เสน่ห์ร้ายเกมกลลวง ตอนที่4.บทเรียนราคาแพง1

1712 Words
“มันเป็นเรื่องบังเอิญค่ะ หลันไม่ได้อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” บุหลันพูดต่อ เธอพยายามอยู่ห่างๆ ภามแล้ว แต่เป็นเขาที่เข้ามาวอแวกับเธอเอง “แกกำลังบอกว่าภามเหรอที่พยายามเข้าใกล้แก ตลก!!” พริมากระแทกเสียงใส่ “...” บุหลันไม่ได้พูด เธอก้มหน้ามองพื้น ป่วยการอธิบาย เมื่อคนตรงหน้าตั้งธงไว้แล้วว่าเธอเป็นคนผิด “พยายามอยู่ห่างๆ ภามไว้ หากแกไม่อยากเดือดร้อน ฉันจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแน่” พริมมาสำทับ บุหลันผ่อนลมหายใจยาวเหยียด “แกน่าจะรู้นะนังหลัน ฉันสามารถเฉดหัวแกออกไปจากที่นี่ได้” เมื่อลูกสาวคนโปรดพูดออกมาแบบนั้น บุหลันก็ได้แต่ถอนใจ ความจริงเรื่องการ ‘ย้ายออก’ เธอคิดมาสักพักแล้ว แต่ยังหาเหตุผลดีๆ ที่ไม่กระทบกับคนที่ตัวเองเคารพไม่ได้เลยยังรีรออยู่ “คนอย่างแก หากคุณแม่ไม่ยอม แกไม่มีทางใช้นามสกุลร่วมกับฉันได้หรอกนะ” บุหลันกัดกระพุ้งแก้มเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอพูดบางอย่างออกไป ความผิดของผู้ใหญ่ แต่เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเธอกลับต้องมารับกรรม ความสนุกชั่วครู่ของบิดา มารดา สร้างผลลัพธ์ที่บุหลันต้องกล้ำกลืนไปจนวันตาย ความจริงบุหลันอยากเจอมารดาผู้ที่ให้กำเนิดเธอสักครั้ง เธออยากรู้เหมือนกัน ทำไมท่านถึงทิ้งเธอไว้ ปล่อยให้เธอเจอกับความทรมานตามลำพังเช่นนี้ “ห้ามแกเสนอหน้าให้ภามเห็นอีก ตราบใดที่แกยังใช้นามสกุลคุณพ่ออยู่” พริมาตะคอก แล้วก็กระแทกปลายนิ้วกับหน้าผากของบุหลันแรงๆ “จำใส่กะลาหัวแกไว้นะนังหลัน แกคือมารความสุขฉัน แกต้องชดใช้ เพราะแกทำให้ฉันต้องกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งโลกแบบนี้” พริมาโยนความผิดทั้งหมดให้บุหลัน เพราะบุหลัน เธอเลยกลายเป็นเช่นนี้ หลายอย่างในตัวบุหลันทำให้เธออิจฉา พอบุหลันเดินห่างออกไป พริมาก็กำมือแน่น เธอดึงบางอย่างออกมาจากซอกกระเป๋ากางเกง บางอย่างที่สามารถทำให้ชีวิตสวยหรูของเธอพังลงมาได้แค่ชั่วพริบตาเดียว ‘แท่งตรวจครรภ์’ ผลตรวจไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ ผลลัพธ์ที่ได้กำลังทำให้เธอตายทั้งเป็น “เอาไงดี” พริมาพยายามทำใจเย็น มันต้องมีทางออก ชีวิตของเธอไม่ควรจบลงแค่ตรงนี้ ‘เร็วๆ นี้เธอต้องแต่งงาน’ มื้อค่ำบ้านพินิจดำรง บุหลันบีบตัวให้เล็กลง สายตาของคะนึงนิจที่ปรายมองผ่านหน้าเธอทำให้รู้สึกอึดอัดแปลกๆ เธอพยายามหาเหตุผลกับการร่วมรับประทานมื้อค่ำครั้งนี้ เป็นคำสั่งที่เธอเลี่ยงไม่ได้ เลยพยายามเก็บปากเก็บคำ และอยู่ให้เงียบที่สุด “พ่อมีเรื่องจะบอก หลันเองก็จำเป็นต้องรู้ด้วย” โอภาสเปรยระหว่างมื้ออาหาร “ในเร็วๆ นี้บ้านเราอาจจะมีงานมงคล” พริมายิ้มหวาน เหมือนโชคเข้าข้างเธอ เคราะห์ร้ายที่ทำให้เธอหาทางแก้จนปวดหัว จู่ๆ ก็คลี่คลายได้แบบเกินคาด หลังมารดาเกริ่นให้ฟังเมื่อหลายชั่วโมงก่อน “พ่อจะให้ยัยพริแต่งงาน” บุหลันพยักหน้าหงึกหงัก “เรื่องน่ายินดีแบบนี้ หากหล่อนรู้จากปากคนอื่น ฉันคงขายหน้าแย่” คะนึงนิจเปรยลอยๆ “พ่อกับครอบครัววิวัฒน์วงศ์คุยกันแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด ฤกษ์ดีอาจจะเป็นเดือนหน้า” โอภาสพูดต่อ บุหลันก้มหน้าเบ้ปาก “แบบนี้พริก็ยังไม่ต้องเร่งหางานทำใช่ไหมคะคุณพ่อ” พริมาจีบปากถามบิดา “จะหางานทำให้เหนื่อยทำไม หากแกเป็นสะใภ้บ้านวิวัฒน์วงศ์ แค่ดอกเบี้ยจากธนาคารเดือนๆ นึงไม่รู้เท่าไหร่แล้ว” กิจการของวิวัฒน์วงศ์มีใครไม่รู้บ้าง เขาเสียภาษีปีๆ หนึ่งไม่รู้กี่สิบล้านบาท ดังนั้นศรีสะใภ้คนเดียวทำไมคนตระกูลนั้นจะเลี้ยงไม่ได้ “คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกนะ การเป็นคนว่างงาน ก็เท่ากับเป็นคนไร้ค่าดีๆ นี่เอง” โอภาสแย้งหน้าตาย คะนึงนิจเดือดปุดๆ หากไม่รีบโพล่งออกไปก่อน สามีคงไม่วายแขวะบุตรสาวให้ยอกแสยงใจอีกแน่ๆ “ฉันเลี้ยงลูกมาอย่างดี ไม่ยอมให้ลำบากไปเป็นขี้ข้าคนอื่นหรอกค่ะ” โอภาสยิ้มมุมปาก “หาเงินใช้เองได้ ค่อยมาพูดกับผมแบบนี้นะ” เขาเองก็ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง โชคดีที่เขาเป็นผู้บริหารระดับสูง เงินเดือนก็มากตามไปด้วย รายรับที่เกินรายจ่าย ครอบครัวพินิจดำรงเลยไม่เดือดร้อน “แหม...คุณโอภาสคะ ถ้าหากอยากชมลูกสาวคนโปรด ก็ไม่ควรเอายัยพริไปเปรียบเทียบค่ะ” คะนึงนิจกระแทกเสียงใส่สามี โอภาสถอนใจแรงๆ “เหมือนคุณกำลังเข้าใจผิดนะ ผมแค่อยากเตือนยัยพริ คนเรามีคุณค่าหากมีหน้าที่การงานดีๆ การทำงานไม่ใช่เรื่องผิดสักหน่อย ยิ่งประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง นั่นเท่ากับเป็นบทพิสูจน์อย่างดี” โอภาสไม่ได้ชมบุหลัน แค่บุหลันมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้ แค่นี้เขาก็หมดห่วงแล้ว “หลันเถอะ ท่าทางเหนื่อยๆ งานมีปัญหาหรือเปล่า มีอะไรให้พ่อช่วยไหม?” โอภาสหันไปถามบุตรสาวคนเล็ก “งานหลันจะมีปัญหาได้ยังไงคะ แค่ร้านขายของเล็กๆ ยอดรายได้ไม่ติดลบก็บุญแล้วค่ะ” บุหลันออกตัว เธอไม่เคยป่าวประกาศเรื่องความสำเร็จของตัวเอง เรื่องบางเรื่องคะนึงนิจไม่รู้ เป็นการดีที่สุดแล้ว “แค่ร้านง่อยๆ แบบนี้พริก็ทำได้ค่ะ แต่เป้าหมายพริใหญ่กว่านั่นค่ะคุณพ่อ” พริมากระตุกยิ้มหยัน ว่าที่ศรีสะใภ้วิวัฒน์วงศ์ จะทำงานกระจอกไม่ได้ ปัญหาอย่างเดียวของเธอคือเกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดินนั่น หน่วยงานราชการที่ไหนจะอ้าแขนรับเธอ “แค่ลูกไม่ขี้เกียจ พ่อก็เบาใจแล้วยัยพริ” โอภาสสัพยอก การที่พริมาไปเรียนต่อเมืองนอก นั่นเพราะเธอยอมให้คนรอบตัวชื่นชมบุหลันต่อหน้าต่อตาไม่ได้ บุหลันไม่ได้เรียนโรงเรียนดีเด่อะไรเลย แต่ผลการเรียนของบุหลันนำหน้าเธอหลายขุม แถมพอถึงเวลาเข้ามหาวิทยาลัย เธอก็แพ้บุหลันอย่างหมดท่า มหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ บุหลันผ่านแทบทุกที่ หากเลือกที่จะเรียนในอาชีพที่เชิดหน้าชูตาบุหลันก็สามารถทำได้ แต่บุหลันกับเลือกเรียนมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน แถมยังเลือกเรียนวิชาที่ไม่น่าสร้างความภาคภูมิใจได้เลย บุหลันเลือกเรียนดีไซน์ แทนคณะแพทย์ที่เชิดหน้าเชิดตาได้ในอนาคต พริมาไม่เข้าใจ หากเป็นเธอ เธอต้องเลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเอง ไม่ใช่แบบที่บุหลันเลือก แต่เพราะคะแนนของเธอไม่ถึง ไม่ว่ามหาวิทยาลัยไหน เธอก็ไม่ติดสักที่ เลยเป็นที่มาให้เธอไปชุบตัวไกลถึงเมืองนอกเมืองนา “ต่อให้ยัยพริไม่ทำงาน ก็ไม่มีทางลำบากหรอกค่ะ” โอภาสพ่นลมหายใจแรงๆ เขาหยุดพูด เพราะหากพริมามีคนให้ท้ายแบบนี้ เรื่องงาน คงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับตัวพริมาเอง “ไม่ต้องห่วงนะยัยพริ แม่ไม่มีทางให้แกตากหน้าไปขอร้องใครแน่ แม่จะช่วยลูกเอง” บุหลันสงบปาก ก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร “ที่วิวัฒน์วงศ์ น่าจะมีตำแหน่งเลิศๆ ให้แกแน่ๆ” “อย่าทำให้พวกเขาลำบากใจล่ะ ผมไม่อยากให้ผิดใจกันตั้งแต่ยังไม่ทันได้ดองกันเลย” โอภาสปราม ความจุ้นจ้านของคะนึงนิจเขารู้อยู่แก่ใจ “ไม่มีใครรังเกียจยัยพริหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็น... ก็ไม่แน่” คะนึงเบะปาก ปรายหางตาไปที่บุหลัน ‘ลูกนอกสมรส’ ของโอภาส หนามแหลมที่ทิ่มแทงตนเองทุกครั้งที่เห็น บุหลันร้องหึในใจ...คนรอบตัวพยายามถาม สาเหตุที่เธอเลือกเรียนดีไซน์ แทนการเข้าเรียนคณะแพทย์ บุหลันไม่เคยบอกใคร เพราะต้นเหตุจริงๆ มาจากคะนึงนิจ เพราะความริษยานั่น คะนึงนิจเลยยื่นคำขาด หากบุหลันดึงดันจะเรียนแพทย์ให้ได้จริงๆ นางจะตัดค่าใช้จ่ายอันน้อยนิดนั่นทั้งหมด บุหลันทบทวนแล้ว ต่อให้เธอได้ทุนการศึกษามันก็ยังทำให้ความเป็นอยู่ของเธอลำบากอยู่ดี การที่ต้องขวนขวายทุกทาง แล้วในอนาคตอาจสร้างความร้าวฉานขึ้นอีกก็ได้ บุหลันเลยยอมตามใจ เธอขออยู่อย่างสบายใจดีกว่า บิดาที่เป็นผู้นำครอบครัว ไม่เคยรู้ถึงความลำบากของเธอเลย ตอนนี้เธอโตแล้ว สามารถอยู่ด้วยตัวเองได้แล้ว ความจำเป็นที่ต้องพึ่งพาบิดาก็เริ่มน้อยลง หากเธอจะทำบางอย่าง...ต่อให้คนเกลียดเธอทั้งโลก ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ “คุณพ่อคะ” บุหลันตัดสินใจ “หือ มีอะไรจะพูดกับพ่อเหรอ?” โอภาสหันมาถาม พริมากับคะนึงนิจมองสบตากัน บุหลันเกริ่นนำ “ช่วงนี้ที่ร้านหลันงานเยอะ หลันเกรงใจที่ตัวเองกลับบ้านดึกๆ เลยอยาก...” “ไม่ จะกลับดึกแค่ไหนยังไงก็ต้องกลับมาที่บ้าน พ่อไม่ยอมให้แกย้ายออกไปไหนเด็ดขาด!!” เหมือนโอภาสจะรู้ใจบุตรสาวดี เขาแย้งก่อนที่บุหลันจะพูดจบ บุหลันเม้มปาก ไม่พูดอะไรต่อ คะนึงนิจเบ้ปาก “คุณจะห้ามแม่นั่นทำไมคะ เด็กนั่นโตแล้วนะ” พริมากดยิ้มมุมปากจนโค้ง “นั่นสิคะคุณพ่อ หากยัยหลันตัดสินใจแล้ว คุณพ่อห้ามก็เปล่าประโยชน์” “ทำไมถึงพูดกันแบบนี้ ยัยหลันก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของเรานะ ไม่มีใครห่วงยัยหลันบ้างเหรอไง!!” โอภาสพูดเสียงเข้ม สีหน้าตึง “อย่าทะเลาะกันเพราะหลันเลยค่ะ” บุหลันท้วงเสียงแห้ง “พ่อบอกตรงนี้เลยนะยัยหลัน หากอยากออกไปจากที่นี่ แกต้องแต่งงานเท่านั้น กับคนที่พ่อเห็นว่าเหมาะด้วย” โอภาสพูดเสียงแข็ง เขาโยนผ้าเช็ดปากไปบนโต๊ะกินข้าว แล้วก็เดินจากไปดื้อๆ “แกนี่ ทำเสียบรรยากาศได้ตลอดเลยนะ” คะนึงนิจกระแทกเสียงใส่ “อยากไปจากที่นี่นัก แกก็หา ‘ผัว’ ดีๆ สักคนสิ” พริมาเยาะหยัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD