Episode 04
“เธอพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง เธอกล้ามากนะที่พูดคำคำนี้ออกมา ฉันไม่เลิก!” มือหนากำหมัดแน่นพร้อมจ้องหน้าร่างบางเขม็งด้วยความโกรธ “อย่าทำตัวเป็นเด็กจะได้ไหม ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อเธอทั้งนั้น”
“เพื่อหนู...? ไม่อะ ถ้าเฮียทำเพื่อหนูเฮียจะไม่มาบังคับหนูแบบนี้ค่ะ เมื่อก่อนเฮียไม่เคยเป็นเเบบนี้เลย เดี๋ยวนี้มันเป็นเพราะอะไรเฮียถึงได้หน้ามือหลังตี...แบบนี้อะ!” เราตัดสินใจตวาดใส่เขากลับไป “มันน่าโมโห!”
“อ้าวๆ ฉันเป็นหัวหน้าตระกูลนะสาวน้อย มาพูดจาแบบนี้ได้ยังไง ฉันทำผิดตรงไหน ฉันก็ทำทุกอย่างเพื่อเธอ ถ้าวันหนึ่งฉันไม่อยู่ขึ้นมา คนที่ต้องดูแลแก๊งก็คือเธอ หัดโตเป็นผู้ใหญ่บ้างสิ”
“ถ้าเฮียยังเป็นแบบนี้ ถ้าเฮียยังไม่กลับมาเป็นคนเดิม เราก็เลิกกันเถอะค่ะ หนูไม่อยากทนแล้ว หนูเหนื่อย หนูท้อ!” เราทิ้งระเบิดไว้ลูกใหญ่ ก่อนที่จะรีบวิ่งหนีขึ้นห้องไป
“อาบีร์เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยกลับมาเดี๋ยวนี้ อาบีร์ กลับมา!” เสียงร่างสูงตะโกนเรียกตามหลังมา แต่เราไม่แคร์วิ่งหนีขึ้นห้องมาดุ่มๆ
พรึบ!
มือเรียวบ้างคว้าเอากระเป๋าลากใบใหญ่พร้อมกับหยิบยัดเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋าลงไปโดยไม่พับ
“อีตาบ้า! เมื่อก่อนไม่เคยจะเป็นแบบนี้เลย พอแก่แล้วเรื่องเยอะมากขึ้นหรือยังไงกันก็ไม่รู้ อาบีร์จะไม่ยอม อาบีร์จะไม่ทน บอกเลยว่าจะไม่ทนค่ะ!” เราบ่นพึมพำไปพลางเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปด้วยในตัว “เชอะ!”
ใบหน้าหวานเหลือบสายตามองไปที่ประตูห้องเล็กน้อย เผื่อว่าร่างสูงจะสำนึกได้และรีบวิ่งหน้าตื่นมาง้อ
ในขณะที่เรากำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าลากไปได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เราก็หยุดและหันมานับเลขในใจเผื่อว่าคนบางคนจะมาขอโทษ!
ที่ทำตัวเป็นคนแก่ไร้เหตุผล!
“นับถึงสิบแล้วนะ”
“.....”
“สามสิบแล้ว”
“....”
“หกสิบแล้ว”
“....”
“เจ็ดสิบแล้วนะคะ”
“.....”
“เก้าสิบแล้วนะ”
“.....”
“หนึ่งร้อยแล้วนะ!”
“ไม่ง้อก็ไม่ต้องง้อ ไม่ได้ขอให้ง้ออยู่แล้ว” เราทำหน้ามุ่ยก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋าลงไป
เราตัดสินใจแล้วว่าเราะะเลิกกับเขาและจะกลับไปอยู่บ้านกับคุณน้า
แม้ว่ามันจะทำใจยากก็เถอะ แต่เราก็ต้องสู้!
ก็เขาไม่ง้อนี่จะอยู่ทำไมเล่า เชอะ!
“ฉันว่าฉันก็พูดชัดเจนแล้วนะว่าไม่เลิก” เขากล่าวหลังจากที่เห็นเราลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาจากห้อง “อย่าให้ฉันต้องโมโห”
“เฮียเอาหนูไปเทียบกับเด็กสิบขวบ”
“ถ้าเธอจะงอนเรื่องไร้สาระแค่นี้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน”
“นี่เฮียจะไม่ง้อใช่ไหมคะ! ช...ใช่สิ! ผู้ชายก็เป็นแบบนี้กันทุกคน พอมีอะไรกับเราจนเบื่อก็หมดโปรโมชั่น จากผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นในวันนั้น กลายเป็นตาแก่ขี้บ่นในวันนี้!”
“ฉันก็แค่อยากให้เธอโตขึ้นก็เท่านั้นเอง”
“แล้วมันใช่เรื่องไหมย๊ะที่เอาไปเทียบกับเด็กสิบขวบ นั่นน่ะทายาทมาเฟีย ส่วนหนูน่ะแค่ภรรยาย่ะ!” เรายกแขนขึ้นกอดอก พร้อมเชิ่ดหน้าหนีเขาไปทางอื่น
จะง้อหรือไม่ง้อ! ผิดก็ยอมรับผิดสิอีตาบ้า!
“ฉันสี่สิบกว่าแล้วนะอาบีร์”
“สี่สิบกว่าที่มีนิสัยตาแก่ด้วยค่ะ ใส่วงเล็บตาแก่เข้าไป!”
“ถ้าวันนึงฉันไม่อยู่ขึ้นมาคนที่ต้องดูแลตระกูลต่อจากฉันก็คือเธอที่เป็นภรรยา จะให้ฉันยกให้ไอ้มาคัสเหรอ ตลก! มันเป็นของเธอ สิทธิ์ของเธอ ถ้าเธอไม่เรียนรู้เสียตั้งแต่ตอนนี้ เกิดวันนึงฉันไม่อยู่ขึ้นมาจริงๆ แค่มาคัสคนเดียวไม่สามารถช่วยเหลือได้หรอกนะ” เขากล่าว
“แต่ก็ไม่เห็นจะต้องเอาไปเทียบกับเด็กสิบขวบเลยนี่”
“ก็มันจริง...เธอยี่สิบต้นๆ แล้ว แต่ยังทำตัวง่องแง่งเหมือนเด็กสิบขวบ แล้วอย่ามางอนฉันนะ เพราะมันคือเรื่องจริงถามคนอ่านเขาก็คิดแบบฉัน” เขาว่าพลางแสยะยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ “สรุปยังไง? ยังจะไปอยู่ไหม”
“หนูก็แค่ซ้อมไว้เฉยๆ! ใครบอกว่าจะไปล่ะ!” เราเชิ่ดหน้าใส่ ก่อนที่จะเดินหนีขึ้นห้องไป
“พอเถียงไม่ออกก็เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย แบบนี้จะไม่ให้เคี่ยวเข็ญได้ยังไงล่ะ” ร่างสูงส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปสั่งมาคัส “เอากระเป๋านายหญิงไปเก็บไป”
“ครับนายท่าน” มาคัสพยักหน้า ก่อนที่จะรีบลากกระเป๋าของเราขึ้นห้องตามมา