Chapter 5
ไม่คิดก็บ้าแล้ว! เรียวปากบางเม้มเข้าหากัน อริสาเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะยอมรับหากพ่ออยากแต่งงานใหม่ แต่กับเด็กรุ่นลูกที่อายุน้อยกว่าเธอ เธอคงต้องขอเวลาปรับตัว..
ในความสนิทสนมของสองพ่อลูกที่อยู่ด้วยกันมาตลอด บางคราวก็เป็นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนเสียมากกว่าผู้อยู่ในโอวาท กะพริบตามองกันแค่เสี้ยวนาที อริสาสะบัดหน้าไปอีกทาง เอาลิ้นดันกระพุงแก้มทีหนึ่ง
“พ่ออยากทำอะไรหนูตามใจพ่ออยู่แล้ว แต่ระวังไว้เหอะ ไม่รู้ไม่ชี้ไม่ช่วยนะ บอกเลย”
พิภพแค่นหัวเราะ “นับวันยิ่งบ้านะแกน่ะ พ่อจะไปคิดอะไรกับเด็กรุ่นลูก... ไปกันได้แล้ว รถแกจอดไว้นี่แหละ พรุ่งนี้ค่อยมาเอา”
ประตูรถยนต์ปิดลงอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่ตรงมุมปากงาม อริสานั้นนั่งอยู่ข้างนายสารถีประจำบ้าน แทบอดใจไม่ไหวที่จะเค้นเอาความจริง เธอจึงเฝ้ารอโอกาสยามลอบมองคนทั้งสองผ่านกระจกบานเล็กเหนือศีรษะ
“พายอยากทานอะไร? อาจะได้โทรบอกพ่อครัวให้เตรียมไว้ให้” พิภพก้มหน้าลงบอกหญิงสาวที่ส่งยิ้มหวานตอบ
“พายยังไม่ค่อยหิวเท่าไรค่ะอาภพ ก่อนเข้าเรียนพายทานกับพี่อริสมาหน่อยแล้วค่ะ” ขณิการวบมือประสานไว้บนหน้าตัก ดูเกร็ง ๆ อยู่ไม่น้อย ยิ่งถูกจ้องจนหน้าจะทะลุด้วยสายตาคู่สวยใต้อายไลน์เนอร์คมกริบ
อริสากำลังคิดอยู่ว่าทั้งสองคนรู้จักกันเมื่อไร...
หรือจะเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน...?
หลังจากที่ขณิกากลับมาอยู่โคราชกับบิดา นายตำรวจใหญ่ที่ประจำการอยู่ที่นี่เพราะคดียาเสพติด พลตำรวจเอกปรีชาจึงถือโอกาสพาลูกสาวมาแนะนำให้เจ้าของรีสอร์ตฟาร์มม้ารู้จัก จากนั้นหญิงสาวยี่สิบหกปีผู้มีแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ดุจผ้าขาวสะอาด คงหยอดยาเสน่ห์ใส่นายพิภพตอนไหนไม่รู้ได้
“พ่อ... เมื่อกี้พ่อพูดว่าอะไรนะ? ช่วงนี้สมองหนูเบลอ ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้เลยค่ะ” เสียงราบเรียบถาม ในหน้าตาใสซื่อของบุตรสาวผู้พยายามลอกเลียนกิริยาของหญิงสาวอีกคนในรถยนต์ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ
พิภพละสายตาวูบไหวจากเจ้าของใบหน้าสดสวย มองไปทางคนข้างหน้าอย่างสงสัย “อะไรของลูกน่ะ?”
“หนูถามว่าก่อนที่พ่อจะขึ้นรถมา พ่อพูดอะไรกับหนู? หนูลืม เลยถามพ่ออีกทีไง”
“จอดรถไว้ที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยมาเอา ทำไมแค่นี้จำไม่ได้?” วงหน้าหล่อเหลาเจือแววไม่พอใจ หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบสองไม่มีท่าทีว่าจะยอมอ่อนให้ลูกสาวซึ่งต้องการคำตอบจากเขาเสียให้ได้
“ก่อนหน้านั้น ก่อนหน้าที่พ่อบอกว่าให้จอดรถไว้ที่นี่ พ่อพูดอะไร?”
“ขนาดแกยังจำไม่ได้ ฉันอายุปูนนี้ จะไปจำได้ได้ยังไง”
“พ่อจะพูดหรือจะให้หนูพูด?” ถ้อยคำประกาศิต นัยน์ตาคู่สวยสาดประกายมาดหมายผ่านกระจกบานเล็กทะลุไปข้างหลัง สะท้อนความรู้สึกของสองหนุ่มสาวต่างวัย
เส้นขนานบาง ๆ ที่แค่สะกิดเบา ๆ ก็ขาดสะบั้น
“พ่อจะไป... คิดอะไรกับเด็กรุ่นลูก” สุ้มเสียงแผ่วเบาออกมาจากลำคอ พิภพสะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่งด้วยสีหน้าเข้มขรึม ขณะที่เจ้าของแววตาคู่สวยเอ่อคลอยังคงจับจ้องหนุ่มรุ่นพ่ออย่างไม่ละวาง
“อืม... เห็นพายบอกว่านัดเพื่อนไว้หรือเปล่า? พี่ได้ยินอยู่นะ”
ขณิกาหน้าซีดเผือดไร้เม็ดสี ละล่ำละลักเอ่ย “ออ... พายลืมไปเลย... รบกวนส่งพายข้างหน้านี้นะคะ”
“อาจะส่งพายลงตรงนี้ได้ไง พ่อพายฝากพายไว้กับอา พายไปหาเพื่อนตอนนี้ อาก็เสียคนหมดสิ” พิภพออกตัวทันที ทว่าคงไม่ทัน
“จอดรถ... ลุงเษม”
สารถีประจำบ้านอย่างคุณเกษมเลิ่กลั่กมองหาที่จอดรถยนต์ อย่างไม่รอคำสั่งของเจ้าของบ้านตัวจริง ในเมื่ออำนาจเด็ดขาดในบ้านเป็นของหญิงสาวที่ควบคุมทั้งพนักงานในฟาร์มและคนงานทุกคน ไม่มีใครอยากเห็นอริสาโมโหเป็นแน่
และเมื่อรถยนต์จอดสนิทดี พิภพได้แต่มองสาวรุ่นลูกปิดประตูออกจากรถไปอย่างนึกผูกใจเจ็บ
“พ่อจะกลับบ้านกับหนู หรือจะไปดูลูกคนอื่น?”
“พ่อก็ต้องกลับบ้านกับหนูอยู่แล้ว พ่อมีลูกสาวคนเดียวนี่” ตอบเต็มปากเต็มคำ ต่างคนสบตากันผ่านกระจกด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง พิภพไม่สามารถทรยศภรรยา ผู้ร่ำลาจากโลกใบนี้ไปถึงสิบปี เขาไม่ได้รู้ว่าอริสานั้นมีความคิดอีกอย่าง
ความสุขของพ่อเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งเสมอ เธอไม่อยากให้พ่อต้องแก่ตายไปลำพังพอ ๆ กับที่พ่อไม่อยากให้เธอต้องเผชิญความโดดเดี่ยวเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แค่เจ้าเล่ห์ไปตามประสา...
“ดีค่ะ แต่พ่อต้องลงตรงนี้ เพราะหนูเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า...” เงียบไปครู่ “ไม่ควรปล่อยให้ลูกศิษย์คนสวยเดินร้องไห้กลับบ้านคนเดียว กว่าลุงคนขับน้องพายจะมา สวย ๆ แบบนี้ คงได้ถูกไอ้หื่นที่ไหนฉุดเข้าป่าก่อนล่ะมั้ง”
ไม่ขาดคำดี เจ้าของร่างสูงสะบัดสูทกระโจนกายออกจากรถยนต์รวดเร็วเสียยิ่งกว่าอะไร อริสาได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอ ขนาดว่าลุงเกษมยังอดขำไม่ไหว กับแผนการของนายผู้หญิงประจำฟาร์ม
สายฝนโปรยปรายลงมาในอีกครู่หนึ่งราวกับฟ้าเป็นใจให้คนทั้งคู่ หลังจัดการพ่อสื่อให้ไปจัดการธุระของตัวเอง จะได้ไม่มาวุ่นวายกับเธอช่วงเย็นนี้ อริสาดันนึกถึงชายหนุ่มอีกคน
“ลุงเษม.. ผ่านหน้าคลินิกให้หน่อยนะคะ ฉันว่าจะแวะซื้อขนมให้เจ้าที่รัก มันนอนซมอยู่ที่บ้านไม่ได้มาด้วยวันนี้” บางครั้งเจ้าที่รักจะตามเธอมาสนามปืนด้วย แม้ว่ามันเกลียดเสียงปืนเสียจนต้องนอนปิดหู เรียกเสียงหัวเราะและสายตาเอ็นดูจากผู้คนในสนาม มันจึงได้รับสิทธิพิเศษให้นอนหลบอยู่ด้านนอก
เธอรู้สึกผิดกับมันอีกอย่างหนึ่งจนต้องซื้อขนมให้เป็นการไถ่โทษ เพราะดันอยากให้มันป่วยจะได้ไปหาหมอ!
“คลินิกอยู่ข้างหน้านี่เอง เอ่อ.. แล้วลุงต้องวนกลับไปรับนายหัวไหมครับ? คุณอริส” คุณลุงไม่ค่อยแน่ใจ ทว่าพอสบเข้ากับรอยยิ้มร้ายกาจตรงมุมปาก
“คนรักกันมันต้องตากฝนกอดกันตัวกลมกลางป่าสิลุง โรแมนติกสุด ๆ”
“ลุงว่าฟังดูน่ากลัวมากกว่าโรแมนติกนะ..” สารถีคนดีแค่นหัวเราะ ก่อนขับรถยนต์ต่อไปจนถึงที่หมายในอีกไม่นาน โดยไม่ลืมว่าจะต้องวิ่งตากฝนไปเอาร่มท้ายกระโปรงหลัง ทว่าเขาได้รับความใจดีจากหญิงสาวกว่าทุกวัน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีร่ม.. ลุงรอนี่”
ร่มพับสีน้ำเงินถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า ร่างบางเปิดประตูลงจากรถยนต์ ฝ่าสายฝนที่หยาดหยดลงมากระแทกร่มคันน้อย ดังระรัวไม่ต่างจากเสียงหัวใจสาวในทุกย่างก้าว ขณะที่เธอไม่ลืมว่ามาซื้อขนมสุนัข
กระดูกขัดฟันรสเนื้อ เนื้อไก่ผสมผักโขม ปอร์ปคอร์นแคปหนังวัวลดคราบหินปูน เป็นขนมที่เจ้าที่รักชื่นชอบมากที่สุด ร่างบางตรงไปที่ชั้นวางขนมข้าง ๆ เคาน์เตอร์ หลังเก็บร่มไว้ในชั้นวางร่มข้างหน้าคลินิกเรียบร้อยดี
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองความว่างเปล่า ตวัดตามองไปรอบ ๆ กาย บรรดาสาวน้อยใหญ่ยืนชะเง้อคอมองอะไรสักอย่าง
หา! ขนมหมาหมดเกลี้ยงชั้น แล้วนี่อะไร? ติ่งเกาหลีมายืนรอไอดอลที่สนามบินรึ!
“ขอโทษนะคะ ไม่เหลือขนมเลยสักอันเหรอคะ?” เสียงใสถามดัง ๆ ผ่านชั้นวางของไป เพราะปรกติขนมก็ไม่เคยจะหมด พนักงานคนหนึ่งที่คุ้นเคยกันดีเลยตอบ
“คุณอริสามาช้าไปนิดเดียวเองค่ะ แต่ว่าอาจารย์นิธิเพิ่งโทรสั่งของ คนขับรถส่งของน่าจะติดฝนอยู่” บุษบาส่งยิ้มกว้าง ก่อนหันไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับเพื่อนร่วมงาน แล้วบอกลูกค้าอีกครั้ง
“รอก่อนสิคะคุณอริสา เดี๋ยวก็มาถึงแล้วมั้ง”
“ออ.. ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณบุษ” บอกผ่านหญิงสาววัยสามสิบกว่า ๆ มีเสียงหัวเราะคิกคักของพนักงานสาวที่กำลังนินทาอะไรสักอย่าง อีกคนก็ส่งยิ้มมา
“รอนะคะคุณอริสา รับรองว่าไม่นานค่ะ ขนมที่อื่นแพงกว่าตั้งแยะ ขับรถไปอีกไกลเป็นสิบ ๆ กิโลฯ เลยนะคะ”
“ค่ะ” เธอจำต้องตอบรับคำเซ้าซี้ที่ไม่รู้ว่ามีจะประสงค์แอบแฝงหรือเปล่า
กลวิธีการเรียกลูกค้าของที่นี่นับว่าดีเยี่ยม มีสินค้าน่าสนใจมากมาย พนักงานสาวหน้าตาดี ไม่รวมถึงการจ้างอ้ปป้า บอยแบนด์เกาหลีมาเป็นสัตวแพทย์
“คุณหมอไอเลิฟยูช่วยขายของสินะ อาจารย์นิธิคงรวยแย่...” พึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะเผลอลอบยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
อริสาไม่ได้รู้ตัวจริง ๆ ว่าสายตาคู่คมคู่หนึ่งจับจ้องมายังเธอตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในคลินิก ตามด้วยสายตาริษยาอีกหลายคู่ เมื่อเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีขาวสะอาดกางเกงสแล็คตรงมา
“...หมอฝากให้ที่รักครับ”
ในน้ำเสียงทุ้มนุ่มละมุนหู ขนมในมือหนาถูกยื่นให้หญิงสาวที่รับไปด้วยรอยยิ้มระรื่น กระทั่งว่าแววตาคู่กลมโตมีรอยยิ้มแอบแฝงอยู่ภายใน ไม่รู้ว่ากำลังดีใจอะไรใจแน่
“ขอบคุณนะคะ”
คุณหมอไอศูรย์ชอบแจกขนมลูกค้าไม่ใช่เรื่องแปลก แปลกตรงที่เลิกงานแล้วเขาไม่เดินออกทางข้างหลังคลินิกดันเดินดุ่ม ๆ ไปหาลูกค้าสาวคนสวย หลังจากที่เขาแอบยืนมองเธออยู่ ได้ยินเสียงกระซิบเรียกของคุณเอ๋ เลยรีบไปหาขนมมาให้เจ้าของสุนัข
“อริสา..”
เรียกสั้น ๆ เจ้าของร่างสูงในชุดกาวน์แขนสั้นของนายสัตวแพทย์แค่เปรยยิ้ม เผยให้เห็นรอยบุ๋มบนแก้มทั้งสองข้าง ก่อนหมุนกายจากไป ทิ้งคนข้างหลังไว้กับความรู้สึกแปลกประหลาดที่ยังดังสะท้านสั่นไหวอยู่ในอก