Chapter.7 จำใจลา

1459 Words
“ว้ายย” เธอตกใจจนรีบดึงผ้าอ้อมมาคลุมหน้าอกเปลือยที่เพิ่งให้นมลูกเสร็จ “โทษทีฉันไม่ได้ตั้งใจ ได้ยินเธอร้องฉันเลยรีบเข้ามา” “งูค่ะ ฉันเจองู มันขดอยู่หลังตะกร้าผ้าอ้อมเอเดน” เธอชี้ไปที่ด้านหลังตนเอง นั่งตัวสั่นเทิ้มไม่กล้าขยับแรงกลัวว่างูจะฉก ร่างใหญ่นั่งคุกเข่ามือยันพื้นยื่นใบหน้าออกไปมองจุดที่เธอชี้ “โอเค นี่งูมีพิษ ... ชู่วว เงียบๆนะ นั่งนิ่งๆ อย่าขยับเด็ดขาด” “อื้อ” เธอพยักหน้า สายตาเหลือบมองเอเดนซึ่งหลับปุ๋ยอยู่ ภาวนาอย่าให้มันกัดลูกเธอเลย มาเฟียหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ๆราวกับตีนแมว เต๊นท์ขนาดกระทัดทัดสำหรับเขาใช้นอนคนเดียวค่อนข้างแคบท่อนแขนล่ำจึงชิดแผ่นหลังเธออย่างช่วยไม่ได้ มุมปากเผลอยกยิ้มขณะควักมีดออกมาพร้อมเล็งเป้า เธอนั่งตัวสั่นใจเต้นแรงจนเขารู้สึกได้ และเขาจงใจที่จะเล็งเป้านานเกินควร รับไออุ่นจากแผ่นหลังนิ่มแล้วแขนร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง กลัวเธอจะจับได้จึงรีบจัดการกับงูนั่น ฟิ่วว ฉั่บ เสียงมีดฉวัดตัดงูตัวใหญ่ขาดออกเป็นสองท่อน ส่วนหางยังดิ้นแด่วๆมาทางเธอ “อื้อ” เธอตกใจจนเผลอกอดกระโดดเกาะวงแขนล่ำเอาไว้ เท้าใหญ่เหยียดสุดเขี่ยมันออกไปนอกเต็นท์ “โรส ถ้าอีกสามวิเธอไม่ปล่อยฉัน อย่าหาว่าฉันใจร้ายนะ” “อุ๊ย โทษค่ะ ฉันไม่ได้จงใจจะ..” เธอรีบอธิบายออกมาจนดูลนลาน “ฉันรู้” เขาถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ หยิบผ้าห่มปกคลุมไหล่เธอให้ปกปิดหน้าอกอวบนั้น เธอคงกลัวมากจนลืมว่าตนเองไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ “งั้นคุณก็รีบๆออกไปได้แล้วค่ะ” “เหอะ ก็แน่นอนอยู่แล้ว คิดว่าฉันจะขอนอนในเต็นท์กับเธอเหรอ?” “...” เธอก้มหน้างุด “และคืนนี้ก็คงต้องนอนเฝ้านอกเต็นท์อีกเพราะกลัวเอเดนจะโดนงูกัดเข้า” “โชคดีของเราที่ได้เจอคนดีๆ แต่คงจะเป็นคราวซวยของคุณ ฉันขอโทษนะคะ” “เห้อ พอๆ ฉันเบื่อคำว่าขอโทษ ขอบคุณ เต็มทีแล้ว ใช่ อาจจะเป็นคราวซวยอย่างที่เธอว่าจริงๆ” เขาระเบิดอารมณ์ใส่ก่อนออกมานั่งดื่มอยู่ข้างกองไฟเพื่อคลายความหงุดหงิด ..หงุดหงิดอะไร หงุดหงิดตัวเองที่ทำตัวดีเกินไป หรือหงุดหงิดเธอที่หวงเนื้อหวงตัว ..แต่เธอก็ไม่ผิดนี่ ทั้งคืนเอาแต่เดินวนรอบเต๊นท์เฝ้าดูแลด้านนอกพร้อมถกเถียงความรู้สึกของตนเองจนนอนไม่เป็นอันหลับ อีกฝั่งที่เป็นสามีเองก็เป็นห่วงเธอและลูกจนนอนไม่หลับเช่นกัน เขาและผองเพื่อนกลุ่มใหญ่นั่งผิงไฟดื่มเหล้าเพื่อคลายความตึงเครียดในหัวเตรียมเดินหน้าออกตามหาเธอต่อ สถานการณ์ในซุนดาลีกลับตาลปัตรไปในทิศทางที่ดีเมื่อ ซูราส หัวหน้ากลุ่มกบฎถูกกำจัดจนหมดสิ้นพร้อมกับคำสั่งระเบิดเขื่อนก็เป็นอันล้มเลิกตามไปด้วย ชาวซุนดาลีต่างดีใจเป็นที่สุดโดยเฉพาะโซนตะวันตก ประชาชนพร้อมใจกันยกย่องให้รัสจาร์ผู้ปราบกบฏขึ้นเป็นผู้นำ โดยหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังเขาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์สังหารผู้นำปัจจุบันของซุนดาลี แล้วเกิดหักหลังแสดงละครเป็นฮีโร่เพื่อมาช่วยเหลือประชาชนชาวซุนดาลีได้อย่างแนบเนียน “เรื่องเมื่อคืน คือ ..ฉันขอโทษนะ” เสียงทุ้มยอมเป็นฝ่ายเอ่ยก่อนในที่สุด หลังจากที่เธอเอาแต่เงียบตลอดทางจนเขาทนไม่ไหว ส่วนคนสงสัยในทางผิดๆคงหนีไม่พ้นลูอิสที่นั่งขับรถไปพร้อมแววตาล่อกแล่กออกอาการหูผึ่ง “ฉันสิคะต้องขอโทษ ที่คุณไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเพราะฉัน” ยิ่งประโยคของเธอแล้วอูลิสยิ่งคิดกันไปใหญ่ “เอาล่ะๆ เราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก เพราะฉันมีข่าวดีจะบอกเธอ” “คะ?” “สถานการณ์ในซุนดาลีกลับมาเป็นปกติสุขแล้ว และหมู่บ้านเชิงเขาของเธอก็ไม่ต้องจมน้ำแล้ว” “จริงหรือคะ เรื่องจริงใช่มั้ย?” เธอเอื้อมมือมาเขย่าแขนล่ำอย่างดีอกดีใจ “อืมฮื้ม กบฏถูกผู้นำคนใหม่จัดการหมดแล้ว” “เย้ เรารอดแล้วเอเดน ฮึก เรารอดแล้ว” ดวงตาคมอิดโรยแอบมองรอยยิ้มหวานๆแล้วชุ่มฉ่ำหัวใจ แม้ตนเองจะทราบที่มาที่ไปถึงเหตุการณ์ในประเทศเล็กๆนี้ดีกว่าใคร ผู้นำคนใหม่นั้น เป็นคนเดียวกันที่คุยสายกับเขาเมื่อวาน ช่วงนี้ประชาชนอาจจะดีใจและมีความสุขมาก แต่คาดว่าคงสงบสุขได้ไม่นานนักหรอก “ งั้นคุณจอดให้ฉันและลูกลงเลยก็ได้นะคะ” “ได้ไง ก็ไหนๆฉันก็จะขับผ่านหมู่บ้านของเธออยู่ดี” “ฉันเกรงใจ” “เห้อ เอาน่า ถือซะว่าเป็นโชคดีของเธอที่ฉันถูกชะตากับเจ้าหนูชูนิ้วกลางทักทายฉันนี่ไงฉันถึงได้พาพวกเธอขึ้นรถ” “ฮ่าๆๆ นั่นสินะคะ และไหนๆเราคงไม่ได้เจอกันอีก ก็คงรบกวนให้สุดเลยแล้วกัน” “..” ไม่ได้เจอกันอีก? นั่นสิ ..เห้อ รู้สึกใจหายจัง อยากนั่งมองเธอไปอย่างนี้นานๆ เหลืออีกประมาณค่อนวันสินะที่จะได้อยู่ใกล้เธอ ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มหยิบมือถือขึ้นสั่งลูอิสให้ลดความเร็วรถผ่านทางข้อความ “ทางข้างหน้ามีอะไรหรือคะทำไมถึงได้ขับช้าลง?” “อะ ฮึ่ม ฉันแค่อยากชมวิวชายหาดสวยๆน่ะ” เขาตอบพร้อมหันหน้ามองออกไปด้านนอก ชมท้องทะเลสีครามตัดกับสีขาวของหาดทรายช่างสวยงามจริงๆ “ว้าว ทะเลวันนี้สวยจริงๆด้วยค่ะ...เอ๊ะ?” เมื่อพบเรือเฟอร์รี่ที่บรรจุผู้คนจนเต็มลำ เธอพยามเพ่งอ่านตัวอักษรท้ายเรือ พบว่าชื่อเรือลำนั้น อ่านว่า ซอจิน ซึ่งเป็นนามสกุลของโจว์อาร์ ต้นตระกูลของโจว์อาร์เป็นตระกูลผู้ดีเก่าค่อนข้างมียศถาบรรดาศักดิ์ และมีเรือใหญ่ประจำตระกูลไว้เผื่อซุนดาลีมีเหตุฉุกเฉินให้ต้องอพยพไปยังที่อื่น โจว์อาร์เคยบอกเธอว่าอย่างนั้น “จอดๆค่ะ ฉันจะลง” “หืม?” “ฉันจะขึ้นเรือลำนั้น ฉันรู้จักพวกเค้าดีค่ะ” “แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะปลอดภัย” “ไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยเท่าเรือลำนั้นแล้วค่ะ” คำตอบนั้นทำคนฟังหน้าชาชะงักไปทันที “เพราะเรือลำนั้นเป็นของญาติสามีฉัน ฉันมั่นใจสามีและครอบครัวเขาอยู่ที่นั่น เค้าเคยบอกฉันไว้ค่ะ” “...ออ งั้นหรือ” “เย้ เอเดนลูก เราจะได้กลับบ้านกันแล้วนะ” “กลับทางเรือจะถึงช้ากว่าอีกนะแถมไม่ได้นั่งสบายเหมือนในรถฉันด้วย” เขาเปรยเสนอทางเลือกให้เข้าทางตนเอง “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเราแยกกันตรงนี้เลยนะคะ ขอบคุณมากนะคะพวกคุณทั้งสองคนเป็นคนดีมากๆ ฉันจะไม่ลืมพวกคุณเลย” เธอจากไปแล้ว เขาได้แต่นั่งมองบนรถตาละห้อย “อุตส่าห์ให้ผมขับช้าๆยื้อเวลานะครับนาย เห้อ..” “ออ นั่นสิ ฉันลืมให้ของเธอ” ร่างสูงใหญ่ถือกระเป๋าวิ่งตามเธอไป “เดี๋ยว โรส.. รสริน!” “คะ?” “ฉันมีอะไรจะให้” เขาจัดแจงสอดสายสะพายคล้องแขนให้เธอเสร็จสรรพก่อนโน้มใบหน้าลงต่ำ ริมฝีปากจรดใบหูขาวผ่อง “ในนี้มีเงิน เงินล้วนๆ เก็บไว้ใช้นะ” “หา! มะ ไม่ๆ ไม่ค่ะ” “นิ่งเข้าไว้ อย่าทำหน้าตาตื่น เพราะฉันตั้งใจจะให้เอเดน เพื่ออนาคตของเค้า รับไว้ซะ” “ฮึก ..” อกไหวสั่นเมื่อเริ่มเข้าใจถึงที่มาของเงินในกระเป๋าเป้ใบนี้ แลมโบกินี่สีดำที่ลูอิสขับคงถูกแปลงเป็นเงิน.. “ฮึก ..ขอบคุณนะคะ คุณเป็นคนดีมากจริงๆ ถ้ามีโอกาสฉันและลูกจะตอบแทนคุณให้ได้” “อืม โชคดีนะ ดูแลเจ้าหนูนี่ให้ดีๆนะ เธอเองก็รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆเช่นกัน” “ค่ะ” เธอปาดน้ำตาพลางพยักหน้าหงึกหงัก เอี้ยวตัวหันกลับไป มุ่งไปยังเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ ผู้คนประมาณห้าคนลงจากเรือเพื่อมารับเธอและลูกขึ้นไปด้วยกัน “ฟู่วว โชคดีนะ รสริน” ........................................ “มึงหายไปไหนมา!” ใบหน้าเรียวซีดเผือดเงยขึ้นมองสามีที่กำลังโกรธเธอจนตาขุ่นขวาง ยืนชี้หน้าด่าเธอแทนการต้อนรับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD