Chapter 3

1857 Words
Chapter 3                        ดวงตาคู่กลมโตลืมพรึบมองขนตางอนเป็นแพหนารับจมูกโด่งเป็นสันคม วงหน้าหล่อเหลาลงตัวไม่มีแม้รอยฝ้ากระ ลูกกะตาเธอก็ติดหนึบอยู่กับหน้าคุณหมอหมา!            ขณะที่อีกคนไม่ได้ต่อว่าอะไรกับรอยแดงบนหน้าผาก นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลสวยพร่างพราวสบมองมานิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าเขาอาจนึกโกรธเธออยู่ลึก ๆ หรือว่ากำลังคิดอะไรแน่ อริสาพอตั้งสติได้ในอีกครู่หนึ่ง            “เอ่อ... ขอ.. โทษค่ะ” ตะกุกตะกักตอบ คุณหมอหนุ่มแย้มยิ้มอยู่บนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย            “ไม่เป็นไรครับ”            รอยบุ๋มบนแก้มทั้งสองข้างทำเอาแทบจับไข้ตามหมา หญิงสาวกลอกตาไปมา ยืนตัวเกร็งมือเหงื่อชุ่มบีบขนสีทองอยู่แน่น กลายเป็นว่าสุนัขที่กำลังดิ้นพล่านไม่ต่างจากกามเทพดี ๆ สถานการณ์เป็นใจอะไรขนาดนี้!            “ไงล่ะ? เอ๋บอกแล้วว่าคุณอริสาส้วย สวย หมอจะตะลึง แหม.. ทีเมื่อกี้ทำเมิน เบอร์คุณอริสา เอ๋มีค่ะ เดี๋ยวเอ๋เอาให้หมอไอนะคะ”            ใบหน้าหล่อเหลามองขวับตามเสียงของหล่อนที่ทำความสะอาดอุปกรณ์อยู่ตรงมุมห้อง ขณะโถมน้ำหนักตัวลงกดสุนัข เสียงเข้ม ๆ จึงดังกว่าเสียงของสุนัขที่ร้องครวญครางไม่หยุด            “ขอบคุณสำหรับความหวังดีครับคุณเอ๋ แต่มาช่วยกันจับก่อนดีไหม? ผมกดโกลเด้นอยู่นะ ไม่ใช่ปอมปอม ชิวาว่า”            “ไม่ได้อยากจะไม่ช่วยนะหมอไอ แต่โกลเด้นยังตัวเล็กกว่าหมอตั้งเยอะ เอ๋เตรียมของดีกว่า ยืนจีบกันไปก่อนเถอะ”            แทนที่คุณหมอหนุ่มจะโมโหขาใหญ่ประจำคลินิก กวนประสาทได้ทั้งวัน เขาหันกลับมาทางเจ้าของสุนัข แก้มแดงฉ่ำบอกอาการเก้อเขินหนักกับคำว่า ‘จีบกัน’ ทว่าเธอก็ให้ความร่วมมือสัตวแพทย์เป็นอย่างดี            “มันกัดไหมครับ?”            “ไม่ค่ะ มันแค่ดิ้นกลัว แรงมันเยอะ มันไม่เคยกัดใครค่ะ”            สัตวแพทย์หนุ่มจึงวางใจว่าหมาใจดีอย่างโกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะไม่หันมาแว้งกัดจนต้องมัดปากไว้เหมือนหมาดุตัวอื่น ๆ ซึ่งหมอหมาหมอแมวอาจโดนแว้งกัดได้ก็เคยมีเกิดขึ้นอยู่ เขากดกำสองขาปุกปุยหน้าหลังไว้ด้วยมือแต่ละข้าง มีหญิงสาวโน้มน้ำหนักลงบนช่วงลำคอและช่วงตัวของสุนัข            “ไม่มีอะไรนะ ลูกแม่ คุณหมอมือเบ้า เบา นิดเดียว ไม่เจ็บ ไม่ดิ้นนะลูก” น้ำเสียงอ่อนโยนปลอบ สายตาของเธอจรดอยู่ตรงท่อนแขนเป็นล่ำสันเส้นเลือดปุด! กล้ามเป็นมัด ๆ บอกว่าเขาน่าจะเป็นคนชอบออกกำลังกาย ไม่ก็คงเป็นเพราะสู้แรงหมาทั้งวัน            “โฮ่ง ๆ!”            