ชอบหน้าเปรมสักเท่าไหร่ด้วย อยู่ใกล้กันกลัวจะทะเลาะจนฆ่ากันตายเสียมากกว่า” เปรมมิกาเอ่ยด้วยความหงุดหงิดที่ไม่ปกปิดเอาไว้เลย เมื่อคิดถึงคู่แค้นที่เจอกันทีไรต้องปะทะคารมกันทุกครั้งที่เจอ
ก็มีอย่างที่ไหน เจอเธอครั้งแรกก็มาหาว่ายั่วยวนให้ท่า ผู้หญิงอย่างเธอนิสัยก็แย่ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เขาไม่คิดจะชายตามองให้เสียลูกกะตาหรอกนะ
ชิ...ไอ้คนปากเสีย ทำอย่างกับตัวเองดีนักหนา ขยันทำงานเหลือเกิน ว่างเป็นไม่ได้ต้องทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา แล้วยังทำตัวอย่างกับฤษีชีไพล ไม่สนใจผู้หญิงที่เขาทอดสายตาให้ ทำว่าพ่อนะรักมั่นคงอยู่กับผู้หญิงคนเดียว
แล้วเป็นไงละ สมน้ำหน้า บ้างานดีนัก เลยถูกแม่ผู้หญิงนั่นหันไปหาผู้ชายคนอื่น แต่พ่อเจ้าประคุณก็ยังทำเป็นไม่รับรู้ไม่สนใจ จนแม่แฟนใจกล้าพาท้องโย้ใกล้เกิดมาขอเลิก นั่นแหละถึงได้ทำเป็นว่าตัวเองนะรักเขามาก ที่ทำไปทุกอย่างเพื่ออนาคตและคนที่รัก แต่เป็นเธอ บ้างานหมกตัวอยู่แต่ในป่าปาล์มตั้งแต่เช้าตะวันยังไม่ทันจะขึ้น ไม่กลับบ้านถ้าหากตะวันยังไม่ตกดินอย่างนั้น เป็นเธอก็ขอเลิกเหมือนกันแหละ ขยันทำงานนะดีมาก แต่มันก็ควรที่จะรู้เวลาด้วย ไม่ใช่ทำหามรุ่งหามค่ำแบบนั้น
“ให้เปรมไปพักที่อื่นไม่ได้หรือคะพี่ใหญ่” เปรมมิกาทาบมือนุ่มบนแขนแกร่ง ช้อนนัยน์ตากลมโตเป็นประกายมอง แพหนังตายาวงอนอ่อนนุ่มกระพริบอย่างออดอ้อนซ้ำลงไปอีกเล็กน้อย