Episode 08 "เลิกกัน(ไม่รอด)" #2

1296 Words
Episode 08 Talk มาติน ผมก็เป็นคนขับรถมาส่งเธอที่คฤหาสน์ตระกูลเวราสนิกัส ตามที่ใจเธอต้องการ ผมไม่ขัดและไม่รั้งเธอไว้ เพราะผมรู้ดีว่าคู่เรามันไปกันไม่รอด หมายถึงเลิกกันไม่รอด —.— “ถึงแล้ว” “อือ...” เธอตอบและกำลังเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ตลอดทางเธอเอาแต่นั่งเสียบหูฟังไม่ยอมพูดจา “จะไปจริงๆ เหรอ?” ผมเลิกคิ้วถามเธอนิ่งๆ อีกครั้ง “เราสองคนคงไปกันไม่รอดหรอกค่ะ ตราบใดที่เฮียยังเห็นแก่ตัวเองแบบนี้” เธอว่าพลางกำกระเป๋าไว้แน่น “ฉันเห็นแก่ตัวตรงไหน ฉันก็ทำเพื่อเธอมาตลอด” “ก็ตรงที่พยายามยัดเยียดความคิดของตัวเองให้คนอื่นทำตามไงคะ” “.....” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “เฮียเอาแต่...ถ้าฉันตายขึ้นมา ถ้าฉันไม่อยู่ขึ้นมา จนลืมนึกถึงความรู้สึกของหนู ว่า ณ เวลานี้หนูต้องการอะไร เวลานี้ที่เฮียยังมีลมหายใจ ไม่ได้ตายจาก!” “แล้วถ้าฉันไม่เคี่ยวเข็ญเธอเสียแต่ตอนนี้ เกิดวันหนึ่งฉันตายขึ้นมาจริงๆ เธอไร้ความรู้จนถูกแย่งอำนาจขึ้นมาล่ะ เรื่องนี้เธอจะตอบฉันแบบไหน” ถ้าเธอบอกว่าผมไม่มีเหตุผล เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ! “ก็ถ้าเวลานั้นเฮียไม่ได้อยู่กับหนูแล้วจริงๆ หนูก็จะยอมตาย...ใครอยากได้อะไรก็เอาไป ถ้ามันทำให้หนูตายแล้วได้เจอเฮีย หนูก็ยอม” เธอตอบ “แต่ฉันไม่ได้อยากให้เธอตาย ฉันอยากให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป” “อยู่โดยที่ไม่มีเฮียหนูอยู่ไม่ได้หรอกค่ะ อำนาจและเงินทองของเฮียหนูไม่ต้องการ ต่อให้มันเป็นสิทธิ์ที่หนูจะต้องได้หนูก็ไม่ต้องการ หนูต้องการแค่เฮีย” “ถ้าเธออยู่ไม่ได้เพราะว่าไม่มีฉัน แล้วจะไปทำไมล่ะ” “เอ่อ...” เธอชะงักไปเล็กน้อย เมื่อได้ฟังประโยคล่าสุดของผม “อึก!” “คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะไปน่ะ” “ค่ะ! ถึงแม้ว่าช่วงแรกอะไรๆ จะยังไม่ค่อยลงตัวก็ตาม แต่หนูมั่นใจในตัวเองมากพอว่าคิดดีแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอให้เธอโชคดี” ผมพูดทิ้งท้ายก่อนที่เธอจะปาดน้ำตาลวกๆ และเปิดประตูลงจากรถไป ความคิดและการเลี้ยงดูที่ต่างกันของเราสองคน บวกกับช่วงอายุที่เสมือนพ่อกับลูก มันทำให้เราสองคนยากที่จะเข้าใจกันและจูนกันได้ยาก ถึงยังไงผมก็ยังเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองอยู่ดีนั่นแหละ ผมเชื่อว่าตัวเองมีเหตุผลมากพอ ลองคิดตามผมสิว่าตระกูลของผมมีอะไรบ้าง อำนาจที่อยู่มาช้านาน ผมยังไม่มีลูกแล้วก็ไม่มีญาติที่ไหน เป็นผู้นำตระกูลที่โดดเดี่ยว หากผมตายสิทธิ์ในทรัพย์สินก็คือเธอ แต่เธอเป็นผู้หญิง ยิ่งไม่มีความรู้ในด้านนี้ก็ยิ่งลำบาก ถ้าผมเคี่ยวเข็ญเธอเสียแต่ตอนนี้ เธอจะมีความรู้และสามารถดูแลตระกูลสืบต่อไปได้อีก โดยที่ผมไม่ต้องห่วง เธอจะเป็นผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งที่ยืนได้ด้วยตัวเอง ถ้าเธอมีความรู้บวกกับมาคัสคอยซัพพอร์ต ต่อให้เธอเป็นผู้หญิง ก็จะไม่มีใครกล้าหือกับเธอ อีกสิ่งที่สำคัญ...คือหากผมตายไป เมื่อไร้ผู้นำและบวกกับเธอที่ไร้ความรู้ ศัตรูของผมหรือตระกูลอื่นๆ จะต้องเข้ามาล้างบางคนในตระกูล ใช่! มันจะฆ่าทุกคน....แต่มันจะไม่ฆ่าเธอ! เธอคือคนสำคัญ เธอคือหัวใจของผม หากในตอนนั้นที่ผมไม่อยู่แล้ว เธอก็จะเป็นผู้นำเพียงคนเดียวของตระกูล เมื่อล้างบางสำเร็จ มันจะจับเธอไป ไม่เอาไปขายก็คงจะทรมานเธอจนเจียนตาย ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก! เหมือนกับที่แม่และพี่สาวของผมเคยเป็น! ปึก! เสียงประตูรถของผมถูกเปิดและปิดอีกครั้งในเวลาต่อมา หลังจากที่ร่างบางลงจากรถไปได้ไม่นาน เธอก็กลับขึ้นมาใหม่อีก กลับมา...? ใช่! เธอลงและเข้าคฤหาสน์ตระกูลเวราสนิกัสไปแล้ว และเธอก็เพิ่งจะเปิดประตูกลับขึ้นมาเมื่อกี้นี้! ตะกี้เลย! “คุณตาหวานกับคุณซานติโน่กลับประเทศไทยอีกสองสัปดาห์จะกลับ” เธอกล่าวหน้าบึ้ง โดยไม่มองหน้าผมเลยแม้แต่นิดเดียว “สุดท้าย...โชคชะตาก็ไม่ต้องการให้เราเลิกกัน” ผมแสยะยิ้มพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆ เเต่เธอกลับสะบัดตัวออก หนีจากมือของผม “หึ” “ชิ!” “กลับคฤหาสน์ของเราเถอะ” ผมกล่าวพร้อมกับคาดเข็มขัดและสตาร์ทรถเตรียมขับออกมา “ไม่! หนูไม่กลับค่ะ” เธอชิงพูดตัดบทของผมเสียก่อน ก่อนที่ผมจะเริ่มขับรถ “ยังไงหนูก็ไม่กลับอะ!” “แล้วเธอจะไปที่ไหน ไอ้ซานติโน่กับยัยตาหวานมันก็ไม่อยู่ เธอไม่ใช่เจ้าของนะที่จะเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ” “ไม่รู้อะ...ถึงยังไงหนูก็จะไม่กลับไปกับเฮียเด็ดขาด ไม่มีทาง! เราเลิกกันแล้ว ตอนนี้เราเป็นแฟนเก่ากันค่ะ!” “แล้วเธอจะไปไหน?” ผมดับเครื่องรถและหันไปจ้องหน้าเธอด้วยความหัวเสีย ยัยนี่ไม่ยอมกันง่ายๆ เลยทีเดียว! “หนูจะไปหาคุณคามิลล่าค่ะ! จะไปนาโปลี!” เธอตอบ “ฉันขับรถจากมิลาโนมามาซซาคาร์ราร่าแค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ยังจะมาใช้ให้ฉันพาเธอไปนาโปลีอีกเหรอ!” ผมเริ่มขึ้นเสียง เมื่อเธอเริ่มเอาแต่ใจ “หนูไม่ได้ขอให้เฮียมาส่งเสียหน่อย หนูขอมาคัสต่างหากค่ะ แต่คุณนั่นแหละคว้ากุญแจรถอยากจะมาส่งหนูเอง เชอะ” เธอเชิ่ดหน้าใส่พร้อมยกแขนขึ้นกอดอก “ชิ...ไปก็ไป!” ร่างสูงมองตาขวางใส่ร่างบางเล็กน้อย ก่อนที่จะสตาร์ทรถขึ้นมาอีกครั้งและขับไปยังเมือง (จังหวัด) นาโปลี เมืองที่วาเรนติโน่และคามิลล่าอยู่” ผมอยู่ที่มิลาโน ซานติโน่ = มาซซาคาร์ราร่า วาเรนติโน่ = นาโปลี เลอัลโด้ = ราเวนนา “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะอาบีร์แต่ฉันต้องพาหนูเบลฯ ไปเที่ยวที่ชายหาด Cala Mariolu Sardinia (ชายหาดแห่งหนึ่งในอิตาลี) น่ะ อีกสองสามวันกลับ ไว้ฉันกลับมาเธอค่อยมาพักที่นี่นะ” คามิลล่าว่าพลางอุ้มลูกน้อยไปขึ้นรถ “ไว้จะโทรหานะที่รัก” ปึก! คามิลล่าปิดประตู ก่อนที่แอริสจะเดินไปยังฝั่งคนขับและขับรถออกจากคฤหาสน์ไป “ห้องที่คฤหาสน์ของฉันยังว่างนะเจ้าหญิง” ร่างสูงแสยะยิ้มพร้อมวางมือลงบนไหล่ของเธอ “หึหึ” “ไม่ไป! คนเลิกกันที่ไหนเขายังอยู่ที่เดียวกันนอนด้วยกันเล่าคะ คุณ! แฟน! เก่า!” เธอพูดเน้นย้ำทีละคำ ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถ “หนูจะไปหาคุณอันนา!” “อ่า....เจ้าหญิงพระองค์นี้ช่างเอาแต่ใจตัวเองเหลือเกิน กระหม่อมตามไม่ทันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ผมยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะขึ้นรถตามเธอไป และพาเธอไปที่เมืองราเวนนา เชื่อเถอะว่าสุดท้ายเธอก็ต้องกลับมิลาโน เพราะอะไรน่ะเหรอ? เลอัลโด้มันไป USA! หึหึ! ยังไงวันนี้ก็ไม่ได้เลิกกันหรอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD