บทที่ 8 ลาออกจากงาน

1577 Words
กลับมาทางด้านจิ้งเจี้ยนซา หลังจากที่ดื่มเข้าไปมากมายจนครองสติแทบไม่อยู่ เมื่อเห็นว่าหลันอี้ข่ายหายไปไหนแล้วไม่รู้ เขาจึงขอตัวจากทุกคนกลับห้องพัก วันนี้เขาไม่ได้กลับบ้านเพราะรู้ว่าวันนี้ต้องเมาแน่นอน อีกทั้งร่างกายยังรู้สึกร้อนรุ่มและต้องการเรื่องนั้น เขาจึงคิดว่าคงจะเกิดจากความเมาที่ดื่มเข้าไปเยอะนั่นเอง เมื่อเข้ามาในห้อง เขาไม่คิดที่จะอาบน้ำเพื่อให้สร่างเมา คิดว่าตื่นเช้ามาค่อยอาบทีเดียว ทว่าเมื่อล้มตัวลงนอนกลับพบกับร่างนุ่มนิ่มของใครบางคนนอนอยู่อีกคน แต่เพราะสติสัมปชัญญะแทบจะไม่มี ดื่มไปมากความต้องการเรื่องนั้นย่อมต้องมีโดยไม่รู้เลยว่าที่เขาร้อนรุ่มเพราะเกิดจากยาที่คังปี่เจียววางยาหลันอี้ข่ายและเขาเผลอกินเข้าไปด้วย ความขาดสติทำให้เขาลืมความผิดชอบชั่วดีโดยปริยาย กุ้ยหนิงอันหลับสนิท โดยไม่รู้เลยว่าร่างกายของเธอกำลังโดยใครบางคนแตะต้อง และความบริสุทธิ์ที่เธอเก็บรักษามาตลอด กลับโดนพรากไปจากชายที่เธอไม่รู้จัก เมื่อพายุสงบลง จิ้งเจี้ยนซาจึงล้มตัวนอน สติในตอนนี้ทำได้เพียงจำกลิ่นกายของเธอไว้และเสี้ยวใบหน้าที่มีผมปิดไปครึ่งหนึ่ง ก่อนจะคว้าร่างบางมากอดโดยสัญชาตญาณ ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีกุ้ยหนิงอันรู้สึกตัวตื่น ทว่าร่างของเธอกลับโดนใครไม่รู้โอบกอดไว้ เมื่อมองหน้าชัด ๆ เธอแทบสิ้นสติ ‘นี่ไม่ใช่ผู้พันจิ้งเพื่อนเจ้าบ่าวของคุณชายรองหยางหรือ’ สัญชาตญาณเตือนเธอว่าควรจะออกไปจากห้องนี้ทันที แม้จะโกรธและเกลียดมากขนาดไหนที่ถูกเขาทำลายความบริสุทธิ์ไป ทว่าหญิงสาวชาวบ้านเช่นเธอจะมีปัญญาไปเรียกร้องอะไรได้ สุดท้ายคนที่อายคือตนเอง ดีไม่ดีอาจโดนกล่าวหาว่าเธอยั่วยวนเขาน่ะสิ เมื่อคิดว่าต้องไปจากที่นี่โดยเร็ว กุ้ยหนิงอันจึงยกมือของเขาที่กอดเธอไว้ด้วยความเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าเขาตื่น เมื่อหลุดจากอ้อมกอด พอก้าวเท้าแตะพื้นเธอกลับเจ็บแปลบตรงนั้น ด้วยความใจแข็งเธอจึงฝืนตนเองใส่เสื้อผ้าแล้วแอบออกมาจากห้องและรีบกลับไปยังอะพาร์ตเมนต์โดยเร็วที่สุด ทันทีที่กลับมาถึง กุ้ยหนิงอันกลับไม่เจอเพื่อสนิทอยู่ที่ห้อง ในใจได้แต่สงสัย และคิดว่าเสี่ยวซวนคงไม่เจอเหตุร้ายแบบเธอหรอกใช่ไหม ทว่าหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเธอจึงได้สำรวจร่างกายของตนเอง เมื่อเห็นรอยกุหลาบอยู่เต็มร่างกาย เธอจึงหาเสื้อผ้าปกปิดไว้เพราะกลัวเพื่อนจะสงสัย เวลาผ่านไปไม่นานซีซวนก็กลับมา ทั้งสองไม่ได้คุยอะไรกัน ต่างก็พักเอาแรง กว่าจะตื่นมาอีกครั้งก็เกือบถึงเวลางาน เช้ามากุ้ยหนิงอันและซีซวนไม่มีใครพูดอะไร ทว่าทั้งสองกลับเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ กว่าจะออกมาและไปถึงที่ทำงานก็เกือบเลยเวลาเข้างาน “อันอัน ฉันต้องกลับบ้านแล้วนะ” ทันทีที่มาถึงที่ทำงานซีซวนเอ่ยกับเพื่อนสนิท “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงรีบกลับ” “เมื่อวานพ่อโทรมาให้กลับไปช่วยงานของครอบครัว แต่ไม่ว่ายังไงเราทั้งสองยังคงเป็นเพื่อนกันเสมอ ฉันจะทิ้งเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ไว้ให้ เธอสามารถเขียนจดหมายหาฉันได้ เมื่อไหร่ที่ฉันว่าง ฉันจะกลับมาเยี่ยมเธอนะ” “แล้วเธอจะลาออกเมื่อไหร่” ต่อให้สงสัยเพียงใดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนสนิท ในใจนั้นภาวนาว่าอย่าให้ซีซวนเจอเหตุการณ์แบบเธอเมื่อคืนเลย “วันนี้ และฉันขอร้อง ไม่ต้องบอกใครที่นี่ว่าฉันลาออก เอกสารสมัครงานฉันใช้ชื่อปลอม” นี่คือความลับ เพราะต้องการหาประสบการณ์และหาเพื่อนแท้ ซีซวนจึงให้คนของพ่อปลอมแปลงเอกสารส่วนตัวให้ ต่อให้เธอหายไป ซีซวนเชื่อว่าคงไม่มีใครหาเธอพบ “ฉันไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แต่ไม่ว่ายังไง อันอันคนนี้ยังเป็นเพื่อนกับเธอเสมอ เมื่อไหร่ที่ฉันกลับบ้านหรือย้ายกลับไปที่บ้าน ฉันจะเขียนจดหมายบอกเธอแล้วกัน” ในขณะที่ทั้งสองคุยกัน จิ้งเจี้ยนซาที่ตื่นขึ้นมาและเห็นรอยบางอย่างบนผ้าปูเตียง ชายหนุ่มรีบวิ่งลงมาด้านล่างเพื่อสอบถามบางอย่าง กุ้ยหนิงอันเห็นจิ้งเจี้ยนซาจึงรีบหลบ “หากคุณชายจิ้งมาถามอะไร เธอไม่รู้ไม่เห็นนะเสี่ยวซวน คิดว่าช่วยฉันได้ไหม” แม้จะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทหมายความว่าเช่นไร ซีซวนได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้มรับเมื่อจิ้งเจี้ยนซามาถึง ส่วนเพื่อนของเธอเดินหลบไปแล้ว “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยหรือไม่ค่ะ” “พอดีผมจะสอบถามว่าเมื่อเช้ามีใครออกมาจากห้องผมหรือเปล่า หรือว่ามีใครเข้าห้องสามหนึ่งสองเมื่อคืนหรือไม่ครับ” “ไม่ทราบว่ามีอะไรของลูกค้าหายหรือเปล่าคะ ฉันจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ และจะสอบถามพนักงานที่อยู่เมื่อคืนด้วย” “ไม่ครับ ไม่มีอะไรหาย ขอบคุณมากครับแต่ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นหรอกนะครับ ผมต้องขอตัวก่อนที่มารบกวน” กล่าวจบจิ้งเจี้ยนซาจึงรีบเดินจากไปทันที เมื่อชายหนุ่มเดินลับตาไปแล้ว กุ้ยหนิงอันจึงออกมาจากที่ซ่อน “เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนใช่ไหมอันอัน” ซีซวนใบหน้าเคร่งขรึมกล่าวกับเพื่อนสนิท ในส่วนของเธอไม่เป็นไรหรอกเพราะเธอสมัครใจช่วยเขาเอง แต่เพื่อนของเธออย่างอันอันเป็นเพียงหญิงสาวจากชนบทต้องมีใครเล่นแง่แน่ ๆ อีกทั้งฐานะอย่างผู้พันจิ้งทั้งหล่อทั้งรวย แถมอนาคตอันใกล้นี้อาจจะได้เป็นท่านนายพล เขาคงไม่บังคับขืนใจเพื่อนสนิทของเธอใช่ไหม “ฉันอยากลาออก และไม่อยากให้ใครตามหาฉันพบ ฉันอยากกลับบ้าน เสี่ยวซวนฉันจะไม่ถามฐานะที่แท้จริงของเธอ แต่เธอช่วยฉันสักครั้งได้ไหม ฉันไม่อยากให้ประวัติของฉันอยู่ในฝ่ายบุคคลต่อหลังจากนี้” เวลาเพียงไม่นานกุ้ยหนิงอันตัดสินใจได้ทันทีว่าเธอควรจะลาออกจากที่นี่และกลับบ้าน เรื่องการแต่งงานในครั้งนั้นน่าจะจบสิ้นแล้ว อย่างน้อยเธอมีประสบการณ์การทำงาน หากจะหางานใหม่ในตำบลที่เธออยู่คงไม่ยากเกินไป “เรื่องนี้ฉันรับปาก แต่ฉันถามได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” เธอเชื่อว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง และเพื่อนของเธอไม่ใช่คนแบบนั้น “อืม แต่ฉันขอตัวไปลาออกก่อน ป้าจิงเป็นคนฝากงานให้ ฉันไม่อยากให้ป้าเดือดร้อนหรือโดนคนตำหนิ” “ได้ เธอรีบไปลาออกก่อนเถอะ ส่วนเรื่องเอกสารฉันจะหาวิธีทำลายให้เธอเอง” “อืม ซวงฟางเอาน้ำผลไม้ให้ฉันดื่มเมื่อคืนในงานเลี้ยง จากนั้นฉันไม่รู้อะไรอีกเลย ตื่นมาก็อยู่กับเขาแล้ว” ความรู้สึกตอนนี้ขัดแย้งกันเล็กน้อย หากผู้พันจิ้งวางแผนนี้จริง ๆ เขาจะตามหาทำไมว่าใครอยู่กับเขาเมื่อคืนนี้ ที่ตัดสินใจพูดเพราะแถวนี้ไม่มีพนักงานคนอื่น จากนั้นกุ้ยหนิงอันจึงเดินไปแผนกฝ่ายบุคคลเพื่อยื่นหนังสือลาออก ซีซวนแววตาวาวโรจน์อย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อรู้ว่ามีคนวางยาเพื่อนสนิทของเธอ จากนั้นจึงยกหูโทรศัพท์ของโรงแรมเพื่อติดต่อใครบางคน หลังจากที่ลาออกแล้วกุ้ยหนิงอันและซีซวนจึงกลับมายังอะพาร์ตเมนต์และแจ้งกับจิงซือว่าจะขอคืนห้อง แม้จิงซือจะตกใจแต่พอฟังเหตุผลว่าจะกลับบ้านเพราะครอบครัวอยากให้อยู่ใกล้บ้าน จิงซือจึงเข้าใจ เธอเองยังอยากให้ลูก ๆ อยู่ใกล้ และครอบครัวของทั้งสองคงคิดเหมือนกัน เธอจึงไม่ห้ามและไม่ถามอะไรอีก ส่วนทางด้านหลันอี้ข่ายเมื่อตื่นขึ้นมาเขาจึงควานหาตัวคนข้างกาย เมื่อไม่เจอใครจึงรีบดีดตัวขึ้นมานั่งเพื่อเรียกสติตนเอง หลังจากทบทวนทุกอย่างแล้ว ในใจคิดว่าการที่หญิงสาวเมื่อคืนหายไป ไม่แน่ว่าอาจจะเรียกร้องเงินเพิ่ม เขาจึงรีบแต่งตัวเพื่อให้คนของตนเองไปสอบถามว่าเมื่อคืนหญิงสาวคนนั้นชื่ออะไร ดูแล้วน่าจะเป็นพนักงานของโรงแรมด้วยเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ ทว่าไม่ว่าจะสืบหาอย่างไรเขาก็ไม่พบหญิงสาวคนนั้นจนถึงวันที่เขาเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD