Episode 06 "จะกลับบ้าน"

1210 Words
Episode 06 หลายวันต่อมา Talk อาบีร์ หลังจากที่เรา (เหมือนจะ) เข้าใจกันมากขึ้น คุณเขาก็เริ่มทำการเคี่ยวเข็ญเราให้เราได้เรียนรู้ระบบต่างๆ ภายในตระกูล อ่า...เราเข้าใจความรู้สึกของเขาแล้วล่ะค่ะว่าในตอนที่เขายังเด็กแล้วถูกพ่อและแม่เคี่ยวเข็ญให้เป็นผู้นำมันเป็นยังไง กรี๊ด! เหนื่อยชะมัดเลย! "นามสกุลรีเจนท์ทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์มีสิทธิ์ใช้ตั้งแต่ทายาทตัวจริงไปจนถึงคนสวน แต่ในกรณีนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลรีเจนท์แต่อย่างใด แล้วแต่ความต้องการของคนคนนั้น ซึ่งหากบอดี้การ์ดสักคนแต่งงานมีครอบครัว ภรรยาของเขาก็สามารถใช้นามสกุลนี้ได้ด้วยเช่นกัน" มาคัสกล่าวถึงหลักการในการใช้นามสกุลของตระกูล "กรณีนี้สำหรับนายท่านทั้งสี่ใช้เกณฑ์เดียวกัน" "แล้วทำไม...คุณวาเรนติโน่ถึงไม่ใช้นามสกุลเดียวกันกับคุณซานติโน่ล่ะ ก็ในเมื่อพวกเขาเป็นตระกูลเดียวกัน เรื่องแก้แค้นในอดีตไม่น่าจะเกี่ยวกันนะ" ร่างบางเอ่ยถามด้วยความสงสัย คนหนึ่งเวราสนิกัส ส่วนอีกคนปีราเดกัส? "เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ คุณซานติโน่เป็นทายาทสืบมาแท้ๆ ตั้งแต่ท่านปู่ทวดเลย ส่วนคุณวาเรนติโน่สืบเชื้อสายมาจากน้องชายของท่านปู่ทวด โดยน้องชายของท่านปู่ทวดก็มีตระกูลแยกเป็นของตัวเองซึ่งก็คือปีราเดกัส แต่เพราะน้องของท่านปู่ทวดเสียชีวิตไปก่อน ทั้งสองตระกูลเลยถูกดึงมารวมกันครับ" "งั้นเราขอถามอีกคำถามนะ" "ครับ" "ทำไมเราต้องรู้เรื่องพวกนี้ด้วยเล่า! " ร่างบางตะโกนใส่มาคัสด้วยความหัวเสีย เรานั่งเสมือนกับเป็นทาสจำเลยผู้ถูกกดขี่มาคัสกดขี่ข่มเหงเราแล้วหลายต่อหลายครั้ง ส่วนคุณเขาก็เอาแต่นั่งมองเราสองคนนิ่งๆ เราพยายามที่จะเข้าใจและตั้งใจศึกษาเรื่องภายในตระกูลเพื่อความสบายใจของคุณมาติน แต่เราพยายามเเล้ว การเลี้ยงดูที่เราและเขาเติบโตมามันต่างกัน คนละวิธีกัน เราไม่สามารถอดทนอดกลั้นกับมันได้จริงๆ เรายอมแพ้ "เราไม่อยากอ่านแล้ว มันเยอะเกินกว่าที่เราจะรับไหว" เรามองตาขวางใส่ร่างสูงพร้อมกับผลักกองหนังสือที่อยู่ตรงหน้าออก "การเรียนของเรายังไม่เหนื่อยเท่านี้เลย" "ก็เพราะว่าการดูแลตระกูลมันเหนื่อยกว่ายังไงล่ะ ฉันถึงต้องเคี่ยวเข็ญเธอแบบคูณสอง" เขากล่าวหลังจากที่เงียบไปนาน "อดทนหน่อยสิ นี่แค่เริ่มเองนะ" "ความอดทนของคนเรามันต่างกันนะคะ เฮียอาจจะทนได้แต่หนูรับไม่ไหวจริงๆ หนูเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ไม่สามารถดูแลตระกูลแทนเฮียได้หรอก หนูคงไม่เหมาะกับมันจริงๆ " "กับอีแค่อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ของตระกูลรีเจนท์แค่นี้เธอก็บ่นแล้วเหรอ? มันยังมีอีกหลากหลายที่เธอต้องเรียนรู้นะอาบีร์ทั้งเรื่องตารางงานที่บริษัท ไหนจะการวางแผนเผื่อเกิดสงครามระหว่างตระกูลอีก มันไม่มีอะไรง่ายหรอกนะ ตั้งใจและมุ่งมั่นหน่อยสิ! " เขาเริ่มดุและยกแขนกอดอก "ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ ฉันก็คงจะตายไม่ได้แล้วจริงๆ " "ก็อย่าตายสิคะ! หนูไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะมาสืบทอดอำนาจต่อจากคุณนะคะ ไอ้ตำแหน่งอะไรนี่หนูไม่เคยคิดที่จะอยากได้มันเลยด้วยซ้ำไป ใครอยากได้ก็เอาไปเถอะค่ะ หนูขอเพียงแค่มีเฮียอยู่ข้างๆ หนูก็ไม่สนใจอะไรแล้ว" เราถอนหายใจออกมาอย่างอารมณ์เสีย "ถ้าการจะฝากตระกูลไว้กับหนูมันน่าเป็นห่วงมากนักก็อย่าตายสิ! " "ทุกคนเกิดมาไม่มีใครหนีความตายได้หรอกนะอาบีร์ ฉันบอกเหตุผลกับเธอไปหมดแล้ว มันไม่ใช่แค่ใครก็ได้! ถ้าอำนาจตกอยู่ในมือคนเลวๆ เธอรู้ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เธอเป็นภรรยาของฉัน เป็นคนรักของฉันเมื่อฉันตายทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ต้องเป็นของเธอตามสิทธิ์ ฉันกำลังสอนให้เธอเรียนรู้วิธีการปกป้องสิทธิ์ของเธออยู่นะ! " "เฮียก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีซะเมื่อไหร่กันล่ะคะ อย่าคิดว่าเฮียจะปิดบังอดีตที่ผ่านๆ มาของเฮียได้นะ เฮียค้ายาเสพติดเหนือไปกว่านั้นก็ค้าประเวณีแล้วยังค้าชิ้นส่วนมนุษย์อีก ถ้าจะบอกว่าเคี่ยวเข็ญหนูเพื่อไม่ให้อำนาจตกอยู่ในมือคนชั่วนี่หมายถึงใครล่ะคะ ขนาดเฮียเองยังไม่ใช่คนดีเลย" เราแซะเฮียเขาไปหนึ่งดอกด้วยความโมโหแต่เหมือนว่าคำพูดของเราจะแทงใจดำเกินไปจนทำให้... เพี๊ยะ!!! "น...นาย! " มาคัสเบิกตากว้างทันควันเมื่อภาพตรงหน้าผู้เป็นนายของเขาได้ง้างมือตบเรา ผู้หญิงที่เขาพร่ำบอกว่ารักและจะดูแลให้ดีที่สุด "อึก! " "บ...บัดซบ! " ีร่างสูงสบถหยาบพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยมือข้างนั้นที่ใช้ตบหน้าเรา "ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครทำร้ายหรือตบตีหนูเลย คุณน้าหรือแม้แต่คุณพ่อและคุณแม่ท่านก็ไม่เคยตบตีหรือใช้กำลังกับหนู อ๋อ! มีพวกของเเองเจล่าคนเดียวเท่านั้นที่กลั่นแกล้งและทำร้ายร่างกายหนู ถึงเฮียจะเป็นสามีแต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาตบหนู! " "ฉ...ฉัน" "หนูพยายามที่จะเข้าใจเฮีย แต่เฮียกลับไม่เคยเข้าใจหนูเลย เฮียเอาแต่พูดว่าถ้าวันนึงฉันไม่อยู่ พูดซ้ำซากๆ ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันมากนักก็ตายๆ ไปซะเถอะค่ะ! หนูพยายามไม่คิดและไม่นึกถึงวันนั้นที่ไม่มีเฮีย แต่เฮียก็เป็นคนรื้อมันขึ้นมาตลอด! ถ้าการที่เฮียมาเคี่ยวเข็ญหนูเพื่อที่จะยกอำนาจให้ในวันที่เฮียไม่อยู่แล้ว ถามตรงๆ เถอะนะคะ เฮียทำเพื่อหนูจริงๆ หรือทำเพราะอยากสืบทอดอำนาจตัวเองเฉยๆ กันแน่! " ว่าจบร่างบางก็เดินหนีขึ้นห้องไปทันที "อ...อาบีร์ ฉัน! " ปั้ง! เราวิ่งหนีขึ้นมาพร้อมกับปิดประตูดังลั่น ร่างบางทรุดตัวลงบนเตียงก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาด้วยความน้อยใจ เราก็ยอมรับในความผิดส่วนหนึ่งที่ตัวเองพูดแทงใจดำเขามากไปหน่อย แต่เขาก็เกินไปที่มาตบหน้าเรา "ไอ้มาตินคนบ้า บ้าที่สุดเลยมาตบหน้าเราแบบนี้ได้ยังไง อ...อึก! ไอ้คนเห็นแก่ตัว ทำเพื่อเราอะไรกันมันทำเพื่อตัวเองชัดๆ เลย ไอ้โชจูเน่าหมดอายุ ไอ้บ้า ฮือๆ " เรานอนร้องไห้อยู่แบบนั้นไปสักพักหนึ่ง เมื่อเริ่มได้สติ เราก็ดีดตัวขึ้นและลุกไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีกครั้ง "จะกลับบ้านแล้ว จะไม่ทนแล้วคนใจร้าย ไอ้บ้า ไอ้คนเฮงซวย ฮืออออ! "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD