บทที่ 13 เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

1624 Words
กุ้ยหนิงอันร้องไห้โฮอย่างไม่อาย ก่อนจะเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังอย่างไม่ปิดบัง รวมถึงเรื่องที่เธอตัดสินใจหนีกลับมาอยู่บ้าน เพียงแต่ไม่บอกว่าผู้ชายคนนั้นคือจิ้งเจี้ยนซา เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด สองสามีภรรยาได้แต่น้ำตาซึมและอดสงสารในโชคชะตาของลูกสาวไม่ได้ “ดีแล้วล่ะลูกที่กลับมาบ้าน ผู้ชายคนนั้นดูแล้วฐานะจะต่างกับเรานัก ไม่เป็นไรนะอันอัน เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว พ่อจะเป็นกำแพงและที่พักพิงให้ลูกและหลานเอง เราจะจับมือกันไปด้วยกันนะลูกรัก” “ใช่แล้ว แม่คิดเช่นเดียวกับพ่อ ใครจะพูดหรือจะว่าอะไรแม่ไม่สนใจ ท้องไม่มีพ่อแล้วยังไง เจ้าก้อนแป้งในท้องลูกยังมีแม่ที่ดีเช่นอันอันคอยอุ้มชู ยังมีตายายที่รักเขามาก และยังมีน้าทั้งสองคนอีก สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่เป็นสิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา เริ่มต้นกันใหม่นะอันอัน” “ฉันขอโทษ ที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง” น้ำเสียงเจือไปด้วยอาการสะอึกสะอื้น แม้เรื่องนี้จะน่าอับอายที่ลูกสาวคนโตท้องไม่มีพ่อ แต่กุ้ยหนิงอันกลับไม่ได้รับคำตำหนิใด ๆ มีเพียงกำลังใจและแขนของพ่อกับแม่คอยอ้ารับในความผิดพลาดของเธอ “ไม่เลย พ่อไม่เคยผิดหวังในตัวของลูก ต่อไปนี้เราเริ่มต้นกันใหม่นะอันอัน” “ใช่แล้ว แม่กลับภูมิใจในตัวลูกมากกว่าที่กล้าเดินเข้ามาบอกพ่อกับแม่ เราเริ่มต้นกันใหม่นะ ฝันร้ายมันผ่านไปแล้วลืมมันเสียเถอะลูกรัก” สามคนพ่อแม่ลูกกอดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน กุ้ยจื่อหลงตาแดงก่ำ เขาไม่ได้เสียใจแต่แค้นใจตนเองที่ไม่สามารถดูแลลูกได้ และไม่รู้ว่าที่ผ่านมานั้นอันอันของเขาต้องทุกข์ใจแค่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไร จากนี้เขาจะดูแลและปกป้องทุกคนในครอบครัวด้วยตนเอง หลังจากเปิดใจกับครอบครัว กุ้ยหนิงอันจึงตัดสินใจลาออกจากงานและกลับมาอยู่บ้าน เพราะคำขอร้องของพ่อแม่ ส่วนน้องชายทั้งสองรู้แล้วว่าเธอตั้งท้อง และสองแฝดกำลังจะมีหลาน กุ้ยหมิงเล่อและกุ้ยหมิงเฮ่อต่างก็ตื่นเต้นดีใจยกใหญ่ แม้อายุเพียงสิบเอ็ดปี แต่ก็รู้ความนัก ทั้งสองต่างก็แย่งกันพูดว่าจะช่วยเลี้ยงหลานเอง และจะสอนให้หลานทั้งสองอ่านเขียนด้วย วันนี้เมื่อไม่มีรายได้เข้ามา และกุ้ยหนิงอันไม่อยากให้พ่อกับแม่รับจ้างใช้แรงงานแม้ว่าช่วงนี้จะยังอยู่ในช่วงหิมะตกก็ตาม เธอจึงตัดสินใจจะทำซาลาเปาและขนมจีบขายหลังปีใหม่ มื้อเย็นวันนี้กุ้ยหนิงอันจึงปรึกษากับครอบครัว “พ่อแม่ ฉันคิดว่าเรามาขายซาลาเปาและขนมจีบดีไหม” “ดีเหมือนกันนะ อุปกรณ์ในบ้านก็พอมี เงินที่ลูกส่งมาให้ทุกเดือนก็เหลือเยอะ เอามาลงทุนกันดีกว่า” ในเวลานี้ไม่ว่ากุ้ยหนิงอันคิดจะทำอะไร กุ้ยจื่อหลงและจางหานไม่คิดที่จะห้าม อะไรที่ลูกทำแล้วมีความสุขเขาและภรรยายินดีที่จะสนับสนุน เพียงแต่อย่าหักโหมจนเกินไปเท่านั้นก็พอ “ขอบคุณนะคะพ่อ ขอบคุณค่ะแม่” กุ้ยหนิงอันยิ้มให้ทั้งสองคนด้วยความดีใจ เธอไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ และนั่นทำให้เธอและครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเงินอีกต่อไป หลังจากจบอาหารมื้อเย็น ทั้งห้าคนต่างก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตนเอง จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับไปนอน เมื่อเข้ามาในห้อง กุ้ยหนิงอันรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นสร้อยข้อมือไข่มุกเส้นหนึ่งคล้ายกับของเธอเมื่อชาติก่อนวางไว้ตรงโต๊ะข้างหัวเตียง เธอจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความแปลกใจ จากนั้นจึงตัดสินใจสวมที่ข้อมือด้านซ้าย ทว่าเมื่อเธอใช้มือสัมผัสและลูบสร้อยไข่มุก กลับปรากฏภาพมิติไร่ของเธอเมื่อชาติก่อนขึ้นมา ทุกอย่างยังคงสภาพเดิมทั้งหมด กุ้ยหนิงอันจึงตัดสินใจเดินสำรวจไร่อันกว้างขวางของตนเอง ข้าวของมากมายที่อยู่ตามที่ต่าง ๆ นี่ยิ่งทำให้เธอแปลกใจ “หรือว่านี่คือมิติกันนะ” เธอกล่าวจบจึงเดินไปทางสวนส้ม จากนั้นจึงเด็ดออกมาหนึ่งลูก เธอสัมผัสทุกอย่างได้ แต่ภายในใจนั้นกลับไม่แน่ใจว่าสิ่งของเหล่านี้เอาออกมาจากมิติได้หรือไม่ เมื่อกลับมาอยู่ในห้อง กุ้ยหนิงอันจึงเรียกผลไม้ออกมา ทว่ามีสิ่งของออกมาเพียงแค่ส้มลูกเดียว เธอจึงได้แปลกใจ แต่พอลองเรียกข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นกลับเรียกได้ทั้งหมด “หรือว่าผลผลิตในไร่ ต้องเข้าไปเก็บเกี่ยวด้วยตนเอง” กุ้ยหนิงอันลองผิดลองถูกอยู่นาน ทำให้เธอรู้ว่าผลผลิตในไร่ทุกชนิดแม้แต่ฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ วัวนม ต้องใช้กำลังคนเก็บเกี่ยว แตกต่างจากข้าวของชนิดอื่นที่สามารถเอามาใช้ได้แบบไม่จำกัด “หากเป็นแบบนี้คงต้องบอกกับพ่อแม่แล้วล่ะ หากให้เก็บเกี่ยวทุกอย่างในไร่คนเดียวเมื่อไหร่จะเก็บเกี่ยวหมดไม่รู้ อีกทั้งหมูฉันก็ชำแหละไม่เป็น งานหนักแล้วอันอันเอ๋ย” เธอได้แต่บ่นกับตนเอง ตอนแรกตั้งใจจะบอกพ่อกับแม่ทันที เพื่อให้ท่านทั้งสองและน้องชายฝาแฝดเข้ามานอนในมิติ ทว่าเมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาก็เกือบเที่ยงคืน เลยคิดว่าค่อยบอกทุกคนพรุ่งนี้ อีกทั้งโรงเรียนของสองแฝดก็ปิดการสอนด้วย หากถามว่าทำไมถึงเชื่อใจพ่อกับแม่และน้องทั้งสอง กุ้ยหนิงอันคงตอบได้เพียงว่า เพราะทุกคนคือครอบครัวและคนที่เธอรักและรักเธอด้วยใจจริง ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี แม้อากาศจะหนาวเย็นแค่ไหน จางหานยังคงลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าร้อน ๆ ไว้รอทุกคน โดยมีกุ้ยจื่อหลงออกมาช่วยภรรยาด้วย กุ้ยหนิงอันคล้ายกับได้ยินเสียงพ่อกับแม่ตื่นแล้วจึงรีบแต่งตัวเพื่อคุยเรื่องสำคัญบางอย่าง “พ่อคะ แม่คะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย เข้าไปคุยที่ห้องฉันได้ไหม” คนเป็นพ่อแม่ได้แต่แปลกใจกับอาการของลูก จึงวางงานตรงหน้าเดินเข้ามาในห้องนอนของกุ้ยหนิงอันอย่างไม่รีรอ เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายอะไรกับกุ้ยหนิงอันหรือเปล่า “พ่อกับแม่เคยเห็นสร้อยไข่มุกเส้นนี้ไหมคะ” เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว กุ้ยหนิงอันจึงตัดสินใจเอ่ยถามเพื่อเปิดทางว่าเธอจะไปทางไหนต่อที่จะบอกเรื่องมิติกับพ่อแม่ จางหานมองสร้อยไข่มุกที่แขนของกุ้ยหนิงอัน ก่อนจะส่ายหน้าว่าไม่เคยเห็น “แม่ไม่เคยเห็นนะ ไม่ใช่ของอันอันเหรอลูก” “นั่นสิ สร้อยเส้นนี้ดูมีราคาแพง พ่อไม่มีปัญญาซื้อหรอก” กุ้ยจื่อหลงตอบด้วยความสัตย์จริง เขาไม่มีปัญญาซื้อสร้อยราคาแพงแบบนี้ให้ลูกหรอก “เมื่อคืนตอนที่ฉันเข้าห้องมาก็พบกับสร้อยเส้นนี้วางอยู่หัวเตียง” จากนั้นกุ้ยหนิงอันจึงเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับสร้อยเส้นนี้ให้ฟัง เพียงแต่ไม่บอกว่าเธอเคยเป็นเจ้าของสร้อยเส้นนี้มาก่อน “จริงเหรออันอัน สร้อยเส้นนี้เป็นของวิเศษใช่ไหม” จางหานเอ่ยถามเสียงสั่น เรื่องแบบนี้มันเกิดกับครอบครัวของเธอจริงเหรอ ส่วนกุ้ยจื่อหลงนั้นนิ่งค้างไปแล้ว “จริงค่ะแม่ ฉันจะพาพ่อกับแม่เข้าไปดูด้านใน พ่อกับแม่หลับตาก่อนนะคะ” เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะช็อกหรือสติแตกไปมากกว่านี้ จึงขอให้ทั้งสองคนหลับตาก่อน จากนั้นจึงจับมือทั้งสองคนเข้ามาในมิติ “ลืมตาได้แล้วค่ะ” เมื่อสองสามีภรรยาลืมตาขึ้นมา กลับพบเห็นภาพมหัศจรรย์ ภายในมิติแห่งนี้เป็นไร่ขนาดใหญ่ จะบอกว่าสุดลูกหูลูกตาก็เป็นได้ อีกทั้งยังมีบ้านหลังใหญ่อีกหนึ่งหลัง “นี่ นี่มันคือความจริงใช่ไหม” คราวนี้เป็นกุ้ยจื่อหลงที่เอ่ยถาม เกิดมาครึ่งชีวิตแล้ว เขายังไม่เคยพบสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้มาก่อน ได้แต่จับมือลูกและภรรยาไว้แน่น “ใช่ค่ะพ่อ แต่คงเป็นงานหนักของบ้านเรา เพราะผลผลิตในไร่แห่งนี้ต้องเก็บเกี่ยวเอง ในส่วนของฟาร์มยังมีหมูและไก่รวมถึงวัวนม ยังไม่รวมม้าอีกหลายตัว แต่ม้าเราคงหาที่ขายไม่ได้ในเวลานี้ ส่วนเนื้อหมูฉันก็ชำแหละไม่เป็นหากจะเอาเอาไปขายส่วนเรื่องเอามาทำอาหารนั้นในครัวยังมีอาหารตุนไว้เยอะ” “พ่อชำแหละเป็น เรื่องงานในไร่และเรื่องชำแหละเนื้อสัตว์พ่อจะช่วยเอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD