“คุณหลันคะ คุณท่านให้มาตามค่ะ” บุหลันเตรียมตัวจะออกไปทำงาน แต่คนงานในบ้านมารั้งไว้เสียก่อน
“คุณท่านมีเรื่องจะใช้หลันเหรออิง” สาวใช้ชาวลาวที่ทำงานจิปาถะมาดักรอบุหลันที่ประตูหลัง เส้นทางที่บุหลันเดินผ่านทุกวันแทนประตูหน้าที่คะนึงนิงสั่งห้าม
“เห็นว่าจะมีแขกมาบ้านค่ะ เลยอยากให้คุณหลันทำของว่างไว้ให้หน่อย”
“อ้อ แล้วทำไมคุณท่านไม่บอกหลันล่วงหน้า ถ้าหลันติดธุระไม่ว่างขึ้นมาละ ยุ่งตายเลย” บุหลันได้แค่บ่น เธอขัดคำสั่งคะนึงนิจคงเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ
“คุณนายก็แบบนี้ทุกทีแหละค่ะ”
“เตรียมของไว้แล้วใช่มั้ย งั้นวานไปบอกเพรียวให้ทีสิ หลันจะไปทำงานช้าหน่อย” บุหลันเดินเลยไปที่ครัวหลังสั่งความไปถึงเพรียว
เธอใช้เวลาไม่นาน ของว่างขึ้นชื่อก็ถูกปรุงเสร็จ หลังตรวจสอบจนแน่ใจ หากคล้อยหลังตนเองจะไม่เกิดความผิดพลาด บุหลันเลยถอดผ้ากันเปื้อนออก “หลันไปทำงานก่อนนะคะ ป้าอย่าลืมอุ่นก่อนเอาของว่างไปเสิร์ฟแขกนะคะ” บุหลันย้ำ แล้วก็ฉวยกระเป๋าผ้าเดินจ้ำอ้าวออกไปทางด้านข้าง เธอยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา จากนั่นก็เร่งฝีเท้ามากขึ้น เธอเสียเวลาไปมากโขกับการปรุงของว่างตำหรับชาววังที่คะนึงนิจคุยโอ่ไปทั่ว
“อุ่ย!!” บุหลันเกือบล้ม เธอซุ่มซ่ามเดินชนใครบางคน ดีที่ว่าใครคนนั้นมีสติมากกว่าเธอ เขารั้งเธอไว้ก่อนที่จะหน้าคมำล้มลงบนพื้นคอนกรีต
“จะรีบไปไหน?” เสียงแหบห้าว กับกลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นจมูก
ครั้นเมื่อเงยหน้ามองสบตาใครคนนั้นเข้า บุหลันนึกอยากหายตัวได้
คนคนนั้นคือคนที่เธออยากเลี่ยงหลบมากที่สุด
“เธอนั่นเอง...” ภามพึมพำ
“ขะขอบคุณค่ะ ปะปล่อยได้แล้ว” บุหลันรีบรวบรวมสติ เธอพูดเสียงกระท่อนกระแท่นและขืนตัวไว้
“อ้าว จะไปไหนละ” ภามรั้งไว้ พอเขาปล่อยมือ บุหลันก็หมุนตัวหนี ทำท่าจะเดินหนีไปดื้อๆ
“หลันจะรีบไปทำงานค่ะ” ภามมองนาฬิกา
“สายแล้วนะ เป็นฉันไม่ไปแล้ว” เกือบสิบเอ็ดนาฬิกา เกินเวลาเริ่มงานไปเกือบครึ่งวัน
“...” บุหลันไม่ได้ตอบเธอขยับตัวเตรียมเดินหนี
แต่ภามไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น เขาวิ่งมาขวางหน้าจนบุหลันเกือบชนเขาอีกครั้ง
“จะรีบไปไหนละ หรือว่าเธอกลัวฉัน” ภามถาม
บุหลันเม้มปากไม่ยอมพูดอะไรอีก
“เธอเกลียดฉันแล้วเหรอ สมัยก่อนเธอวิ่งไล่ฉันเหมือนเงาเลยนี่นา”
บุหลันผงะ!! เธอเผลอตัวเดินถอยหลัง ดวงตากลมโตมองสบตาเขา ‘เขาจำเธอได้แล้ว’ หัวใจของบุหลันทำงานหนัก เต้นกระหน่ำจนบุหลันกลัวว่าเธอจะหัวใจวาย เธอยกมือปิดหน้าและเดินถอยหลังช้าๆ
“อ้าว!! ไม่ดีใจเหรอไง ไม่เจอกันนานแล้วนะ เกือบเจ็ดปีแล้วสิ เธอสวยขึ้นจนฉันแทบจำไม่ได้เลย” ภามพูดต่อ
บุหลันเม้มปาก ‘เขาก็ยังจำเธอได้’ ความจริงชายตรงหน้าไม่ควรจำเธอได้เลย เธอเป็นแค่รอยด่างที่ไม่มีค่าควรจำสักนิด ครั้งนั้นเขาทำให้เธออับอาย อายจนแทบกัดลิ้นตายตอนที่นึกถึง ความขลาดเขลาของเธอตอนนั้น ไม่ต่างอะไรกับความสิ้นคิดของเด็กสาว เธอไม่ได้สมองกลวงสักหน่อย เธอเรียนเก่งและทันคน แต่เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เธอหลงใหลชายผู้นี้จนหน้ามืดตามัวไปอย่างนั้น
พริมากำมือ มองภาพที่เห็นด้วยแววตาลุกโพลง
ไม่ว่าจะกดข่มบุหลันยังไง บุหลันก็ยังผงาดและเจิดจ้าแบบที่เธอไม่มีทางเทียบได้เลย ครั้งนี้ก็เช่นกัน มารดากดบุหลันไว้ในครัว หล่อนก็ยังเผยอหน้าออกมาเจอภามเข้าจนได้ ท่าทางของภามก็ดูสนใจบุหลันไม่น้อย
พริมาสะบัดหน้า เดินกระแทกส้นเท้าเข้าไปด้านใน แต่เมื่อนึกขึ้นได้ วันนี้ครอบครัวของเธอมีแขกสำคัญอยู่ด้วย พริมาเลยปรับอารมณ์ ปรับสีหน้าให้สดชื่นขึ้น ตอนที่เดินเข้าไปในห้องรับรองแขก
“เจอตาภามไหมหนูพริ” ปรียายิ้มให้ พลางถามถึงบุตรชาย
พริมาแสร้งส่ายหน้า “ไม่เจอค่ะ คงเดินเล่นในสวนมั้งคะ พริไม่ได้เดินไปถึงแถบนั้น”
“แม่ให้นังอิงไปตามให้ดีกว่า” คะนึงนิจออกตัว นางลุกขึ้น เปิดโอกาสให้บุตรสาวได้สนทนากับปรียาตามลำพัง
“ได้ยินข่าวลือมานาน ไม่คิดว่าคำเล่าลือนั่นจะเป็นจริง” ปรียาหยิบขนมของว่างไทยโบราณจากจานขึ้นมาดูใกล้ๆ ขนมชนิดนี้ขั้นตอนการทำยุ่งยาก หากต้องการรับประทาน ตามโรงแรมใหญ่ๆ มีให้บริการ แต่ก็ค่อนข้างแพงเอาเรื่อง
“พอดีแม่ครัวของที่นี่พอมีฝีมือค่ะคุณป้า”
“ดีเลย ที่บ้านป้ามีจัดเลี้ยงบ่อยๆ ไว้จะได้ขอยืมตัวแม่ครัวไปช่วยบ้าง” ปรียาสัพยอก
“พริกลัวว่าคนของบ้านพริจะไปทำให้คุณป้าขายหน้าน่ะสิคะ”
ปรียาชิม ‘ถุงทอง’ แล้วก็ชมไม่ขาดปาก “ฝีมือดีกว่าเชฟระดับ มิชลินอีกนะ แบบนี้ไม่มีทางขายหน้าหรอกจ้ะ”
“ถ้าชอบ เอากลับไปฝากคุณภาคด้วยยังได้ค่ะ น้องเข้าไปดูในครัวมา ทำไว้เยอะเลยค่ะ” คะนึงนิจเดินเข้ามาสมทบ
“ไม่เกรงใจนะ คุณภาคชอบของว่างแบบนี้แหละ ถ้ารสถูกปาก เดี๋ยวจะส่งคนที่บ้านมาหัดทำด้วยนะคะ ขานั้นชอบของว่างแบบที่ต้องประดิดประดอยน่ะ”
“เอาสิคะ จะให้คนงานมาเรียนวิธีทำวันไหน ก็นัดมาได้เลยค่ะ” คะนึงนิจตอบพร้อมกับยิ้มแย้ม
หารู้ไม่ว่ากำลังทำให้พริมาไม่พอใจ
เพราะหากปรียารู้ แม่ครัวคนงานที่ว่าคือ...บุหลัน พริมาเกรงว่าความคิดของปรียาจะเปลี่ยนไป
ตอนที่4.บทเรียนราคาแพง
“คุณแม่รู้มั้ยคะ นังหลันแอบไปอ่อยคุณภามอยู่ที่ท้ายสวน”
พริมาฟ้องมารดา บุหลันน่าจะคิดอะไรอยู่ในใจ การเจอกันของคนสองคนนั้นไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญอยู่แล้ว
“แล้วทำไมไม่บอกแม่ให้เร็วกว่านี้ แม่จะได้จัดการนังหลันให้เด็ดขาดไปเลย”
“ตอนนั้นคุณป้ายังอยู่นี่คะ พริกลัวว่ากระโตกกระตากจะเข้าทางคุณภาม ขานั่นยิ่งขึ้นชื่อเรื่องขวางโลกอยู่แล้ว เห็นผู้หญิงสวยๆ เป็นไม่ได้”
“นังหอกข้างแคร่นี่ เมื่อไหร่จะกำจัดมันได้สักทีนะ” คะนึงนิจบ่นพึมพำ
“พ่อแกก็ดันอยากเป็นคนดี อยากไถ่บาปตอนไหนก็ไม่เป็น ดันมาใจดีตอนนั้น” คะนึงนิจแดกดันถึงสามี เรื่องมันกะทันหัน นางเองก็ตั้งรับไม่ทัน กำลังอึ้งกับความจริงที่สามีเพิ่งเปิดเผย
“พริไม่ยอมให้นังหลันมาแย่งคุณภามไปหรอกค่ะ”
“จะจัดการมันยังไง ก็หลบๆ สายตาพ่อแกหน่อยแล้วกัน” คะนึงนิจเตือน
บุหลันแทบไม่เคยสร้างเรื่อง ความประพฤติก็ดีไม่มีด่างพร้อย นางพยายามหาทางทุกวิธียังไม่สบช่องเหมาะสักครั้งเลย
“พริคงต้องเตือนนังหลันมันสักหน่อย อย่าริอ่านมาแย่ง ‘ผู้ชาย’ ของพริ”
บุหลันก้มหน้าเดินเลยไม่ทันดูทาง ไฟที่ติดไว้ที่หัวเสาก็อยู่ไกลเกินกว่าจะเพิ่มแสงสว่าง เพราะวันนี้ช่วงเช้าเธอเสียเวลาไปเกือบครึ่งวัน เลยชดเวลาทำงาน ตอนที่เลิกงานเลยค่อนข้างดึก
“เพี้ยะ!!” อุ้งมือที่ฟาดเข้าข้างแก้มกระทบกับผิวเนื้อจนเกิดเสียงดังลั่น ใบหน้าบุหลันสะบัด ครั้นพอตั้งสติได้ เธอก็ผินหน้ากับมาจ้องหน้าพริมาท่ามกลงแสงสลัว ในขณะที่เรียวปากบางของตัวเองเม้มแน่นไม่คิดจะปริปากพูดสักคำ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก... เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจนเธอชินชา การใช้กำลังตัดสินปัญหาของพริมาเกิดขึ้นทุกครั้งที่เธอไม่พอใจ ซึ่งไม่มีใครช่วยเธอได้เลยแม้แต่...บิดา
“แกจะจ้องหน้าฉันทำไมหะ!! แกน่าจะรู้นี่เพราะอะไรฉันถึงตบแก” พริมาเหยียดยิ้ม
“หลันพอจะเข้าใจค่ะ แค่สงสัยนิดหน่อย การที่คุณพริทำแบบนี้กับหลันแล้ว มันช่วยแก้ปัญหาได้เหรอคะ” บุหลันถามกลับ ยกมือลูบแก้มเบาๆ
“นังหลัน!!” พริมาตะเบ็งเสียง
“หลันทำอะไรไม่ถูกใจคุณพริเหรอคะ?” บุหลันตัดบท ดึงเรื่องเข้าสู่ใจความสำคัญ เธอเหนื่อยแล้วก็อยากพัก พลังงานในร่างกายของเธอตอนนี้เหลือน้อยเต็มที
“แกหวังอะไรจาก ‘ผู้ชาย’ ของฉัน?” พริมาตะโกนลั่น
บุหลันถอนใจ “คุณภาม”
“ใช่ ฉันเห็นนะ แกแอบเจอกับเขา!!”