Episode 09
“ฉันจะไป USA น่ะ พอดีตกลงกับนักลงทุนที่นั่นว่าจะขยายกาสิโนไปที่ USA ซึ่งแน่นอนว่าฉันจะไม่มีทางปล่อยลูกกับภรรยาให้อยู่เพียงลำพัง” เลอัลโด้ว่าพลางยื่นนามบัตรให้ร่างบาง “กาสิโนเปิดใหม่ที่ USA วันเปิดงานก็เรียนเชิญด้วยล่ะ”
“หนูขอไปด้วยนะคะคุณเลอัลโด้ หนูไม่อยากอยู่กับแฟนเก่า!” เธอพูดก่อนที่จะหันมาเน้นย้ำคำว่าแฟนเก่าใส่ผมในประโยคสุดท้าย “หนูสัญญาจะไม่ไปเป็นภาระ”
“แฟนเก่า...? หมายความว่ายังไง” อันนาที่เพิ่งเดินออกมาจากในตัวคฤหาสน์กล่าวถาม “อย่าบอกนะว่าพวกเธอสองคน?”
“อืม...ฉันกับอาบีร์เราเลิกกันน่ะ” ผมตอบอันนาออกไปอย่างเบื่อหน่าย และผมก็เชื่อว่าในประโยคถัดมายัยอันนาจะต้องถามว่าเพราะอะไร “อาบีร์เธองี่เง่าอยากจะเลิก”
“ใครงี่เง่ากันแน่คะ! หนูเปล่าสักหน่อย เฮียนั่นแหละค่ะที่งี่เง่าและไร้เหตุผล เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ บังคับให้หนูทำถาม วันๆ เอาแต่พูดว่าถ้าฉันไม่อยู่!”
“ฉันไม่มีเหตุผลตรงไหนไม่ทราบ! เหตุผลของฉันมันยังฟังขึ้นกว่าเธออีก! คนที่ไร้เหตุผลและเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่นั่นมันเธอต่างหาก เธอไม่น่ารักอีกแล้วรู้ตัวไว้ด้วย!”
“ก็ถ้าชอบแบบน่ารักทำไมไม่ไปจีบสาวคลอสเพลย์เล่า!”
“พอๆ ฉันพอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมทัังสองคนถึงได้เลิกกัน” อันนากล่าวก่อนที่จะคว้ามือไปจับมือร่างบางเบาๆ “ฉันคิดว่าทุกคนย่อมมีเหตุผลเสมอ ใจเย็นๆ และค่อยๆ ปรับความเข้าใจกันก่อนเถอะนะ”
“หนูพยายามใจเย็นที่สุดแล้วค่ะ แต่เฮียเขานั่นแหละที่ไม่ฟังหนูเลย เขาเอาแต่นึกถึงอนาคตจนลืมสนใจความรู้สึกของหนูในปัจจุบันหรือตอนนี้ที่เป็นอยู่อะ!”
“แต่ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อเธอนะ ฉันจะลงโรงอยู่แล้ว ฉันอยากจากไปอย่างสงบโดยที่ไม่ต้องห่วงอะไร ฉันอุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่เธอกลับมองว่าฉันเห็นแก่ตัว ชิ!”
“ท่าทางจะยากจริงๆ” เลอัลโด้พูด “ก็อยากจะอยู่เป็นผู้พิพากษาตัดสินความผิดให้อยู่หรอกนะ แต่ฉันมีหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องทำ”
“ไว้กลับมาค่อยคุยกันนะอาบีร์ ฉันไปก่อนล่ะอัลวินรอฉันอยู่ด้านใน” อาบีร์พยักหน้าก่อนที่ชายหญิงทั้งสองจะพากันขึ้นรถไป และบอดี้การ์ดของเขาก็ขับรถไปส่งพวกเขาที่สนามบิน
“......”
หลังจากที่รถของอันนาและเลอัลโด้ขับออกไป เราทั้งสองก็ต่างยืนเงียบใส่กัน ไม่มีใครพูดอะไร แล้วเธอก็ไม่ได้เดินไปไหนอีกด้วย
“จะอยู่ที่นี่หรือยังไง มันไม่ใช่บ้านเธอนะ” ผมตัดสินใจพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่เชิ่ดหน้าใส่และท่าทางก็จะเงียบลูกเดียว
จะไม่ยอมพูดจา!
“ถ้าเธอไม่ตอบ ฉันก็จะปล่อยเธอทิ้งไว้ที่นี่” ผมไหวไหล่และหมุนตัวไปที่รถของตนเอง แต่ไม่ทันที่ผมจะได้เปิดประตู ร่างบางก็รีบวิ่งขึ้นรถแซงผมไปเสียก่อน
สรุป...วันนี้ก็ไม่ได้เลิกนั่นแหละ
ปึก!
ผมปิดประตูรถพร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัย ก่อนที่ผมจะสตาร์ทรถ ผมก็หันไปมองหน้าเธอนิ่งๆ เผื่อว่าเธอจะตัดสินใจได้ว่าจะเอายังไงต่อ
แต่เธอกลับเงียบใส่และไม่มองหน้าผม เธอเงียบอยู่นานเกือบจนสิบนาทีผ่านไปเธอก็ยังไม่ตอบกล่าวว่าจะไปที่ไหนต่อ
ผมจึงตัดสินใจแทนเธอ ขับกลับคฤหาสน์ของตัวเองแทน
สิ่งที่พี่สาวและแม่ของผมโดนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนคือสิ่งที่แสนเจ็บปวดและมันจะไม่มีวันหายไปจากชีวิตของผม
มันยังคงหลอกหลอนอยู่ในหัวสมองของผมตลอดเวลา
มัลฟรอย ฟรีซ รีเจนท์ พ่อของผมตาย เหลือเพียงแม่ พี่สาวและผม แม่ของผมไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับแก๊งนี้เลย ลำพังตัวเองเองในตอนนั้นก็ยังเด็กอยู่จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรแม่ได้มากเท่าที่ควร
ในคืนที่ฝนตกหนัก กองทัพของตระกูลหนึ่งกรูเข้ามาล้อมรอบคฤหาสน์บ้านของผมไว้ บอดี้การ์ดที่อยู่ภายในบ้านต่างตกใจกลัว เพราะคฤหาสน์ตระกูลรีเจนท์มีเป็นแสน แต่พวกที่มากลับมีเยอะกว่า
มากพอที่จะล้อมคฤหาสน์ไว้ได้ทั้งหลัง!
ตระกูลของผมยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร อย่างที่ทุกคนได้รู้กัน (ในภาคแรก) ว่าบรรพบุรุษของผม ลูแปง รีเจนท์คุณปู่ทวดของผม ท่านยิ่งใหญ่จนสามารถเป็นเลขาของประธานาธิบดีได้
จนเกือบจะได้เป็นประธานาธิบดีเสียเองถ้าไม่ป่วยตายไปเสียก่อน
ในคืนนั้นทุกคนต่างนองเลือด แม่บ้าน สาวใช้ คนสวน หรือแม้แต่เด็กธรรมดาลูกของคนสวน คนใช้ก็ถูกฆ่าตายหมด!
ค่ำคืนนั้นมันเป็นค่ำคืนที่ทรมานที่สุด พวกมันล้อมรอบคฤหาสน์เอาไว้จนไร้ทางหนี แม่และพี่สาวกอดผมไว้แน่น (ในตอนนั้นพี่สาวยี่สิบ ห่างกันสิบปี)
พวกเขาปกป้องผม ก่อนที่สุดท้ายแล้ว เมื่อทุกคนตายหมดไม่เหลือใคร พวกมันก็เข้ามาคุมตัวแม่และพี่สาวของผม รวมถึงตัวผมไปด้วยเช่นกัน
ภาพตรงหน้า...คือแม่ผมถูกผู้นำจากในหลายตระกูลรุมข่มขืนต่อหน้าต่อตาของผม! พวกมันปล่อยร่างกายอันเปลือยเปล่าของแม่ผมไว้บนเตียง
ก่อนที่สุดท้ายแม่ของผมจะผูกคอตายไปในที่สุด! เพราะท่านอายที่ตนเองไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แถมยังมาถูกข่มขืนต่อหน้าลูกชายอันเป็นที่รักอีก
หลังจากที่แม่ของผมผูกคอตาย ผมก็ไม่มีเวลาให้เสียใจ เพราะพวกมันจะฆ่าผมต่ออย่างแน่นอน! ผมคือทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลที่เหลืออยู่ ถ้าไม่ฆ่าผมวันหนึ่งผมต้องกลับไปแก้แค้นพวกมันอย่างแน่นอน!
และใช่!
ผมทำแบบนั้น!
ผมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด โชคดีที่คนสวนแก่ๆ คนหนึ่งเขาใจอ่อนและยอมช่วยเหลือผม เขาพาผมหนีออกมาและเลี้ยงดูผมเป็นอย่างดีเสมือนลูกขายคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่ตามหลักอายุความจริงผมควรเป็นเหลนเขามากกว่า
ผมเรียกเขาว่าคุณปู่ ท่านเลี้ยงดูและสั่งสอนผมเป็นอย่างดี อดีตท่านเคยเป็นนักฆ่ามาก่อน เพราะอาชีพที่เสี่ยงตายและไร้คนที่จะเข้าใจท่านจึงวางมือและเปลี่ยนมาเป็นคนสวนแทน
และเขาก็สอน....วิถีของนักฆ่าให้กับผม!
ผมเริ่มฆ่าคนไปเรื่อยๆ สร้างรากฐานและอำนาจของตัวเองขึ้นมา และไล่ฆ่าผู้นำตระกูลเลวๆ พวกนั้นทีละคนที่มันทำแม่และพี่สาวของผม
ผมทำแบบที่พวกมันทำ มันล้างบางผมแบบไหนในคืนนั้น ผมก็ทำแบบเดียวกันกับมันเหมือนกัน!
พอหลังจากที่มันตายทุกอย่างรวมถึงลูกน้องบอดี้การ์ดของมันก็ตกเป็นของผม!
ผมแก้แค้นได้สำเร็จและฟื้นฟูตระกูลของตัวเองกลับขึ้นมาได้
แต่พี่สาวของผมถูกจับไปเป็นนางบำเรอ ของผู้นำตระกูลหนึ่งในฝรั่งเศส จะเรียกว่าเป็นโชคดีก็ได้ที่พี่สาวของผมไม่ถูกฆ่าหรือรุมข่มขืน!
แต่มันก็ไม่ใช่โชคดีไปเสียหมด เพราะผู้นำคนนั้นก็ข่มขืนพี่สาวของผมจนเธอตั้งท้อง ในวันที่ผมไล่ฆ่าพวกมันทีละคน ผมก็ฆ่าไอ้สารเลวที่ข่มขืนพี่สาวของผมด้วยเช่นกัน
แต่ผม...ไม่รู้ว่าพี่สาวกับหลานของผมไปอยู่ที่ไหน ไม่เห็นแม้แต่ศพหรือเงา
พวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่หรือตาย
และผม...ก็จะไม่มีวันยอมให้อาบีร์ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนั้นเหมือนที่ครอบครัวของผมเจออีก! ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะปกป้องเธอให้ได้!
แม้ว่าตอนนี้หัวแม่งเริ่มหงอกเยอะแล้วก็ตาม!