2
ทิชา
ทิชาสาวน้อยในวัยยี่สิบสองปี เพิ่งจบปริญญาตรีมาหมาด ๆ หญิงสาวกับเพื่อนในกลุ่มชวนกันไปเลี้ยงฉลองจบการศึกษา ด้วยการไปเที่ยวทะเลทางภาคใต้ ในกลุ่มที่เดินทางไปนั้นมี เพื่อนผู้หญิงสองคนกับเพื่อนผู้ชายอีกสองคน พวกเขาต่างเป็นคู่รักกัน จึงมีเพียงทิชาที่ยังโสดอยู่คนเดียว เพราะอยู่ในช่วงโรคโควิดระบาด นักท่องเที่ยวจึงน้อยเข้าขั้นบางตา จุดที่พวกเธอไปเที่ยวกันนั้น ดูเงียบเหงาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการมาเที่ยวในวันธรรมดานั่นเอง
การมาเที่ยวทะเลนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น พอถึงวันกลับกรุงเทพฯ ทิชาตัดสินใจบอกเพื่อนทั้งสี่ ว่าเธอขออยู่เที่ยวที่นี่ต่อเพียงลำพัง แม้เพื่อนจะรู้สึกเป็นห่วง แต่ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของทิชา พอทุกคนขึ้นเครื่องกลับกันหมดแล้ว ทิชาจัดการย้ายสถานที่เที่ยวและเลือกโรงแรมใหม่ พร้อมกับการเช่ารถขับเที่ยวเอง แต่รถที่ควรจะมีน้ำมันเต็มถัง กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะพนักงานให้รถเธอมาผิดคัน ทำให้เกิดเหตุน้ำมันหมดกลางทาง ระหว่างวันที่ฝนตกหนัก
‘มาตกอะไรกันตอนนี้นะ ตอนแรกก็ฟ้าสว่าง ๆ อยู่เลย’ หญิงสาวบ่นในใจ หันไปมองโทรศัพท์มือถือที่เสียบสายชาร์จไฟในรถเอาไว้ รอฝนซาอีกสักหน่อยค่อยโทรหาบริษัทเช่ารถ แต่เหมือนมีโชคช่วยจากไฟหน้ารถของอีกคัน ที่สว่างจ้าขึ้นอยู่ด้านหลัง กลางสายฝนที่สาดกระหน่ำลงมาแบบมืดฟ้ามัวดิน ด้วยความดีใจทำให้หญิงสาวรีบเปิดประตูพรวดลงไปเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ว่าเท้าดันลื่นถลาลงไปอยู่กลางถนนแทน
“อ้ายยยย”
“เอี๊ยดดด !”
“โครมมม !”
หลังจากนั้นสองสัปดาห์
เพื่อน ๆ ของทิชา ต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตหลังเรียนจบ บ้างก็กลับไปทำงานที่ต่างจังหวัด บ้างก็ได้งานใหม่ที่ต้องย้ายที่อยู่ ทุกคนต่างวุ่นวายอยู่กับเรื่องของตัวเอง ไม่ต่างจากครอบครัวของทิชาเอง ที่อยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ บิดามารดาของทิชาเข้าใจว่า ลูกสาวกำลังวุ่นอยู่กับการหางานใหม่ และยังไม่อยากกลับบ้านช่วงที่มีโรคระบาด ปกติแล้วพวกท่านก็ไม่ได้ติดต่อหาทิชาบ่อยนัก โทรหากันก็ช่วงมีธุระเท่านั้น ยิ่งตอนนี้พี่สาวของทิชา เพิ่งคลอดหลานชายให้พวกท่าน ได้ช่วยกันเลี้ยงดูด้วยแล้ว ความเห่อหลานความเหนื่อยจากการช่วยกันเลี้ยงหลาน จึงทำให้เรื่องของทิชาไม่เป็นที่สนใจของครอบครัว
พนักงานของบริษัทให้เช่ารถ ไม่อยากถูกตำหนิเรื่องน้ำมันหมด และเข้าใจว่าลูกค้าคงทิ้งรถไปแล้ว เลยนำรถกลับไปอย่างเงียบ ๆ ส่วนที่โรงแรมก็คิดว่าลูกค้าหายตัวไป อาจติดธุระเร่งด่วน ไม่อยากเข้าไปแจ้งความให้ยุ่งยาก เพราะก่อนหน้าไม่กี่เดือนนั้น เพิ่งมีข่าวการฆ่าตัวตายในห้องพักของโรงแรม กลัวว่าหากเกิดเรื่องขึ้นอีก ลูกค้าจะเงียบหนักกว่าที่เป็นอยู่ เลยเก็บข้าวของของลูกค้าเอาไว้ก่อน เผื่อวันไหนเจ้าตัวมารับคืน
เจสซี่พาคัทลินเข้าไปตัดไหมเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้
“เจสซี่ไม่ค่อยมีเงิน เลยซื้อได้แต่ยี่ห้อแบบนี้นะแคท ช่วงนี้แขกน้อยลงเยอะ” เจสซี่ไม่อยากเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เลยพาไปเลือกซื้อเสื้อผ้าในร้าน ที่กำลังติดป้ายลดราคาอยู่
“แบบไหนก็ได้ แคทใส่ได้หมดแหละเจสซี่”
“พวกป้ายเหลืองนั่นราคากำลังงาม ไปเลือกเลยจะเอาแบบไหน แต่ขอเซ็กซี่ ๆ นะ อาชีพอย่างเรา ๆ มันจำเป็นรู้ไหม” หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ทั้งคู่ก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้น
“ได้สิ”
“แคทเลือกชุดแล้วก็ไปลองชุดคนเดียวเลยนะ เจสซี่จะดูตรงนี้รอพอดีอยากได้ชุดชั้นในใหม่พอดี”
“ได้จ้ะ”
คัทลินเลือกเสื้อผ้าที่มีป้ายราคาสีเหลือง นำเข้าไปลองในห้องลองชุด หญิงสาวยืนจ้องคนที่อยู่ในกระจก พร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นวางตรงหน้า ผู้หญิงในกระจกนั้นดวงตากลมโต ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวโก่งสวย ริมฝีปากก็อวบอิ่มเป็นกระจับ แต่ทำไมเธอกลับจำเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเองไม่ได้เลย
“เธอคือ คัทลิน โคกตัน จำให้ได้สิ”
หญิงสาวเอาหน้าผากโคกกระจกตรงหน้าเบา ๆ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็จำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ ปาดน้ำตาที่กำลังไหลลงมาตรงแก้มออก แล้วจัดการลองชุดให้เรียบร้อย เมื่อได้อย่างที่ต้องการแล้ว ก็หอบชุดทั้งหมดเดินออกจากห้องลองชุดมา ตรงไปหาเจสซี่ที่ยืนรออยู่ ตรงหน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน
“ได้กี่ตัวล่ะแคท”
“เอ่อ ก็สามสี่ตัว เกรงใจเจสซี่ด้วย”
“ซื้อไปเถอะ อีกหน่อยได้ทำงานแล้ว ก็อย่าลืมมาเผื่อแผ่เพื่อนคนนี้บ้างล่ะ”
“ทำงาน”
“ก็ใช่น่ะสิ” เจสซี่หันมาหรี่ตามอง ก่อนจะยิ้มนิด ๆ พร้อมกับกระซิบเบา ๆ ตรงหูของคัทลิน
“เราต้องทำงานนะแคท ไม่งั้นก็ไม่มีเงินเอามาจ่ายค่าห้องค่ากินค่าใช้ แคทยังมีค่ารักษาพยาบาลที่แม่ต้องผ่อนจ่ายให้ทางโรงพยาบาลอีก เห็นไหมมีแต่รายจ่ายทั้งนั้นเลย ถ้าเราไม่ทำงานก็ไม่มีเงินใช้”
“แต่ว่าแคทจำไม่ได้นี่ว่าต้องทำยังไง”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยแคท เดี๋ยวเจสซี่สอนให้เองไม่ใช่สิต้องเรียกว่ารื้อฟื้นความหลังให้เอง ตอนนี้ก็รอแค่แผลที่หัวของแคทหายสนิทก่อน ดีนะเย็บไม่กี่เข็มเอง แถมอยู่ด้านข้างเอาผมบัง ๆ ไว้หน่อย ก็ไม่เห็นรอยแผลตรงผมที่โดนโกนออกแล้ว” เจสซี่บอกแล้วก็ใช้นิ้วแหวกเส้นผม ดูรอยแผลบนศีรษะของอีกคน
“งั้นก็ฝากเจสซี่ด้วยนะ เหมือนแคทต้องเรียนรู้ใหม่หมดเลย” คัทลินไม่มีทางเลือกอื่น คงต้องใช้ชีวิตแบบที่เคยเป็นมาก่อน
“จ้าไม่ต้องห่วง เอามานี่เดี๋ยวเจสซี่จ่ายให้” ตะกร้าในมือของคัทลิน ถูกเจสซี่ดึงออกไปเพื่อทำการคิดเงิน รวมกับชุดชั้นในที่เธอเลือกซื้อ
กลับถึงคอนโดมิเนียม เจสซี่นำชุดชั้นในแสนเซ็กซี่ของตน ออกมาวางเรียงรายไว้บนโต๊ะ แล้วกวักมือเรียกคัทลินให้มานั่งดูด้วยกัน
“สวย ๆ ทั้งนั้นเลยนะเจสซี่” คัทลินหน้าแดงเล็กน้อย เพราะเจ้าผ้าน้อยชิ้นนั้นก็บางแสนบางเหลือเกิน
“จะทำงานทั้งทีก็ต้องมีชั้นในเซ็กซี่ ๆ รู้ไหม นี่เจสซี่ซื้อมาให้แคทด้วยห้าชุดเลย แพงนะเนี่ย” เจสซี่เลื่อนชุดชั้นในที่ซื้อให้คัทลินไปฝั่งที่เจ้าตัวนั่งอยู่
“นี่ของแคทเหรอเจสซี่” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เจสซี่ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ทำไมปกติแคทใส่เซ็กซี่กว่านี้อีกนะ หรือบางทีก็แทบไม่ใส่เลยด้วยซ้ำ”
“แต่ว่าอันที่อยู่ในตู้ก็ไม่ถึงขนาดนี้นี่นา” คัทลินแอบช็อกกับเรื่องที่ได้รู้
“ก็แคทน่ะ ใส่ทีไรลูกค้าก็ทำพังทุกทีไง”
“ฮ้า”
“ไม่ต้องฮ้าหรอกแคท เจ้าผ้าผืนน้อย ๆ แสนบาง ๆ นี่ ลูกค้าชอบฉีกชอบกระชากนักล่ะ สงสัยมันได้อารมณ์ดี เลยขาดเป็นประจำ แทบจะใส่แล้วทิ้งเลยก็ว่าได้ แล้วเราก็เรียกค่าเสียหายจากลูกค้าแพง ๆ เอา เห็นไหมได้สองต่อเลย” คำอธิบายของเจสซี่ ยิ่งทำให้คัทลินรู้สึกหวิว ๆ อยู่ในอก นี่เธอเป็นคนแบบนี้จริง ๆ หรือ บางอย่างในใจแอบแย้งเบา ๆ