ความเดิม- "ไม่เป็นไรค่ะพี่ชาย ขอให้ใช่นะคะ หนูชอบในความเป็นนักสู้ของน้องค่ะ เอาใจช่วยนะคะ สู้สู้ค่ะ" คนน้องเอ่ยขึ้นพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นระดับอกในท่าหันเข้าหาตัวเอง
…………………………….
หลายเดือนผ่านไป
ตัดมาที่เปรมกิจ ผู้ป่วยในการดูแลของมานพ พยาบาลพิเศษ หลายเดือนผ่านมานี้อาการของเปรมกิจดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างคนปกติ มีมัดกล้ามเนื้อให้เห็น ตลอดจนการพูดการจาดีขึ้นแทบจะเหมือนคนปกติและแพทย์สหสาขาวิชาชีพลงความเห็นตรงกันว่าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติโดยไม่ต้องมีพยาบาลคอยประกบแล้ว
ด้านมานพรู้ดีที่สุดเพราะอยู่ใกล้คนป่วย เขาได้ไปสมัครสอบเป็นพยาบาลวิชาชีพในสถานพยาบาลของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเอาไว้แล้ว เป็นงานที่ต้องทำงานในสถานพยาบาลประจำชุมชนซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการคัดสรรแต่ถึงจะได้หรือไม่ได้อย่างไรก็ต้องไปอยู่ดีแต่ชายหนุ่มไม่ได้เสียดายเลยสักนิดสำหรับการตกงานอีกครั้งในครั้งนี้ มันเป็นการตกงานอย่างภาคภูมิใจมากกว่า เขาคิดแบบนั้น ประกอบกับน้องสาวที่กำลังจะเปิดเทอมในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เขาคิดว่าจะพาน้องสาวกลับไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมและเขาก็ได้บอกน้องสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคนน้องยิ่งดีใจยิ้มจนแก้มปริ ทั้งสองออกจากบ้านมาเป็นปีคิดถึงเหลือเกิน และวันนี้เป็นวันที่เขาและน้องต้องไปแล้ว
อีกด้านของคนที่ใจหายกับการไปของเพื่อน
"เธอ จะไปแล้วเหรอ เราคงเหงามากเลยถ้าเธอไม่อยู่" อัญญารินทร์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนวัยเดียวกันที่อยู่ร่วมชายคากันมาสักระยะหนึ่งเดินถือกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ๆ ออกมาจากห้อง
"ใช่จ้ะ คุณท่านหายดีแล้วไม่จำเป็นต้องมีพยาบาลคอยประกบแล้ว อีกอย่างในบ้านนี้ก็มีแพทย์อยู่ด้วย สบายใจได้" มานิดาเอ่ยยิ้ม ๆ
"อีกตั้งเดือนกว่า ๆ กว่าจะเปิดเทอมถ้าผ่านมาก็มาเยี่ยมเราบ้างนะ เราไม่รู้ว่าบ้านเธออยู่ไหนไปหาไม่ถูก" เด็กสาวพูดอย่างแสนซื่อ
"ได้ซิ ถ้าคิดถึงก็นัดเจอกันก็ได้นิ่ ร้านส้มตำไก่ย่างร้านประจำของพี่ชายเราไง อร่อยเด็ดเดี๋ยวพาไปชิม เอาโทรศัพท์มาซิ อ่ะ นี่ที่ยิงไปน่ะเบอร์เรานะ ส่วนที่ทักแช็ทไปก็ ไอดีไลน์ของเรา เซฟเก็บไว้นะ ไปล่ะ" มานิดาเอ่ยยิ้ม ๆ
"โชคดีนะ ว่าที่คุณหมอ เทอมหน้าก็ขึ้นปีสองแล้วนิ่ เจอกันที่ ม.ก็ทักทายเราบ้างนะ" อัญญารินทร์เอ่ยหน้าจ๋อย
"ได้ซิ ไปล๊ะ" มานิดาตอบรับอย่างหนักแน่น
"บายจ้ะ" อัญญารินทร์โบกมือลาเพื่อนสาววัยเดียวกันด้วยความอาวรณ์
จากนั้นหญิงสาวร่างเล็กผู้มีผิวพรรณดูมีออร่าก็ถือกระเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อไปสมทบกับพี่ชาย
"นาง มาพอดีเลย มาลาคุณท่านทั้งสอง มะ"
"หนูลานะคะ มานิดาเดินมานั่งที่พื้นข้าง ๆ พี่ชายแล้วยกมือกระพุ่มไหว้ชายสูงวัยทั้งสองอย่างนอบน้อม
"โชคดีนะว่าที่คุณหมอ" เปรมชัยเอ่ยยิ้ม ๆ ด้วยเมตตา
ตัดมาที่เปรมมนัสที่เห็นหลานสาวยืนชะเง้อคอยาวมองไปทางห้องนั่งเล่นก็พอเดาเหตการณ์ออกจึงเข้าไปหาหลานสาว
"ไงเรา หน้าจ๋อยเลย เดี๋ยวก็เจอกันที่ ม. เราเองนั่นแหละที่จะไม่ว่างเสียเอง ก็ไหนเห็นแลกเปลี่ยนคอนเน็คชั่นกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ก็นัดเจอกันวันที่ว่างซิ วันหยุดไง น้องนางเพิ่งขึ้นปีสองยังไม่ยุ่งมากหรอก พอมีเวลาเจอกันอยู่" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ เขาวางมือบนศีรษะของหลานสาวสุดที่รักแล้วโยกเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู
"ค่ะ อานัท ถ้าจะนัดเจอกันหนูจะชวนยัยบีไปด้วยค่ะ ยัยนั่นก็ไม่ค่อยออกไปไหนเหมือนกัน" อัญญารินทร์แหงนไปมองหน้าคุณอาหนุ่มแล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง
"อืม..ก็ดีจะได้ไม่เครียด" เปรมมนัสเอ่ยอย่างเห็นด้วย จากนั้นชายหนุ่มได้ล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มากดอะไรบางอย่างมุมปากยกยิ้มแล้วเก็บไว้ที่เดิม
อีกด้านของคนที่ได้รับข้อความใหม่
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความใหม่เป็นไอดีของเพื่อนรักเขาจึงเข้าไปเปิดอ่านดูแล้วต้องยกยิ้มมุมปากพลางนึกขอบคุณเพื่อนรักในใจและส่งข้อความกลับไปบอกเพื่อนรักให้ฝากขอบคุณคนต้นทางอีกทีหนึ่งด้วย
ตัดมาที่สองพี่น้องที่เพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน
@บ้านวรรณวัฒน์
'บ้านที่คิดถึง' มานิดาพึมพำและยิ้มในหน้า
"เหนื่อยมั๊ยน้องนาง หิวหรือยัง" มานพเอ่ยถามน้องสาวอย่างนึกเป็นห่วง
"เหนื่อยก็นิดหน่อยค่ะพี่นพ แต่สุขใจมากกว่า ส่วนหิวก็มากอยู่ แฮร่" คนน้องตอบหน้าทะเล้น
"“เก็บข้าวของเสร็จเดี๋ยวจะพาไปกินข้าวข้างนอกดีมั๊ย จะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำ" คนพี่เอ่ยอย่างขอความเห็น
"ดีค่ะ พี่นพจะได้ไม่เหนื่อย เดี๋ยวหนูขับมอ'ไซค์ให้"
"ไม่ต้องหรอก..พี่ขับเองแค่เราบอกว่าจะกินที่ไหนก็พอ เก็บของเสร็จแล้วจะพาไป”
"ได้เจ้าค่ะ รักพี่นพที่สุดเลย น้องอยากกินราดหน้าหมี่กรอบ แล้วก็เย็นตาโฟด้วย อยากกินหลายอย่างเลย"
"เออ..ไปถึงโน่นก็มีให้กินทุกอย่างแหละ พี่เลี้ยงไม่อั้น"
"จัดของเสร็จล๊ะ งั้นออกไปเลยนะคะ" คนน้องบอกอย่างกระตือรือร้น
"ได้ งั้นปะ เดี๋ยวเอากุญแจรถก่อน ส่วนเราไปเปิดไฟหลังบ้านด้วยนะ หยิบหมวกกันน็อคมาให้ด้วย"
"ได้เจ้าค่า" คนน้องรีบทำตามคำสั่งแล้วมานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่คนพี่สตาร์ทรออยู่ก่อนแล้ว
"ไปกันเล้ย.." คนพี่ขับรถจักรยานยนต์คู่ใจออกไปโดยมีน้องสาวนั่งซ้อนท้ายกอดเอวแล้วอิงซบศีรษะลงบนบ่าของพี่ชายโดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครที่แอบมองอยู่ข้าง ๆ ในมุมมืด