Episode 05
หลังจากที่เราขึ้นมาบนห้องแล้ว มาคัสก็ลากกระเป๋าของเรากลับเข้ามาต่อ ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดเชิงต่อว่าเรา
“นายหญิงอย่างอแงงไปเลยนะครับ”
“เราผิดอะไร!?” ร่างบางกอดอกพร้อมหันไปมองตาขวางใส่มาคัส “คนที่ผิดมันเจ้านายของมาคัสต่างหาก!”
“นายท่านทำทุกอย่างก็เพื่อนายหญิงนะครับ”
“เพื่อเรา? ตรงไหนไม่ทราบย๊ะ”
“อีกไม่กี่ปีข้างหน้านายท่านก็จะห้าสิบแล้ว ในจังหวะเดียวกันนายหญิงก็คงจะย่างเข้าเลขสาม นายท่านอยากให้นายหญิงเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไว้ ในภายหน้าที่นายท่านไม่อยู่ นายหญิงจะได้ปกป้องดูแลตระกูลต่อไปได้”
“แต่เราไม่มีความรู้นี่! แล้วเราก็ไม่ใช่ทายาทด้วย เราจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ แค่ให้ตวาดเสียงใส่บอดี้การ์ดคนอื่นๆ เรายังไม่เคยทำเลย (ตวาดใส่มาตินอย่างเดียว) เราเป็นผู้นำแทนเขาไม่ได้หรอก มาคัสเอาไปเถอะเรายกให้”
“ไม่ได้ครับ ผมไม่มีสิทธิ์ในตำแหน่ง ตามหลักแล้วหากไม่มีทายาท ภรรยาจะต้องเป็นผู้สืบทอดต่อ นายหญิงคงจะอยู่ได้อีกหลายปี เรียนรู้ไว้เถอะนะครับ”
“ก็รอหน่อยไม่ได้เหรอ? อีกสองปีเราก็เรียนจบแล้ว เดี๋ยวเขาก็คงจะทำให้เราท้องเองนั่นแหละ” ว่าพลางเชิ่ดหน้าใส่มาคัส “คุณเขาคงไม่ไร้น้ำยาขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“แต่มีลูกตอนอายุเท่านี้มันอันตรายนะครับ อาจจะมียากหรือไม่ถ้ามีได้ก็เกรงว่าจะพิการ เด็กอาจไม่แข็งแรง” มาคัสกล่าว “นายหญิงต้องโตได้แล้วนะครับ”
“พูดเหมือนเฮียไม่มีผิดเลย! ออกไปได้แล้วเราอยากอยู่คนเดียว”
“ครับ” มาคัสพยักหน้าก่อนที่จะเปิดประตูเดินออกไป
“เห้อ...” ร่างบางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนเตียง
เขาก็สี่ต้นๆ แล้วนี่เนาะ...จะมามีความคิดเล่นตลกแบบเด็กๆ เหมือนกับเราได้ยังไง อีกทั้งยังเป็นมาเฟีย การเลี้ยงดูก็ย่อมต่างจากที่เราเจอ
แต่เขา...
ก็ไม่ควรเอาเรื่องความตายมาพูดกับเราแบบนี้
เขาจะต้องอยู่กับเราตลอดไป แม้ว่าอายุจะห่างกันมากก็ตามแต่เขาก็ห้ามตาย ห้ามตายเด็ดขาด ห้ามตายหนีเราไปเด็ดขาด
เราไม่ยอมอะ!
แอ๊ด!
“ทำไมเธอยังไม่เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้อีก” เรานอนเล่นไปสักพักคุณเขาก็เปิดประตูเข้ามา “หรือยังมีความคิดที่จะไปอยู่?”
“เก็บให้หน่อย” เราดีดตัวขึ้นพร้อมทำหน้าอ้อนเขา
“ทีตอนเอาใส่กระเป๋า...ไม่เห็นมาเรียกให้ฉันช่วยเลยนะ” เขาแสยะยิ้มพร้อมกับมองกน้าเรานิ่งๆ “ไหง๋ตอนนี้มาใช้ฉันกัน”
“ก็ตอนนี้ขี้เกียจแล้ว”
“เธอเนี่ยมันจริงๆ เลยนะ” เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะเริ่มเปิดกระเป๋าลากของเรา “แบบนี้จะไม่ให้ฉันห่วงได้ยังไง ต้องเคี่ยวเข็ญให้หนักๆ เลยล่ะมั้ง”
“หยุดพูดเรื่องนี้สักชั่วโมงจะได้ไหมคะ” ร่างบางทำแก้มป่องด้วยความไม่พอใจ “เดี๋ยวเฮียก็พูดเรื่องความตายใส่หนูอีก อะไรๆ ก็เอาแต่วันหนึ่งถ้าฉันไม่อยู่”
“ฉันมีเธอเพียงคนเดียวนี่ ถ้าไม่ให้ฉันห่วงเธอ จะให้ฉันไปห่วงใครล่ะ ยังไง...ก็ช่วยเข้าใจและทำตามที่ฉันสั่งเถอะ เชื่อฉันมันจะดีต่อตัวเธอ”
“ก็ได้...แต่อย่าดุมากนะ น้องอ่อนไหว~” เรายิ้มตาพริ้ม ก่อนที่จะลุกไปช่วยเขาเก็บเสื้อผ้าของเราเข้าตู้ดังเดิม “มีไม้แขวนติดมาด้วยแน่ะ”
“จอมโจรขโมยไม้แขวนเสื้อ” เขากล่าว
“555” เราหัวเราะคิกคักเบาๆ ก่อนที่มือเรียวบางจะเอื้อมขึ้นไปลูบที่หัวของร่างสูง “ผมเริ่มขาวแล้ว ไว้เดี๋ยวหนูย้อมให้นะ”
“อืม” เขาพยักหน้าและยิ้มให้เราเล็กน้อย ก่อนที่เราทั้งสองจะช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเราใส่เข้าตู้เสื้อผ้าดังเดิม