ตอนที่2.หนทางที่เลือกเอง 1

1470 Words
“อีกสิบนาที เธอก็น่าจะรู้จักฉันดีแล้วล่ะ” หล่อนยิ้มเยาะใส่ฉัน แถมยังมีแววตาแปลกๆ ที่กระตุ้นต่อมอยากรู้ของฉันให้ลุกกระพือขึ้นมาอีก ฉันพยักหน้าหงึกหงัก “ความจริงฉันตั้งใจจะปิดร้านพอดี ก็ได้ค่ะ หากคุณแน่ใจว่า ‘ธุระ’ ของคุณเกี่ยวกับฉัน” หล่อนยังคงยืนเชิดหน้า ระหว่างรอให้ฉันปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ ของฉันจนเสร็จ “รอนานเลย ขอโทษนะคะ” ฉันออกตัวตามมารยาท “ฉันไม่อ้อมค้อมนะ ฉันคือคนที่คุณวินจะแต่งงานด้วย” ฉันเม้มริมฝีปาก มองสบตาคนพูดแล้วหล่อนก็พูดต่อ “ฉันกำลังท้อง เธอควรหลีกทางให้กับฉัน ไหนๆ เธอกับฉันก็เพศเดียวกัน” ฉันกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ทุกคำที่ได้ยินคือเรื่องที่ฉันคาดไม่ถึง ผู้หญิงตรงหน้าแสดงตัวว่าเป็นคนสำคัญของ นวิน ผู้ชายที่พร่ำบอกฉันทุกครั้งว่าความรักของเขาที่มีต่อฉันท่วมท้น เขาไม่มีทางทรยศฉันแน่ๆ และฉันก็บ้าจี้เชื่อเขาแบบสุดลิ่มทิ่มประตู สุดท้ายแล้วคำสัญญาของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับลมปากที่หาความน่าเชื่อถือไม่ได้เลย “ท้อง!!” ฉันพึมพำเสียงแหบ “ฉันท้องกับวิน เราสองคนรักกัน” ฉันกัดกระพุ้งแก้มเพื่อเตือนสติตัวเอง ฉันจะทำตัวอ่อนแอต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ น้ำตาของฉันมีค่ามากกว่าจะเสียให้กับผู้ชายหัวใจโลเลคนหนึ่ง “ค่ะ ฉันรับรู้แล้ว” ฉันตอบทั้งที่ยังเบลอ “หย่ากับเขาซะ ฉันไม่อยากให้การเริ่มต้นของฉันกับเขามีปัญหา” ฉันเงยหน้ามองสบตาคนแปลกหน้า แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความโกรธและความชิงชัง หล่อนมองฉันเหมือนกับว่าฉันสร้างปัญหาใหญ่ให้กับหล่อน ทั้งที่ความจริงแล้ว ฉันอยู่เฉยๆ แล้วก็เป็นฝ่ายถูกทรยศด้วยซ้ำ “คุณรู้” หล่อนถลึงตาใส่ “ฉันไม่คิดว่าวินจะตาต่ำ คว้าใครไม่รู้มาเป็นคู่ครอง” เสียงของหล่อนถูกกดให้ต่ำ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ต่างอะไรกับเสียงคำราม ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฉันถูกคนแปลกหน้าหยามศักดิ์ศรี ฉันไม่ใช่คนผิดสักหน่อย หากถามหาความรับผิดชอบ หล่อนไม่มีทางได้จากฉันแน่ๆ “ขนาดคุณรู้ คุณก็ยังปล่อยให้เลยเถิดจนถึงขนาดนี้” ฉันแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ใช้คำพูดที่รุนแรงอะไรเลย แต่คงเพราะคำพูดของฉันกระแทกเข้ากลางแสกหน้าของหล่อน ท่าทางที่หยิ่งทะนงนั่นเลยกระจัดกระจาย “กรี๊ดดดดดด!!” หล่อนกรีดร้อง จนคนที่เดินอยู่ไกลๆ หันมาสนใจ หลังกระแทกส้นเท้าจนพอใจ หญิงผู้นั้นก็หันมาตะคอกใส่ฉัน “หล่อนมีสิทธิอะไรมาวิจารณ์ฉันแบบนั้น” ฉันเริ่มงง ฉันผิดตรงไหน ความจริงฉันควรต่อว่าผู้หญิงตรงหน้าให้รุนแรงกว่านี้ด้วยซ้ำ “ฉันไม่ได้วิจารณ์คุณ ฉันแค่ถาม?” “เหอะ!! ผู้หญิงอย่าเธอมีตรงไหนที่คู่ควรกับวิน” หลังสะบัดหน้าใส่จนฉันห่วงว่าคอของหล่อนจะเคล็ด หล่อนก็กระแทกเสียงใส่ฉันรัวๆ ฉันอ่อนล้าไปทั้งตัวและหัวใจ ชีวิตฉันไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้เลย ฉันถูกคนรักทรยศ และก็ถูกผู้หญิงคนใหม่ของเขาต่อว่าปาวๆ ฉันเตรียมจะหาทางเลี่ยง “ผู้หญิงแบบเธอเป็นได้แค่ของเล่นของผู้ชายรวยเท่านั้นแหละ” ฉันหูผึ่ง ความโกรธครอบงำจนฉันหน้ามืด ฉันตวัดตามองหน้าคนพูด คำพูดเผ็ดร้อนไหลเข้ามาในสมองฉันเหมือนภาพบนโปรเจคเตอร์ “อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้นคะ” ฉันสะกดความโกรธของตัวเอง พยายามสำรวมเสียงให้สุภาพที่สุด ฉันไม่ควรสติแตกเพราะคำพูดส่อเสียดที่ไม่เป็นความจริง “สังคมของเธอไง ฉันเห็นมาเยอะแล้ว ผู้หญิงทะเยอทะยานอยากรวยทางลัด” ฉันเกือบตะโกนใส่หน้าหล่อน แต่อะไรบางอย่างกระตุ้นเตือนฉัน ฉันไม่ควรทำตัวตกต่ำให้ผู้หญิงตรงหน้าหยิบยกมาแดกดันได้ “นัดวัน ‘หย่า’ มาได้เลยค่ะ ฉันจะไม่เรียกร้องอะไรเลย” ฉันตอบด้วยเสียงที่เรียบที่สุด ท่าทางหล่อนแปลกใจไม่น้อย “เธอจะไม่แบล็กเมล์วินคราวหลังแน่นะ” “ฉันไม่มีอะไรที่อยากได้จากผู้ชายของคุณสักอย่างเลยค่ะ” ฉันตอบกลับ ความรักปลอมๆ ที่เขาเคยให้ ฉันก็อยากจะโยนคืนให้เขาทั้งหมดด้วย “ฉันไม่ไว้ใจเธอ” “นั่นมันปัญหาของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉันค่ะ” ฉันทำท่าจะเดินหนี แต่ผู้หญิงคนนั้นถลันมาขวางหน้า และเพราะฟุตบาทที่ไม่เคยราบเรียบของประเทศนี้ เลยทำให้หญิงผู้นั้นเสียหลัก ฉันเบี่ยงตัวหลบตามสัญชาตญาณ ผลสุดท้ายหญิงผู้นั้นก็ถลาล้มลงไปบนพื้น พร้อมกับเสียงร้องกรี๊ดๆ ของบุคคลที่มาใหม่ “ตายแล้วยัยภา หนูเจ็บไหมลูก!!” เสียงแหลมบาดหู กับท่าทางร้อนรนนั่นอีก ฉันยืนนิ่งไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนหรือเจ็บปวดอะไรอีกต่อไปแล้ว ฉันผ่านความรู้สึกนั่นมาหมาดๆ จนเริ่มคุ้นชิน ผู้ชายคนที่เคยบอกว่ารักฉันสุดหัวใจถลาเข้าไปประคองผู้หญิงคนใหม่ของเขาในทันที และมารดาของเขาก็หันมาต่อว่าฉันด้วยเสียงแหลมบาดหูเหมือนเดิม “นี่ถึงกับต้องลงไม้ลงมือกันเลยเรอะ ผู้หญิงชั้นต่ำแบบเธอ การใช้เหตุผลคงไม่ได้แล้วสินะ” เปลือกตาฉันกะพริบถี่ๆ ฉันอยู่ของฉันเฉยๆ เป็นพวกเขาที่ดาหน้าเข้ามาในชีวิตของฉันแท้ๆ แต่ฉันกลับกลายเป็นฝ่ายผิด และถูกต่อว่าโดยไม่มีใครคิดจะสืบหาความจริงเลย “ภาเจ็บค่ะคุณแม่” หญิงผู้นั้นยกมือกุมหน้าท้องและโอดครวญ “ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับแม่ ภาคงเจ็บจริง” เสียงเขาพูด ท่าทางร้อนอกร้อนใจนั่นอีก “อย่างหล่อน ฉันไม่มีทางรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลฉันหรอกนะ” แม่ของเขาหันมาตะคอกใส่ฉัน ฉันเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย ท่าทางของฉันเหมือนเป็นการยั่วโทสะของอีกฝ่าย ผลที่ได้ ฉันเลยถูกผลักกระเด็น หากเป็นวันธรรมดา ฉันไม่มีทางล้มลงไปกองที่พื้นแน่ๆ แต่เพราะฉันเพิ่งผ่านเรื่องราวแย่ๆ มาฉันแทบไม่ได้กินอาหารเป็นชิ้นเป็นอัน เรี่ยวแรงของฉันก็มีไม่ถึงครึ่ง แค่ผลักเบาๆ นั่นเลยทำให้ฉันล้มลงไปกองที่พื้นได้ “ผมขอโทษ ผมผิดเอง เราสองคนคงไปกันไม่รอดแล้วแหละ” เขาพูดกับฉัน เขาไม่มองสบตาฉันด้วยซ้ำ ฉันกำมือ เจ็บหัวเข่าแทบน้ำตาร่วงแต่ฉันก็พยายามฝืนไว้ ตอนที่3.เมื่อโลกไม่น่าอยู่เหมือนเดิม พวกเขาทั้งหมดหายไปจากจุดที่ฉันนั่งอยู่นานแล้ว เป็นฉันที่ยังคงลุกไม่ขึ้น ยังคงนั่งอยู่ในสภาพนั่นอีกนานหลายนาที ในนาทีที่ฉันทรงตัวยืน ความรู้สึกหลากหลายไหลปร่าเข้ามากลางใจ ความเจ็บปวดนั่นทำเอาฉันแทบยืนไม่อยู่ ในที่สุดฉันก็สามารถประคองตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านหลังเล็กของตัวเองสำเร็จ “เห้อ!!” ฉันเป่าปาก แล้วก็ต้องรีบสูดปากเบาๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นพล่าน ฉันก้มมองหัวเข่าตัวเอง บริเวณนั่นมีลิ่มเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย ฉันเองก็บาดเจ็บ แต่คนที่เคยบอกว่ารักฉันนักหนา กลับไม่แม้จะเหลียวแล ความกังวลของเขาพุ่งไปที่ผู้หญิงคนใหม่ เขาโอบประคองหล่อนต่อหน้าต่อตาฉันทีเดียว ฉันฉวยทิชชู่มาเช็ดคราบเลือด หมดใจที่จะดูแลตัวเอง บาดแผลเล็กน้อยนี่ ไม่ทำให้ฉันหมดลมลงวันนี้หรอก “ผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนใจร้ายแบบนี้เลยนะ” น้ำเสียงของเขาเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน ท่าทางขึงขังนั่นอีก เขาแปลกตาไป จนฉันแทบจำไม่ได้ เขาเดินมาหยุดใกล้ๆ ฉันยังคงนั่งนิ่งไม่คิดจะต่อปากกับเขา อารมณ์ฉันยังไม่คงที่ ฉันกลัวว่าจะเองจะบันดาลโทสะแล้วเกรี้ยวกราดคืนกลับไป มันไม่น่าใช่เรื่องดีเลย ที่ต้องมาฟาดฟันใส่กัน เพราะ ‘มือที่สาม’ “ภาเขาเจ็บตัว โชคดีที่ไม่กระทบกระเทือน ‘เด็ก’” ฉันเงยหน้ามองสบตาเขา และเขาก็เสหลบตาฉันในทันที “คุณคงไม่คิดว่าเขมเป็นคนทำหรอก ใช่มั้ยคะวิน?” เสียงของฉันเข้มขึ้น ซึ่งฉันพยายามที่สุดแล้ว ฉันตกเป็นจำเลย คนเหล่านั้นตัดสินฉัน โดยไม่คิดจะสืบหาความจริง และฉันไม่มีทางยอมรับสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD