ไม่เพียงแต่ซิ้วเหลียนเท่านั้นที่มองชายที่เธอรักทั้งน้ำตา แต่เหอว่านเซียงเองยังมองสามีด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกด้วยเช่นกัน
ซิ้วเหลียนตกใจกับท่าทางของเมิ่งเทียนสิง เธอไม่คิดว่าเขาจะรักภรรยามากเช่นนี้
“ฉันขอโทษที่โกหก แต่ฉันรักพี่ด้วยใจจริง ฉันไม่อยากแยกจากพี่นะ พี่เทียนสิง” เธอเดินเข้ามากอดเอวเขาไม่ปล่อย ตอนนี้เธอไม่เหลือความอายใด ๆ อีกแล้ว หากต้องแยกจากพี่เทียนสิงเธอคงอยู่ไม่ได้
เมิ่งเทียนสิงปรายตามองซิ้วเหลียนและพยายามแกะมือเธอออกจากเอว เมื่อสลัดหญิงสาวพ้นตัว ชายหนุ่มจึงเดินเข้าหาภรรยาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหอว่านเซียงไม่ยอมที่จะให้โดนตัวเธออีก
“เราหย่ากันดีที่สุดแล้ว คุณเองจะได้อยู่กับซิ้วเหลียน สะใภ้แห่งตระกูลเมิ่งคงไม่ใช่ฉันอีกต่อไป พอกันที”
“ผมไม่หย่า ต่อให้ผมจะมีใครกี่คน ในเมื่อคนที่ผมรักก็มีแต่คุณคนเดียว” เมิ่งเทียนสิงตวาดกลับ วันนี้ภรรยาที่แสนเรียบร้อยเกิดบ้าอะไรขึ้นมาขอหย่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ได้ค่ะ คุณไม่หย่าเองนะ ฉันเตือนคุณแล้ว คุณจะว่าฉันแล้งน้ำใจไม่ได้”
เหอว่านเซียงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของลูกน้อยเพื่อวางแผนจัดการฟ้องหย่าสามีตัวดี แล้วหอบเอาทรัพย์สินไปอยู่กับลูกเพียงสองคน
หลังจากที่ภรรยาเดินจากไป ชายหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวที่เขามีความสัมพันธ์ด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่ ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องการให้ว่านเซียงรู้เรื่องของเรา ในเมื่อคุณผิดข้อตกลง เรื่องของเราคงต้องจบลง”
เมิ่งเทียนสิงพูดอย่างเย็นชา ก่อนจะปรายตามองน้องสาวตัวดีด้วยความโกรธ การที่ซิ้วเหลียนมาวันนี้ย่อมต้องได้แรงยุมาจากน้องสาวเขาเป็นแน่ ในเมื่อก่อนหน้านี้ซิ้วเหลียนไม่เคยสร้างความรำคาญให้เขาเลยสักครั้ง เธอเชื่อฟังเขาเสมอมา
เขายอมรับว่าสาเหตุที่นอกใจภรรยามาหลายครั้งหลังจากแต่งงานเพราะเรื่องบนเตียงของเธอช่างจืดชืดสิ้นดี ซึ่งแตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย ยิ่งกับซิ้วเหลียน ต่อให้เธอจะเรียบร้อยและอ่อนโยน แต่เรื่องบนเตียงเธอตอบสนองเขาได้ดี หากเหอว่านเซียงภรรยาเขาตอบสนองเขาได้ดีเช่นนี้ คิดเหรอว่าเขาจะยอมนอกใจ ในเมื่อคนที่เขารักคือเธอ
“ไม่นะพี่เทียนสิง ฉันขอโทษ พี่อย่าขอเลิกฉันเลย ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะอยู่ในที่ของตนเอง และจะไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้พี่และภรรยาพี่อีก ขอแค่พี่ไปหาฉันเหมือนเดิมก็พอ นะพี่นะ ฉันขาดพี่ไม่ได้ ฉันรักพี่เพียงคนเดียว”
ซิ้วเหลียนใช้น้ำเย็นเข้าใส่ เธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ชอบความอ่อนโยน และต้องการให้เธอโอนอ่อนตามเขา อีกทั้งเขายังต้องการเป็นผู้นำในทุกเรื่อง หากเธอยังดึงดัง เธอมีแต่พังกับพัง
เมิ่งเทียนสิงครุ่นคิด ใจเขาตอนนี้เริ่มโอนอ่อนตามซิ้วเหลียน แต่กลับได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้นมา
แปะ แปะ แปะ คุณชายเหอหรือเหอโจวเว่ยเดินปรบมือเข้ามาพร้อมกับหวงเหยียนหลงและลูกน้องจำนวนหนึ่ง แต่พอมาถึงตรงหน้าของเมิ่งเทียนสิง เขากลับซัดหมัดเข้าที่หน้าของชายหนุ่มอย่างแรง ผลัวะ!
“นายเห็นตระกูลเหอเป็นอะไร ถึงได้กล้าเหยียบย้ำหัวใจของน้องสาวฉันเช่นนี้ นี่ถึงขนาดกล้าพาชู้รักเข้ามาที่บ้านเลยเหรอ”
“ว้าย! พี่เทียนสิง พี่เป็นอย่างไรบ้าง” ซิ้วเหลียนถลาเข้ามาประคองคนรักด้วยความตกใจ แม้แต่เมิ่งจื่อถังยังเข้ามาดูพี่ชายด้วยเช่นกัน
“นายเป็นบ้าอะไร กล้าเข้ามาทำร้ายผู้พันถึงในบ้าน...คุณหวง” เมิ่งจื่อถังหันมาตวาด แต่พอเห็นว่ามีชายอีกคนที่มีชื่อในสังคม จึงหุบปากตนเองทันที
“กล้าหรือไม่ก็ทำไปแล้ว ในเมื่อเซียงเซียงแต่งเข้ามาในตระกูลเมิ่งแล้วโดนทำร้ายน้ำใจ ฉันก็พร้อมที่จะพาน้องสาวและหลานตัวน้อยกลับตระกูลเหอ ถ้ามีใครกล้าคัดค้านเราจะได้เห็นดีกัน!”
เหอโจวเว่ยประกาศเสียงดัง ในเมื่อเขามีโอกาสที่จะพาน้องสาวและหลานสาวกลับบ้าน ทำไมเขาจะไม่ทำล่ะ
“ไม่ นายไม่มีสิทธิ์ที่จะพาลูกและเมียของฉันไป ถ้านายกล้า นายจะรู้ว่าผู้พันเมิ่งคนนี้ทำอะไรได้บ้าง”
เมิ่งเทียนสิงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาไม่สนใจแล้วว่าคนตรงหน้าจะเป็นใคร ในเมื่อกล้าพรากลูกพรากเมียเขาไป เขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“ระหว่างนายกับฉัน เรามาดูกันว่าใครจะแน่กว่ากัน ตอนแต่งงานแม้ฉันจะไม่ยินยอม แต่เพราะฉันและครอบครัวรักเซียงเซียงจึงยอมตามใจ ต่อให้เซียงเซียงจะตัดขาดกับพวกเรา แต่ฉันและตระกูลเหอก็คอยติดตามข่าวของเธอมาตลอด ในเมื่อนายดูแลเมียและลูกไม่ได้ ฉันซึ่งเป็นพี่ชายของเซียงเซียงก็พร้อมที่จะพาเธอกลับตระกูล!”
พูดจบเหอโจวเว่ยพยักหน้าให้ลูกน้องบุกเข้าไปในบ้านเพื่อพาน้องสาวและหลานสาวกลับตระกูลเหอ ต่อให้วันนี้ต้องมีเรื่อง เขาก็พร้อมที่จะท้าชนกับน้องเขยตัวดีอย่างผู้พันเมิ่ง
ความโกลาหลจึงเกิดขึ้นกับตระกูลเมิ่ง เมื่อเหอเว่ยโจว หวงเหยียนหลงพาคนบุกเข้ามาในตัวคฤหาสน์ และส่งเสียงเรียกเหอว่านเซียงเสียงดังลั่น
“เซียงเซียง พี่มาพาน้องกับหลิงหลิงกลับบ้าน น้องอยู่ที่ไหน”
“คุณหนูเหอ พาหลิงหลิงลงมาเถอะครับ น้าเห้อคุณให้อาโจวและผมมารับคุณหนูเหอกับหลิงหลิงกลับบ้าน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
แม้ไม่อยากออกหน้าเท่าไร เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว แต่สภาพที่เขาเห็นตอนเดินเข้ามา ไม่สู้ให้เพื่อนสนิทพาน้องและหลานสาวกลับไปอยู่ที่ตระกูลเหอก่อนดีกว่า
หากอยู่ที่นี่ต่อไปแม้ว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้อง ยังอดสงสารคุณหนูเหอไม่ได้ อยู่ไปก็มีแต่ความช้ำใจเปล่า ๆ
ในห้องนอนของหลิงหลิง เหอว่านเซียงได้ยินเสียงพี่ชายและเพื่อนพี่ชายส่งเสียงเรียก เธอกำลังหาวิธีจะไปจากที่นี่อยู่พอดี ในเมื่อพี่ชายมาแล้วเธอจึงยิ้มกว้าง และส่งเสียงเรียกหม่าซือให้ไปดูมู่ตานว่าเก็บของเสร็จ
หรือยัง
“ป้าหม่า ไปดูเสี่ยวตานหน่อยว่าเก็บของเสร็จหรือยัง”
ก่อนหน้านี้เธอให้หม่าซือและมู่ตานเก็บพวกเงินและทรัพย์สินไว้ก่อนแล้ว รวมถึงเอกสารสิทธิที่ดินต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ในเมื่อเธอไม่ต้องการกลับมาที่นี่อีก ก็สมควรที่จะเก็บกลับไปให้หมด เพราะทรัพย์สินพวกนี้คือสินเดิมที่เธอติดตัวมา ตามกฎหมายย่อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินสมรส
หม่าซือยิ้มกว้างเมื่อคุณชายใหญ่ตามมาด้วยในวันนี้ เธอและคุณหนูเพิ่งจะปรึกษากันว่าจะหาเหตุผลอะไรเพื่อไปจากบ้านหลังนี้พอดี ไม่คิดว่าคุณชายจะมาช่วยได้ทันเวลา
จากนั้นจึงรีบเดินไปดูมู่ตานที่ห้องของคุณหนูทันที เมื่อมาถึงมู่ตานเก็บของเสร็จหมดแล้ว
เหอว่านเซียงเห็นคนสนิททั้งสองคนกลับมาพร้อมกับของในมือจึงเอ่ยถาม “เก็บของหมดแล้วใช่ไหม”
“หมดแล้วค่ะคุณหนู”
“เสี่ยวตาน เฝ้าของทั้งหมดไว้ ป้าหม่าเดินตามฉันลงไปด้านล่าง พี่ใหญ่จะพาคนมาด้วย จะได้ให้มาช่วยเสี่ยวตานขนของลงไป”
เหอว่านเซียงสั่งการ ก่อนจะกะพริบตาสองสามครั้งเพื่อให้น้ำตาซึมออกมา ยิ่งพอคิดว่าจะต้องไปจากบ้านหลังนี้ อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอัตโนมัติ เธอจึงคิดว่าคงเป็นความรู้สึกลึก ๆ ที่ห่วงหาและยังรักสามีของร่างนี้
‘เธออาจจะยังรักผู้พันเมิ่งนะว่านเซียง แต่สำหรับฉัน ฉันไม่มีความผูกพันหรือรักสามีคนนี้ของเธอ ดังนั้นฉันจึงต้องการไปจากที่นี่เพื่อเริ่มต้นใหม่กับหลิงหลิงตัวน้อย ฉันสัญญาว่าจะรักหลิงหลิงและดูแลเธอเป็นอย่างดี เธอไปอย่างหมดห่วงเถอะนะ’
เหอว่านเซียงพูดในใจกับเจ้าของร่าง เพื่อบอกให้รู้ว่าทางเดินของเธอและเหอว่านเซียงคนเก่านั้นแตกต่างกัน แต่เรื่องลูกไม่ต้องเป็นห่วง อย่างไรเธอก็จะดูแลไม่ต่างจากที่เหอว่านเซียงคนก่อนดูแล เพราะหลิงหลิงไม่ต่างจากลูกของเธอเหมือนกัน