เจ้าหมาตัวโตทั้งร้องทั้งดิ้น กลัวหมอแปลกหน้าชนิดว่าสู้ตาย! เม็ดเหงื่อขึ้นแซมผ่านไรผมของเธอและเขา อริสาลอบมองคุณหมอครั้งหนึ่ง เห็นจะทนไม่ไหว พายุโทสะลูกหนึ่งจึงฟาดลงกับหมาจอมดื้อ            “ที่รัก.. อยู่นิ่ง ๆ! เดี๋ยวแม่ยิงไส้แตก..” ขู่ตะคอกเบา ๆ ผ่านไรฟันขาว            เจ้าหมาตัวโตเหลือกตามองผวา หยุดดิ้นทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘ปืน’ หรือ ‘ยิง’ มันฉลาดมากพอจดจำคำศัพท์ของมนุษย์ได้เกือบถึงหนึ่งพันคำ จากที่มันเคยติดตามเจ้านายไปทุกที่แม้แต่สนามยิงปืนซึ่งมันไม่ชอบเสียงดัง ๆ อย่างนั้นเลย            “คุณอริสายิงหมา ก็ต้องมาคลินิกหมออยู่ดี อย่าเลยนะครับ” พูดเรื่อยเฉื่อย ตาคมลอบมองเรียวปากอิ่มงามกระจับด้วยลิปสติกสีแดงสดรับเครื่องสำอางอ่อน ๆ เขี้ยวคมตรงมุมปากยามขยับเอ่ยถ้อยคำ            “ฉันแค่ขู่ให้มันนิ่งเฉย ๆ ฉันไม่ได้ขู่มันบ่อย ใครจะไปกล้ายิงลูกสุดที่รักคะ? หมอไอ”            ไม่ใช่เรื่องแปลกกับการเรียกชื่อหมอ เธอเพิ่งรู้สึกมันแปลก เพราะดันเรียกตามผู้ช่วยที่เตรียมของนานกว่าปรกติ กระทั่งหล่อนเดินกลับมาพร้อมวางถาดลงบนโต๊ะ ลูกค้าประจำอย่างอริสารู้จักคุณหมอที่นี่ทุกคนคงต้องถาม            “อาจารย์นิธิไม่มาหรือคะ? คุณเอ๋...”            “อาจารย์ไม่สบายค่ะ แพร่เชื้อหวัดติดกันไปทั้งคลินิก คุณหมอไอศูรย์เลยมาช่วยงานชั่วคราว แต่ว่านะ งานหนักกว่าอาจารย์อยู่อีก เพราะตอนนี้สาว ๆ ไอเลิฟยูกันไปหมด” ท้ายประโยคบอกเจ้าของร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร            “ถ้าหมอไอจะเกิดมาขายาว หล่อล่ำกล้ามโต เบ้าหน้าส่งตรงจากเกาหลีขนาดนี้ ใส่หน้ากากเสียเถอะค่ะ ใส่ชุดหมีซาฟารีเลยยิ่งดี เอ๋ไม่อยากให้เจ้าของหมาหัวใจวายตาย”            “จะให้หมอใส่ชุดหมี หมาได้กัดหมอก่อนแน่ ๆ”            ผู้ช่วยสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนสลับที่กับคุณหมอหนุ่ม            สุนัขพันธุ์ใหญ่ถูกยกหาง จับปรอทวัดไข้เสียบก้น มันคงต้องหดตัวอย่างหวาดกลัวหูหางตก ต่างคนจับสุนัขแน่นมือให้คุณหมอได้ทำงานสะดวก ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวชักชวนสนทนาไปเรื่อยเปื่อย ตามนิสัยหล่อนที่ช่างแซวเสียเหลือเกิน            ด้วยความที่เจอหน้ากันอยู่เป็นประจำ หากลูกค้าคนสวยไม่พาเจ้าที่รักมาฉีดวัคซีน ก็จะมาซื้อขนม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่นี่            “คุณอริสาพาเจ้าที่รักมาคนเดียวตลอดนี่คะ วันนี้มากับหนุ่มล้อ... หล่อ เดินเข้าคลินิกมา พี่เก๋บอกว่าเหมือน หมาก ปริญ สาว ๆ ข้างนอกนี่นั่งมองตาแทบหลุดเลยค่ะ”            อริสาทำหน้าครุ่นคิดอย่างไม่แน่ใจ “ก็ดูดี... มั้งคะ”            “แฟนหรือคะ?” กระซิบถามแววตาเป็นประกาย อาจไม่ใช่คนเดียวที่หูผึ่งรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ            “ไม่ใช่ค่ะ ฉันโสด”             “จริงหรือคะ? อุ๊ย.. พอดีเลย หมอไอก็โสด...” เหมือนว่าจุดประสงค์ของผู้ช่วยสาวจะประสบความสำเร็จ จึงส่งยิ้มให้คุณหมอ และเจ้าของหมาในฝั่งตรงกันข้ามอย่างไม่ต้องสืบความหมายมากมาย            แต่เวลางานก็ต้องเป็นเวลางาน สองหนุ่มสาวเพิกเฉยคำพูดของหล่อน ลิ้นตาของเจ้าที่รักละห้อยมองเข็มขนาดใหญ่ในมือหมอด้วยความหวาดกลัวจับใจ ส่งเสียงดังลั่นขนาดว่ายังไม่ได้ทำอะไร            “คุณเอ๋จับแน่น ๆ ไม่โดนแขนหมา จะเจ็บ...” น้ำเสียงเจือแววข่มขู่ คนที่ช่วยกันจับสุนัขอยู่จึงออกแรงมากกว่าเดิม คุณหมอหนุ่มไม่ได้ใช้เวลามากกับการลงมืออย่างมืออาชีพกดเข็มยาจนสุด ลูบเจ้าขนทองเบา ๆ ปลอบประโลมด้วยคำชมเชย            “เก่งมาก นิดเดียวเองเห็นไหม มดกัดนะ เจ้าที่รัก..” แล้วค่อยเงยหน้าขึ้นบอกเจ้าของสุนัข            “มีไข้สูงอยู่นะ หมอเพิ่งให้ยาลดไข้บรรเทาอาการ ระหว่างรอผลเลือด ถ้าสุนัขตัวร้อนมากกว่านี้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติเช็ดตัวเพื่อระบายความร้อนได้ หมอขอฟังเสียงปอดน้องหน่อยว่าชื้นไหม ถ้าไม่มีก็น่าจะคลายกังวลพวกพยาธิในเม็ดเลือด..”            พยาธิในเม็ดเลือดเป็นโรคน่ากลัวที่คร่าชีวิตของสุนัขมาแล้วนักต่อนัก การกระทำของสัตวแพทย์หนุ่มที่แตะเครื่องฟังลงบนขนสีทองจนผละมือออก ใบหน้าสดสวยสะท้อนความร้อนรนอย่างชัดเจน            “ฉันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ค่ะ ถ้าอาการหนักยังไงฉันจะรีบพาที่รักมา”            “ครับ คลินิกเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าน้องหมาอาการไม่ดีขึ้นก็รีบมา เดี๋ยวได้ผลเลือด ทางคลินิกจะโทรไปแจ้งนะครับ” พอคุณหมอตอบ ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม            “รีสอร์ตของคุณอริสาอยู่ตรงนี้เองค่ะ พี่บุษกับเอ๋เคยไปนอนตั้งแคมป์ดูนกชมม้า ดูแกะเพลิน วิวสวยมาก ๆ คุณอริสาให้โวเช่อดินเน่อร้านอาหารแถมมาด้วย คนอะไร สวย ใจดี แถมโสด..”            “ไว้จะไปเที่ยวแน่ ๆ ครับ” ในคำพูดมีนัยเขาแค่รักษามารยาท หญิงสาวกำลังเป็นห่วงเจ้าสุนัขหน้าซีดเซียวไปถนัดตา ไม่ได้ใส่ใจมากนัก            “ค่ะ.. ยินดีต้อนรับล่วงหน้าค่ะ ขอบคุณ คุณเอ๋ คุณหมอมาก ๆ” ความเป็นผู้น้อยกว่าเธอเป็นฝ่ายยกมือไหว้ลา โน้มตัวลงอุ้มหมาตัวโตออกจากห้องไป            ดวงตาคู่หวานคมมองตามแผ่นหลังบางด้วยความรู้สึกมากมายหลายอย่างโดยเจ้าตัวคงไม่รู้ หญิงสาวในชุดสีเขียวข้างกันขมวดคิ้วมุ่นมองหมอ            “เอ๊ะ... ปรกติหมอไอใส่หน้ากากอนามัยทำงานตลอดนี่คะ?”            คุณหมอหนุ่มเปรยยิ้ม ก้มหน้าลงหาผู้ช่วยสาวด้วยความสูงชะลูดของตัวเขา ส่ายหน้าไปมาและก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่หมุนตัวเดินกลับไปทำงานอย่างอารมณ์ดี            ทางด้านหญิงสาว สุนัขตัวโปรดผู้เป็นดั่งดวงใจตามชื่อของมันคือ ‘สุดที่รัก’ พาดวงตาคู่สวยหม่นทอดมองใบหน้าอิดโรยของมัน            เตชินนั่งรออยู่พักใหญ่ ๆ พบหญิงสาวผู้หอบความหยิ่งผยองมาตลอดทาง หอบหมาตัวโตออกมาจากห้องตรวจด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงเดินไปหา ขนาดว่าเขาไม่ใช่คนรักสัตว์ยังอดห่วงไม่ไหว            “เป็นไงบ้าง?”            “ไม่ใช่ธุระของคุณ” เจ้าของสุนัขชักสีหน้าใส่ แล้วก็ถูกต่อว่า            “มาด้วยกันจะไม่ใช่ได้ไง โต ๆ กันแล้วหัดแยกแยะหน่อย ผมไม่ได้อยากมาดูแลคุณนักหรอก มาให้ผมอุ้มมันก่อน จะได้รับยากลับบ้านสักที เสียเวลา” เบ้ปากว่า ชักเริ่มรำคาญแม่คุณสวยรวยมาก เรื่องมากชะมัด! เตชินกำลังคิดอยู่ว่าหากเธอนิสัยดีกว่านี้ให้มันเข้ากับหน้าตาสะสวยคงดี            หญิงสาวหน้าตาบึ้งตึง ขี้เกียจอ้าปากเถียงกับเขาต่อ จึงยอมให้ลูกรักในอ้อมแขนถูกอุ้มไป ไปนั่งรอชำระเงิน ตาชำเลืองมองเจ้าที่รักซบหน้าลงบนตักชายหนุ่ม ไม่ว่ามันจะจงรักภักดีต่อเธอแค่ไหน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่เป็นมิตรกับทุกคน ตลอดหนึ่งปีหนึ่งเดือนที่เธออยู่กับมันมา เจ้าที่รักร่างกายแข็งแรง ซุกซนตามลักษณะนิสัยสายพันธุ์ของมัน มันป่วยแทบนับครั้งได้ ความเศร้าหมองจึงกอบกุมจิตใจ ไม่ต่างจากผู้คนทั้งหลายที่นั่งอยู่ เจ้าของสุนัขทุกคนจมอยู่กับความหวาดกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไป            เสียงถอนหายใจจึงหลุดออกจากริมฝีปากคู่งามมากกว่าหนึ่งครั้ง หากทว่าพอรับยาเรียบร้อยทางช่องชำระเงิน            “คุณอริสา... คุณเอ๋เธอฝากของมาให้ อยู่ข้างในนะคะ” พนักงานสาวอายุประมาณสามสิบได้ ส่งใบเสร็จให้เธอด้วยรอยยิ้ม            นัยน์ตาคู่สลดสวยฉายแวววูบวาบทันทีที่เปิดถุงกระดาษใส่ยา สังเกตเห็นกระดาษแข็งใบเล็ก ๆ มีตัวหนังสือชัดเจน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD