“โอ๊ย ปวดหัว” คนเจ็บยกมือกุมศีรษะตรงที่ไม่ใช่แผล ตัวงอลงเพราะความเจ็บที่แล่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เป็นอะไรไปแคท นางพยาบาลคะ ๆ” เจสซี่กดปุ่มฉุกเฉินเรียกหาคนช่วย ไม่ช้านางพยาบาลก็เดินเร็ว ๆ เข้ามาภายในห้อง
“กินยาแก้ปวดก่อนค่ะ ยาน่าจะหมดฤทธิ์เลยปวดแบบนี้” นางพยาบาลเดินไปหยิบยาที่วางอยู่บนโต๊ะ ยื่นให้คนไข้ตามด้วยน้ำแก้วหนึ่ง
“ขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่จะออกจากโรงพยาบาลวันนี้จริง ๆ เหรอคะ อาการยังไม่หายดีเลยนะคะ น่าจะอยู่ต่ออีกสักคืนสองคืน”
“วันนี้แหละค่ะคุณพยาบาล อยู่นานเดี๋ยวไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง” เจสซี่บอกตามตรง เพราะนี่คือเหตุผลหลักที่มาดามไลลา ขออนุญาตคุณหมอให้กลับบ้านวันนี้ได้ ไม่งั้นจากค่ารักษาแสนกว่าก็คงปาไปสองสามแสนแน่
“งั้นก็ตามใจค่ะ อย่าลืมไปรับยาด้วยนะคะ สำคัญมาก แล้วก็มาตัดไหมตามนัดหมอด้วยล่ะ”
“ไม่ลืมแน่นอนค่ะ”
พอนางพยาบาลออกจากห้องไปแล้ว มาดามไลลาก็เปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ
“แม่เป็นอะไรอีกล่ะ”
“ค่ารักษาตั้งแสนห้า แม่ต้องทำเรื่องของผ่อนเขาเอา แคทลูกแคทต้องช่วยแม่นะ เราก็ไม่รู้ใครขับรถชนแคทด้วย จะตามตัวมารับผิดชอบก็ไม่ได้อีก ดีนะแม่กับเจสซี่ไปเห็นเข้าเลยพามารักษาที่นี่ เพราะคิดแต่จะให้แคทได้รับการรักษาเร็ว ๆ เลยไม่ได้สนใจว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน” มาดามไลลาถลาเข้าไปหาคนบนเตียง พร้อมกับชี้แจงเรื่องราวที่ตนสร้างจนบิดเบี้ยวให้คนเจ็บฟัง
“แม่แคทเพิ่งกินยาไป บ่นปวดหัวเมื่อกี้” เจสซี่รีบสะกิดบอก เกรงว่าจะเป็นการป้อนข้อมูลหนัก จนอาการแย่ลงไปกว่าเดิมอีก
“อ้าวเหรอ แม่ขอโทษนะแคทเอาไว้กลับถึงคอนโดแล้วค่อยคุยกันอีกทีนะ”
“ก็ได้ค่ะ” คนเจ็บได้แต่ไหลไปตามทั้งคู่ ไม่รู้จักตัวเองไม่รู้จักใคร เขาว่าอะไรก็เชื่อไปตามนั้น
ได้เวลาออกจากโรงพยาบาล คัทลินพอที่จะเดินเองได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ ด้วยการนำรถเข็นมาให้นั่ง
“เจสซี่ไปเรียกแท็กซี่รอเลยนะ” มาดามไลลาให้เด็กในสังกัดมาขับรถกลับไปที่บ้านแล้ว เกรงว่าจากรอยบุบตรงกระโปรงด้านหน้าของรถจะเตะตาคนอื่นเข้า
“จ้ะแม่” เจสซี่โบกแท็กซี่แป๊บเดียวก็ได้ ทั้งสองช่วยกันพยุงคนเจ็บเข้าไปภายในแท็กซี่ โดยมาดามไลลาเป็นคนเร่งรีบกระทำการให้เร็วที่สุด เหตุเพราะไม่อยากให้คนอื่นมาเห็น
“ไปที่คอนโดเคดีเลยค่ะ” เจสซี่บอกแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ
แท็กซี่แล่นมาไม่ถึงสามสิบนาทีก็ถึงจุดหมาย ห้องพักของเจสซี่อยู่บนชั้นสิบสองของคอนโดมิเนียมแห่งนี้
“แคทเอนหลังตรงโซฟาก่อนนะลูก นอนพักไปก่อน” มาดามไลลาประคองคนเจ็บไปนั่งบนโซฟา นำหมอนอิงมาวางให้หญิงสาวได้เอนหลังนอนพัก จากนั้นก็ขยิบตาเรียกเจสซี่ให้ไปคุยกันที่ห้องครัว ซึ่งอีกฝ่ายก็เดินตามไปอย่างรวดเร็ว
“อะไรอีกล่ะแม่”
“อย่าให้หลุดเชียวนะเจสซี่”
“รู้แล้ว ๆ ตายห่า” เจสซี่ตาโตเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“อะไรอีก”
“ไม่มีเสื้อผ้าของแคทอยู่ที่นี่เลยสิแม่ แคทหอบไปหมดแล้ว ตัวอื่น ๆ ที่เหลือเจสซี่ก็เอาไปให้น้อง ๆ ที่บ้านแม่หมดเลย”
“ก็แบ่งของเจสซี่บางส่วนให้ไปก่อน ใส่ไซซ์เดียวกันแหละแม่ว่า” มาดามไลลาคะเนด้วยสายตา เปรียบเทียบสัดส่วนของทั้งคู่
“งั้นแม่ไปชวนแคทคุยก่อนนะ เจสซี่จะแยกเสื้อผ้าออกเป็นสองส่วนไว้รอ จะได้ไม่มาสงสัยทีหลัง”
“ได้พวกแปรงสีฟันยาสีฟันด้วยนะอย่าลืม” มาดามไลลากำชับอีกเรื่อง
“ค่า ดีนะมีซื้อสำรองไว้”
“เอ้านี่เอาไปไว้ในกระเป๋าของแคทด้วย” มาดามไลลายื่นบัตรประชาชนของคัทลินตัวจริงให้เจสซี่
“แม่เอามาจากไหนนี่”
“เมื่อก่อนเจสซี่ชอบแกล้งว่าบัตรหาย เพราะอยากถ่ายใหม่ ดีนะที่ชอบเอามาโยนให้แม่เก็บไว้สำรองเวลาหายจริง ๆ จะได้มีใช้ อันนี้ใบล่าสุด”
“โชคช่วยจริง ๆ เลยนะแม่”
“เอานะ ช่วยหน่อย”
มาดามไลลาเดินไปหาหญิงสาวที่เอนหลังอยู่บนโซฟา คิดหาเรื่องคุยถ่วงเวลาให้เจสซี่ไปด้วย
“ยังไม่หายปวดหัวอีกเหรอแคท”
“ค่ะแม่ แคทรู้สึกปวดตึง ๆ”
“งั้นกินยาแก้ปวดก่อน เขาให้กินทุกครั้งที่ปวดใช่ไหม”
“ค่ะ” คัทลินลุกขึ้นมากินยาอย่างว่าง่าย สีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนคนมีเรื่องติดค้างในใจ
“มีอะไรแคทหน้าซึมเชียวลูก”
“คือแคทไม่คุ้นที่นี่เลยค่ะ แคทอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอคะแม่ ทั้งแม่ทั้งเจสซี่แคทก็เหมือนไม่เคยรู้จักมาก่อน”
“โถ ๆ แคท น่าสงสารจังลูก ความจำเสื่อมมันก็แบบนี้แหละ อะไร ๆ มันก็ดูไม่คุ้นเคยไปหมดแหละ เอาไว้ความทรงจำกลับคืนมาแล้ว เดี๋ยวก็คุ้นเคยเองล่ะ” มาดามไลลาคิดหาเหตุผลมารองรับเรื่องราวได้อย่างดีเยี่ยม
“จริงเหรอคะ” แม้จะคลางแคลงใจ แต่คัทลินก็ต้องจำใจเชื่อเหมือนคนไม่มีทางเลือก
“จริงสิจ๊ะ นอนพักไปก่อนนะ ตื่นขึ้นมาค่อยให้เจสซี่หาข้าวให้กิน ตอนนี้แม่ต้องกลับก่อนนะ ติดธุระต้องคุยกับลูกค้าพอดี”
“แม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยกันเหรอคะ”
“ไม่จ้ะ แม่อยู่อีกที่น่ะ แคทกับเจสซี่ชอบความเป็นส่วนตัว เลยย้ายมาอยู่ที่นี่กันสองคน”
“งั้นก็ขับรถดี ๆ นะคะ”
“จ้ะ งั้นแม่ไปก่อนนะ แคทก็นอนพักผ่อนเยอะ ๆ นะจะได้หายเร็ว ๆ ”
“ค่ะ”
มาดามไลลาเดินเข้าไปบอกเจสซี่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนที่นอนอยู่บนโซฟา พยายามนึกหาความทรงจำของตัวเองไป จนกระทั่งหลับลงไปในที่สุด