Chapter 4
น.สพ.ไอศูรย์ วัชรภิรมย์
สัตวแพทย์คลินิกอายุรกรรม , ปศุสัตว์และสัตว์ป่า
Doctor of Veterinary xxx University
Tel. XXX
นามบัตรส่วนตัวของสัตวแพทย์หนุ่มถูกเก็บใส่กระเป๋าบนอกเสื้อยืดสีขาวผ้าเบาสบาย หลังจากที่หยิบออกมากวาดตามองซ้ำ ๆ จนแทบจำได้ทุกตัวอักษรบนนั้น ก่อนใส่กลับไปที่เดิม รอบที่เท่าไรไม่รู้ได้
เป็นความหวังดีของคุณเอ๋ ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาว อุตส่าห์แนบเบอร์หมอแถมมาให้กับใบเสร็จ แต่เธอไม่กล้าโทรหรือเพิ่มเบอร์ของเขาลงในโทรศัพท์ เพราะถ้าไลน์มันเด้ง จะตอบว่าอะไร! ส่งสติกเกอร์ทักทายสวัสดีดูจะให้ท่าผู้ชายมากไปไหม?
อริสาไม่เคยเข้าหาใครก่อน ขณะเดียวกัน ความสนอกสนใจของผู้ชายมากหน้าหลายตาที่เป็นฝ่ายเข้ามาทอดสะพาน และก็มักพูดว่าปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาว หน้าสวย นมโต ตัวเล็ก สมสไตล์ลูกคุณหนูจอมหยิ่ง มันดูย้อนแย้งว่าเขาตั้งใจมาจีบ ไม่จีบ หรืออะไรแน่...
คนพูดน้อยต่อยหนักอย่างเธอไม่รู้จะทำตัวยังไง เพราะไม่ได้หยิ่งอย่างใครเข้าใจ บางทีเธอยังรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเอง...
สนามกีฬาในร่มติดแอร์ขนาดกว้างขวางวันนี้มีผู้คนมาใช้บริการประปราย หญิงสาวลอบถอนหายใจ คล้ายจะเลิกล้มความตั้งใจจากกระดาษใบเล็ก ๆ จนประกายความหวังผุดวาบเข้ามาอีกครั้ง
แอดเบอร์ไว้ก่อน... ดีไหมนะ? มีหมอหมาใกล้ตัวสบายใจ...
เอ... หรือว่าไม่ดีกว่า...
ความลังเลใจปรากฏอยู่บนใบหน้าสดสวย เมื่อจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่สะดวกนักกับการสอนอะไรใครในวันนี้ เป็นกิจวัตรประจำทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี ที่เธอจะต้องมาสอนยิงปืนที่นี่
ร่างบางในชุดกางเกงคอมแบทเสื้อยืดสีขาวงานแบรนด์สมฐานะ วางอาวุธในมือลง
“จะกลับแล้วเหรอ? ครูอริส... ยืนเหม่ออะไรจ๊ะ ถ้าไม่มีอารมณ์สอน พี่สอนน้องพายให้ก็ได้นะ”
ชายร่างสูงใหญ่เดินผ่านมาตบบ่าเบา ๆ ให้ต้องเอี้ยวมองตาม “อย่ามาเนียนน่ะ พี่ชิน จะจีบน้องพายล่ะสิ”
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้บางคนเลือกที่จะเรียนกับครูผู้หญิงมากกว่า ด้านความสบายใจ ยังเป็นเพราะฝีมือของคุณครูที่มีชื่อเสียงพอตัว
ด้วยใจรักการยิงปืนมาตั้งแต่อายุสิบแปดปี เป็นนักกีฬาทีมชาติชนะเลิศเหรียญทองประเภทปืนสั้นมาตรฐานแชมป์โลกเยาวชนสองปีซ้อน มีใบอนุญาตเป็นผู้อบรมครบถ้วนตามหลักสูตร
ครูรุ่นพี่ส่วนใหญ่ค่อนข้างเกรงใจที่จะเรียกอริสาว่าน้อง...
“ไม่กล้าครับ พี่แค่แวะมาทักทาย ให้กำลังใจ เผื่อครูอริสจะเหนื่อย”
ชินดนัยยกยิ้มเจ้าเล่ห์มองหญิงสาวหน้าตาสะสวยวัยยี่หกปี ลูกศิษย์คนสวยข้าง ๆ ครูสาวที่สวยไม่แพ้กัน แล้วก็เดินไป อริสาจึงจับด้ามโลหะขึ้นมาใหม่ สาธิตวิธีการโดยไม่ได้ลั่นไกออกมา
“น้องพายสังเกตดูนะ ในแบบที่ไม่มีมือซ้ายประคองช่วยกับมี การสะบัดของข้อมือมันต่างกัน เวลายิงเราควรจับให้มั่นเสียดีกว่าจับมือเดียวให้มันสะบัด แต่ว่าดีแล้วล่ะ วันนี้ยิงปืน.38 ได้เข้าเป้ากลางเกือบทุกนัด”
“แล้วอาทิตย์นี้พายจะได้เปลี่ยนปืนไหมคะ?”
“ได้แน่นอนน้องพาย ชั่วโมงหน้ามาลองปืนแม็กกาซีนคอมแพ็ค 9mm กัน มีตั้งแต่ 3.5 นิ้วถึง 4 นิ้ว น้ำหนักเบาถนัดมือ เหมาะสำหรับผู้หญิงสวย ๆ อย่างเราเชียว” อาวุธในมือถูกวางลงบนโต๊ะเบา ๆ อีกคนก็วางอุปกรณ์การเรียนลงเช่นกัน พอใกล้จบชั่วโมง
ขณิกาได้รับการแนะนำให้รู้จักลูกสาวเจ้าของฟาร์มม้า ครูสอนยิงปืน เป็นการส่วนตัวผ่านทางบิดา พูดคุยกันถูกคอ จึงสนิทกันมากกว่าครู ลูกศิษย์ หากไม่มาเรียนยิงปืนแล้วบางครั้งหล่อนก็แวะไปเที่ยวฟาร์ม
“พายอยากเรียนไว ๆ จัง”
“พี่ก็อยากสอนไว ๆ ค่ะ”
ใบหน้าสดสวยของเด็กรุ่นน้องคลี่ยิ้มละไม ก่อนจะเหลือบตามองหากระดาษใบเล็กซึ่งถูกเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อเมื่อสักครู่ “พี่อริสหยิบนามบัตรใครมาดูอ่ะ? หยิบ ๆ ใส่ ๆ ตั้งหลายรอบ พายไม่ได้อยากยุ่งเลยนะ แค่สงสัย”
“นามบัตรช่างแอร์ ไม่รู้โทรดีไหม กำลังคิดอยู่ว่าแอร์มันเสียหรือไม่เสียกันแน่ สองสามวันมานี้อากาศมันร้อน ๆ นะ...” โกหกหน้าตายในความจริงแฝงอยู่ท้ายประโยค พอนึกถึงยิ้มกระชากวิญญาณสาว แก้มแดงระเรื่อสะบัดไปข้างหน้าเป้ายิง ในสายตาเป็นประกายอยากรู้อยากเห็น
“พายว่าไม่ใช่ช่างแอร์ พี่อริสปิดพายไม่ได้หรอก”
“พี่จะโกหกพายทำไมล่ะ?” เธอพูดหน้าตาเฉย พอใกล้จบชั่วโมง ความสัมพันธ์ครู-ศิษย์ก็เปลี่ยนไป หญิงสาวอายุอ่อนกว่าหรี่ตาเล็กจนเหยียดตรง
“คอยดูนะ... พายจะต้องไปสืบมาให้ได้”
ขณิกาคงจะต้องหาทางสอดรู้เรื่องนี้แน่ ร้อยวันพันปีพี่สาวคนสนิทเคยสนใจใครที่ไหน อยู่ฟาร์มขี่ม้าตรวจงาน ดูแลคนงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่อยู่กับเจ้าที่รักก็มาขลุกอยู่สนามยิงปืน ไม่ต้องพูดถึงวันหยุดที่มีแค่สัปดาห์ละหนึ่งวัน
“ยุ่งจริง จะอยากรู้ไปทำไมก็ไม่รู้”
“แน่นอน.. เรื่องพี่อริสก็เหมือนเรื่องพาย เดี๋ยวพายก็ต้องรู้” คนพูดลอบยิ้มกริ่ม ก้มหน้าลงมองนาฬิกาข้อมือ “งั้นพายกลับก่อนนะ พี่อริส เอ่อ.. วันนี้ อาภพไม่มารับพี่อริสหรือคะ?”
“คงไม่มามั้ง น้องพาย ไว้เจอกัน มีอะไรก็ไลน์มาเนอะ” ตบบ่ามนเบา ๆ แล้วตวัดกระเป๋าสะพายขึ้นพาดบ่า พร้อมความตั้งใจจะประเดิมรถยนต์ใหม่ไปห้างสรรพสินค้าหรือที่ไหนสักแห่ง
รถยนต์ของเธอ พ่อเอาไปถ่ายน้ำมันเครื่องยังทำเรื่องจุกจิกไม่คืนให้สักที ระดับอริสาเลยถอยเบนซ์ป้ายแดงมันเสียเลย ใครมันจะปล่อยให้เข้าทางพ่อชักแม่สื่อ
พอป้าขวัญมาเที่ยวฟาร์ม ทั้งสองคนดูพยายามจับคู่เธอกับเตชินเสียเหลือเกิน
ตั้งแต่รับประทานอาหารที่บ้านร่วมกันทุกมื้อเช้าเย็น ให้ชายหนุ่มพากันไปกินข้าวดูหนัง ซึ่งเธอคงหาเรื่องปฏิเสธได้เพียงอย่างหลัง อย่างแรกนั้นถ้าไม่ติดธุระอะไรจริง ๆ เธอต้องกลับไปรับประทานอาหารที่บ้านอยู่แล้ว
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพยายามหลบหน้าป้าขวัญกับเตชิน พ่อมีเหตุผลของพ่อ เธอก็มีเหตุผลของเธอที่ไม่จำเป็นต้องยอมรับเรื่องนี้
รองเท้าผ้าใบสีขาวเข้ากันกับชุดทะมัดทะแมงก้าวไว ๆ ไปถึงประตูเลื่อนที่เปิดอ้าออกกว้าง ก่อนจะพบเจ้าของร่างสูงในชุดสูทดูหล่อเหลาลงตัวหยุดย่างก้าวลงตรงหน้า ถัดจากเธอมีลูกศิษย์คนสวยเดินตามมาติด ๆ
“พ่อ...?”
ไม่มีคำตอบรับจากผู้เป็นบิดาที่แค่เปรยยิ้ม คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองซ้ายทีขวาที สองหนุ่มสาวต่างวัยสบตากันครู่หนึ่งจึงทักทาย
“สวัสดี หนูพาย”
“สวัสดีค่ะ อาภพ” ยกมือไหว้งามช้อย บนวงหน้าหวานละมุนของขณิกามีรอยยิ้มที่อมไว้ในแก้มตุ่ย
ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กจนเหยียดตรง อริสาคิดว่าพักหลัง ๆ มานี้พ่อไม่ได้ตั้งใจมารับเธอ ยังชอบส่งสายตาหวานหยดย้อยให้เด็กสาวรุ่นลูก
“เรียนเสร็จแล้วหรือเรา ป่านนี้ทำไมท่านนายพลยังไม่มาล่ะ?”
“คุณพ่อติดงานค่ะ เลยให้ลุงนิ่มมารับพายแทน”
“อ้าว.. งั้นพายกลับพร้อมอากับอริสดีไหม ไม่ต้องไปกับลุงคนขับหรอก”
พิภพรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ พลตำรวจเอกปรีชาเป็นอย่างดี สนิทสนมกันมาแต่สมัยเขายังเป็นหนุ่ม ๆ ถึงท่านจะอายุมากกว่าเกือบรอบหนึ่ง ด้วยความที่เขามีลูกเร็วตั้งแต่เรียนจบอายุยี่สิบสามปี มารดาของอริสาก็ตั้งท้อง
ในรอยยิ้มที่แฝงเขี้ยวคมตรงมุมปากพิมพ์เดียวกับลูกสาวคนสวย นายพิภพแม้อายุห้าสิบสองปีก็ดูไม่แก่เลย จนใคร ๆ ว่าเขาออกไปไหนมาไหนกับลูกนึกว่าเป็นผัวเมียควงกันไปด้วยซ้ำ
“พายขอโทรบอกพ่อก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวอาโทรบอกเอง” หนุ่มใหญ่เสนอตัวก็ไม่รอช้า ยกสายขึ้นพูด หัวเราะกับนายตำรวจคนสนิทอยู่สองสามคำ ฝ่ามือหนาผายออกเชื้อเชิญ
“พ่อเราบอกว่าเลิกงานดึก อนุญาตให้พาลูกสาวไปเที่ยวฟาร์มอาได้”
“ขอบคุณค่ะ! อาภพ” ขณิกาดีใจตัวโยน หันไปบอกกับคนข้างกาย “พี่อริส เราจะได้เที่ยวกันแล้ว”
เสียงใสเจื้อยแจ้วยังกับเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ จู่ ๆ ขณิกาก็ถูกคว้ามือเข้าหมับ “ไปเร็ว.. ช้าฟาร์มปิดนะ”
หญิงสาวที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเบิกตากว้างมองสองมือสอดประสานอย่างสนิทชิดเชื้อกันทุกง่ามนิ้วจับจูงกันไป แทบเสียการทรงตัวทั้งที่หิ้วกระเป๋าเบา ๆ อยู่แค่ใบเดียว ก็แน่ล่ะ.. พ่อเธอเคยสนใจผู้หญิงที่ไหน แล้วจับไม้จับมือรุงรังนี่มันอะไร!
“นี่ถ้าแม่เลี้ยงฉันอายุยี่สิบหก ฉันต้องเรียกนางว่าน้องหรือแม่!” เสียงกร้าวผ่านไรฟัน ร่างบางเดินฟึดฟัดตามไปด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี ลางสังหรณ์เธอไม่มีผิดไปแน่...
“พ่อคะ..” เรียกครั้งหนึ่งผ่านประตูรถเมอร์ซิเดสเบนซ์สีดำสนิท ขณะที่คนพ่อดันแย่งหน้าที่สารถีเปิดประตูให้หญิงสาวนั่ง ทำท่าจะก้าวตามในฝั่งเดียวกันข้างหลัง มันควรเป็นที่นั่งของเธอไม่ใช่เรอะ
“พ่อ!”
ใบหน้าหล่อเหลาที่มีริ้วรอยเล็กน้อยหนีวัยไปมากหันหลังมองลูกสาวที่เพิ่งตะคอกใส่เขา ยังยกมือพรวดผลักประตูปิดลงดื้อ ๆ
“เจอสาวน้อยวัยขบเผาะเรียกไม่ได้ยินเลยนะพ่อ...”
ในน้ำเสียงปรกติเป็นเพราะว่าเธอไม่ใช่คนยิ้มเก่งคงดูเหมือนไม่พอใจ พิภพหน้าเข้มเครียดปราม
“อะไรอีกล่ะ? พ่อกำลังเทคแคร์ลูกหลานอีกคน ลูกสาวท่านนายพล มีอะไรเดือดร้อน ท่านเส้นสายใหญ่โต ช่วยฟาร์มเราได้รู้ไหม?”
สายตาแบบนั้นมันโคแก่จ้องเขมือบหญ้าอ่อนชัด ๆ!
“หยุดคิดเลย.. แกน่ะ