Chapter 3: บ้านหมอยันต์

1858 Words
มิลาดาขึ้นรถจากกรุงเทพฯ มาสุพรรณบุรีในตอนเช้าตรู่ แต่กว่าจะมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ห่างไกลผู้คนแถมตัวเธอยังเป็นคนหลงทิศหลงทางแบบน่าเหลือเชื่อทำให้กินเวลามากพอสมควร เวลามาถึงบ้านของหมอยันต์จึงย่างเข้าเย็นย่ำแล้ว ขึ้นรถตู้จากหมอชิตใหม่ก็ตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว หลงทางหารถต่อเข้ามาอำเภอเล็ก ๆ นี่อีก แล้วยังจะต้องแบกของขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาถึงบ้านหมอยันต์อีก กว่าจะมาถึง หิวจะตายอยู่แล้ว ข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กิน หมอชื่อดังอะไรฝังตัวอยู่บ้านนอกขนาดนี้เนี่ย? สาวน้อยบ่นในใจแต่ก็ยังยอมทนเพราะมันย่อมดีกว่าการถูกผีร้ายตามรังควานทุกคืนเป็นแน่ มิลาดาเห็นบ้านไม้สักหลังใหญ่ยกพื้นสูง มีรั้วรอบขอบชิดทำด้วยไม้สักทอง ดูก็รู้ว่าเป็นบ้านคนมีเงินแม้จะปลูกอยู่นอกตัวเมืองก็ตาม มันทำให้สาวน้อยมั่นใจหนักขึ้นไปอีกว่าบ้านหลังนี้ต้องเป็นบ้านของหมอยันต์ที่จะเป็นวีรบุรุษกอบกู้สันติสุขให้กลับคืนสู่ชีวิตเธออีกครั้งแน่ ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนทะมัดทะแมงจึงกระชับกระเป๋าเป้สัมภาระที่อยู่ด้านหลังก่อนจะเปิดประตูรั้ว เดินตรงเข้าไปในบ้าน ถอดรองเท้าผ้าใบของเธอออกวางไว้เคียงข้างรองเท้าส้นสูงสีแดงสุดสวยแล้วก้าวฉับ ๆ ขึ้นบันไดบ้านอย่างมั่นใจ “สวัสดีค่ะ! มีใครอยู่ไหมคะ? หมอยันต์กันภัยอยู่ไหมคะ?” สาวน้อยส่งเสียงเรียก แต่กลับไม่มีเสียงคนขานตอบ เธอจึงเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดลงที่ประตูห้องห้องหนึ่ง ด้านบนมีอักษรไทยสักตวัดปลายสวยงามบนแผ่นไม้สีเข้มขัดมันระบุว่า ‘ห้องลงยันต์’ อ้อ! อาจจะสักยันต์อยู่ มิลาดาคิดในใจก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วเปิดมันออก แอ๊ด... ภาพตรงหน้าทำให้สาวน้อยมิลาดายกมือขึ้นทาบอกแล้วทำหน้าแดง เธอเห็นหนุ่มหล่อหน้าตาคมเข้ม หนวดเคราครึ้มขับให้เขาดูดุดันนั่งขัดสมาธิ ท่อนกายด้านบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นแผ่นอกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแบบที่เธอเคยเห็นนายแบบ ดาราเขาเป็นกัน แต่พ่อหนุ่มหล่อตรงหน้ามียันต์หนุมานสักอยู่บนท่อนแขนและยันต์​อักขระโค้งพาดบริเวณไหปลาร้าจากซ้ายไปขวา ตรงหน้าท้องแน่นซิกส์แพ็คมียันต์เสือเหลียวหลัง ทำให้ดูน่าค้นหามากกว่าพวกนายแบบที่เธอเห็นหลายเท่านัก ส่วนท่อนล่างของเขามีผ้าขาวม้าลายตารางขาวแดงพันปกปิดอยู่ แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าหนุ่มหล่อกึ่งเปลือยคือหญิงสาวหน้าสวยที่เปลือยทั้งตัวและนั่งคร่อมบนตักเขาแถมยังประกบปาก กอดคอเขาจูบอย่างดูดดื่มราวกับกำลังรุกไล่ฝ่ายชายอยู่ มิลาดาอยากจะปิดประตูห้องแล้ววิ่งออกไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่มาจนถึงที่นี่แล้วนะ จะให้หนูหนีกลับไปง่าย ๆ เหรอ? อย่างน้อยก็ต้องรู้หรือเปล่าว่าหมอกันภัยอยู่ที่ไหน? สาวน้อยคิดในใจก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงเขินอายยิ่งกว่าสองหนุ่มสาวที่เกือบจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่รอมร่อเสียอีก “อ๊ะ! เออ... ขอโทษค่ะ ที่นี่บ้านของคุณกันภัยหรือเปล่าคะ? คุณกันภัย ยาตราศาสตร์น่ะค่ะ หมอกันภัย... คนที่เป็นหมอสักยันต์น่ะค่ะ” “ใช่ ที่นี่เป็นบ้านหมอยันต์ แต่ไม่ใช่หมอกันภัยอะไรนั่นหรอกนะ นี่บ้านหมอก้าน หมอสักยันต์ชื่อดังของสุพรรณ ไม่รู้หรือไง?” รสิกาตอบแล้วยื่นมือขาวงามไปคว้าชุดของเธอมาสวมเข้าทางศีรษะ ค่อย ๆ จัดแจงต่อหน้าต่อตาของมิลาดา ไม่มีความเอียงอายเลยสักนิด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารสิกามั่นใจในรูปร่างของตัวเองมากแค่ไหน “งั้น... เออ... ขอโทษค่ะที่มาขัดจังหวะ เชิญต่อตามสบายนะคะ” มิลาดากลับเป็นฝ่ายเก้อเขินเสียเองแล้วทำท่าจะหันหลังกลับ แต่ก็จำต้องหันมาใหม่แล้วแข็งใจถามสองหนุ่มสาวอีกครั้ง “แล้วพวกคุณรู้ไหมคะว่าหมอกันภัยอยู่ที่ไหน? ตามแผนที่บ้านของหมอกันภัยก็น่าจะอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช่ที่นี่แล้วมันจะเป็นที่ไหนล่ะคะ?” สาวน้อยถามแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอสบตารสิกาก่อน เมื่อเห็นแววตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ มิลาดาจึงเลื่อนสายตามาสบกับหมอสักยันต์รูปหล่อ หล่อมากกกกกก แบบ ก.ไก่ล้านตัว ขนาดเคราครึ้มยังหล่อขนาดนี้ มิน่าล่ะ... แฟนสวย มิลาดาคิดในใจแล้วกลืนน้ำลายลงคอเพราะแต่ละสัดส่วนของหมอก้านล้วนกำยำล่ำสัน สาวน้อยที่ไม่เคยเห็นซิกส์แพ็กของจริงแบบเต็มตาจึงได้แต่ใจเต้นตึกตัก บวกกับเมื่อสบตาหมอยันต์รูปหล่อเขาก็จ้องตอบ มองเหมือนจะทะลุเข้าไปในใจเธอมันยิ่งทำให้มิลาดาใจเต้นไม่เป็นส่ำไปกันใหญ่ “มึงเป็นใคร? ขึ้นมาบนเรือนกูทำไม? แล้วมาถามหาหมอยันต์กันภัยทำไม?” หมอก้านถามเสียงเรียบขณะที่มือใหญ่ผลักร่างงามที่สวมเดรสสีแดงกลับเข้าไปเรียบร้อยแล้วของรสิกาออกจากตัว เขาล็อกสายตาเข้ากับสาวน้อยหน้าลูกครึ่งที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ตรงหน้าประตู ไม่สนใจสาวสวยที่เมื่อครู่ขโมยจูบจากริมฝีปากร้อนของเขาเลยสักนิด “ทำไมหยาบคายจังคะ? หนูยังพูดคะ พูดขากับพวกคุณ คนเพิ่งเคยเจอกัน ขึ้นมึงขึ้นกูเลยเหรอคะ?” มิลาดานิ่วหน้าแล้วถามเขากลับ ใจหนึ่งก็กลัวใบหน้าดุดันแต่ความกลัวมันน้อยกว่าความหัวเสียที่ได้ยินเขาพูดจาหยาบคายกับเธอ “หมอก้านเขาก็พูดแบบนี้กับทุกคนแหละ ตัวเองเป็นนางฟ้านางสวรรค์หรือไงถึงทนฟังคำหยาบคายไม่ได้ หมอก้านไล่กลับไปเถอะค่ะ สงสัยจะมาผิดที่” รสิกาเอ่ยเสียงออเซาะแล้วลูบต้นแขนล่ำสันของหมอก้านเบา ๆ เหมือนเป็นการกล่อมให้เขาเห็นด้วยกับเธอ “ไม่ได้เป็นนางฟ้านางสวรรค์ค่ะ เป็นคนธรรมดาที่ต้องการการให้เกียรติซึ่งกันและกัน” มิลาดาทำหน้าบึ้งแล้วตอบรสิกาที่พูดจาประชดประชันเธอไป “กูก็พูดแบบนี้ของกูตั้งแต่เกิด ไม่เคยเห็นใครมีปัญหา ส่วนมึง... สักยันต์เสร็จก็กลับไปได้แล้ว และอย่าลืม การจะให้ยันต์ขลังต้องไม่ผิดผัวผิดเมียใคร ไม่กระทำการบาปหนักใด ๆ” หมอก้านพูดขึงขังแล้วบุ้ยหน้าบอกให้รสิกาออกจากห้อง “แต่ริก้าเจ็บแผลนี่คะ หมอก้านสักแรง” รสิกาเหลือบมองไปทางด้านหลังของตนที่บัดนี้รอยยันต์สักใหม่ยังขึ้นเป็นเส้นแดงปนหมึกดำ โผล่ออกมาจากชุดเดรสสุดเซ็กซี่ของเธอ “เจ็บ กินยาก็หาย ไปได้แล้ว” เขาบอกเธอสั้น ๆ และก่อนที่รสิกาจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืน หมอยันต์หนุ่มหล่อก็จับสังเกตได้ว่าแม่สาวน้อยที่บุกเข้ามาในห้องลงยันต์ค่อย ๆ ขยับตัวอย่างเงียบเชียบ และกำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องอย่างแนบเนียน “ส่วนมึง... ยัยเด็กหน้าลูกครึ่ง ปากดี หยุดก่อน มาคุยกันให้รู้เรื่อง” หมอก้านออกปากห้ามมิลาดาแล้วสั่งเธอเสียงเข้ม เสียงทุ้มของเขาทำเอามิลาดาต้องชะงักเท้าแล้วสบตากับเขาอีกรอบ “แต่... จะคุยกันเรื่องอะไรคะ? คุณบอกเองว่าหนูมาผิดที่” มิลาดาถามเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถึงเขาจะหล่อแค่ไหนก็ตามเธอก็สัมผัสได้ว่าเขาเป็นพวกหล่ออันตรายไม่น่าเข้าไปกล้ำกรายเป็นที่สุด “นั่นสิคะ จะคุยกับยัยเด็กกะโปโลแบบนี้ทำไม? ในเมื่อมาหาหมอสักยันต์ผิดบ้านก็ปล่อยให้ไปตามหากันใหม่เอาเองสิคะ มาถึงบ้านหมอยันต์ชื่อดังอย่างหมอก้าน ยังจะมองหาหมอยันต์คนอื่นอีก มีตาแต่ไม่มีแววจริง ๆ” รสิกาพูดแล้วลุกขึ้นยืน จะกลับก็ไม่กลับ รีรอดูท่าทีหมอก้านและแขกแปลกหน้า เพราะยิ่งดูรสิกาก็ยิ่งเห็นว่ายัยเด็กแปลกหน้าจิ้มลิ้มน่ารักอยู่ไม่น้อย เกรงจะเสียคะแนนที่มีต่อหมอก้านให้เด็กแปลกหน้าไปเสียหมด “กูจะบอกมึงเป็นครั้งสุดท้าย กลับไป! ถ้าไม่กลับกูจะถอนคาถาสักยันต์ที่หลังของมึง” หมอก้านขู่รสิกาเสียงเข้ม ไอ้เรื่องถอนคาถาสักยันต์ไม่มีจริงทั้งนั้น สักแล้ว ลงคาถาแล้ว ไม่มีทางถอนได้นอกจากเจ้าของยันต์จะประพฤติไม่เหมาะไม่ควร แต่ดูเหมือนรสิกาจะเชื่อหมอก้านสนิทใจ เธอจึงทำหน้าซีดเผือดก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินไปทางประตูห้องลงยันต์ด้วยความรวดเร็ว “นังเด็กไม่มีมารยาท ถ้าแกไม่มาขัดจังหวะนะ ฉันคง...” รสิกากระซิบบอกมิลาดาก่อนจะออกจากห้องด้วยความขัดเคืองแต่ก่อนจะพูดจบประโยคเสียงทุ้มห้าวของหมอก้านก็ดังขึ้นก่อน “กูบอกว่าให้มึงออกไป!” เสียงของหมอยันต์รูปหล่อทำให้สองสาวสะดุ้งแต่แทนที่จะเป็นรสิกาขานรับคำเขา มิลาดากลับเป็นคนขานรับแทน “อ้อ! ค่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” “มึงน่ะอยู่ นังคนที่กูเพิ่งสักหลังให้ต้องกลับไป” เสียงหมอก้านดังสวนขึ้นมาทันควัน รสิกาทำหน้าบึ้งแล้วเดินกระแทกส้นเท้าออกจากห้องทันทีในขณะที่มิลาดายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ตรงประตูห้อง “เข้ามา ปิดประตูด้วย” หมอก้านสั่งเสียงเรียบ ยังจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าราวกับกำลังศึกษาสิ่งน่าสนใจอยู่ “เออ... แต่... หนูมาหาหมอกันภัยนี่ค่ะ ถ้าที่นี่ไม่มีหมอกันภัย หนูก็ต้องไปหาที่อื่นสิคะ” มิลาดากล่าวแล้วค่อย ๆ ก้าวถอยหลังทำท่าจะออกจากห้อง ปัง! “เข้ามา!” หมอยันต์หนุ่มตะโกนหลังจากที่จู่ ๆ ประตูที่จะนำสาวน้อยออกไปจากห้องปิดลงด้วยตัวของมันเองทั้ง ๆ ที่ไม่มีลมพัดเลยสักนิด ทำเอามิลาดาเสียวสันหลังวาบ เธอหันไปดูประตูไม้ที่ปิดสนิทก่อนจะหันกลับมาจ้องตาคมของหมอหนุ่มที่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามันเรืองแสงสีแดงออกมาราวกับตาปิศาจ “กูนี่แหละ กันภัย ยาตราศาสตร์ มึงอยากเจอกูก็เข้ามา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD