4 เด็กอวดดี

1086 Words
4 เด็กอวดดี “มึงคงอยากแก้แค้น” ปฏิพัทธ์ขบกรามแน่น มือเกร็งกำแก้วเหล้าจนมองเห็นเส้นเลือดดันผิวหนัง “ผมจะทำอะไรได้” “ได้สิวะ ถ้ามึงกล้าแลก” “ชีวิตนี้ผมคงไม่มีให้หวงแหนแล้วนอกจากทราย” “ทราย” “น้องสาวของผม” “งั้นมาทำงานกับกู แต่มึงต้องพิสูจน์ตัวเองหน่อย กูมีโครงการใหม่อยากให้มึงไปดูแล” คมคายสรุป ตบไหล่อีกฝ่ายหนักๆ รู้ว่ามันเข้าใจความหมายนั่น เขาเบนสายตาไปยังคนสนิทที่นั่งดื่มเงียบเชียบ อีกฝ่ายรู้ว่าต้องจัดการอะไรบ้าง “พรุ่งนี้ฉันจะเข้าบริษัท” หมดเวลาสำหรับความสนุกสนานแล้ว รัฐกรนำแก้วอีกใบมารินให้ผู้เป็นเจ้านาย เขาเห็นว่าสายตาเย็นชาคู่นั้นมองไปยังตึกหลังงามทางตะวันออก ที่นั่นเป็นศูนย์บัญชาการของพวกการ์ด ใต้ตึกหลังนั้นคือห้องเชือด ห้องที่คมคายใช้มันทุกวันตลอดหนึ่งเดือนมานี้ “มีอีกเรื่องที่อยากให้นายจัดการ” “อะไรนะคะ...” เธอแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเองที่ถามออกไป ในจิตใจตอนนี้ถูกบีบจากมือที่มองไม่เห็นจนหายไม่ออก “หนูลิจะได้ใช้ชีวิตในแบบเพื่อนวัยเดียวกัน ไม่ดีหรือ” “อยู่ที่นี่ลิก็ใช้ชีวิตแบบนั้นได้นี่คะ” รัฐกรคลี่ยิ้มอบอุ่นอย่างที่เคยยิ้มให้เธอมาตลอดสิบเก้าปี เขาหวังดีและเอ็นดูเธอมาตลอด เธอเข้าใจความหมายของเขา ทว่า คมคายต้องการให้เธอออกไปจากบ้านหลังนี้ คำถามคือ ทำไม... เมื่อคืนเขาทำหยาบคายกับเธอแบบไม่มีที่มาที่ไป วันต่อมากลับให้คนสนิทมาบอกให้เธอออกจากบ้าน “น้าจะดูคอนโดใกล้ๆ ม.ให้ เรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องเป็นห่วง คุณคาร์ลจะดูแลทั้งหมดเอง รวมถึงค่าขนมของหนูลิในแต่ละเดือนด้วย” มัลลิกากานต์จะทำอะไรได้ ในเมื่อเธอเป็นเพียงผู้อาศัยในบ้านหลังนี้เท่านั้น เธออาจจะเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดของแม่เขา ไม่ใช่ตัวเขา จู่ๆ ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่ควรมีก็ประเดประดังเข้าหา คมคายไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองกับเธอสักบาทเดียว “ไม่เป็นไรค่ะน้ากร คุณผู้หญิงท่านเคยยกคอนโดให้ลิห้องหนึ่ง ลิเองก็พอมีเงินติดตัว” อาจจะไม่มากมายแต่มากพอให้เธอเรียนจบแน่นอน “ช่วยเรียนคุณคาร์ลด้วยนะคะว่าไม่ต้องจ่ายอะไรให้ลิทั้งนั้น” “หนูลิ” สีหน้าลำบากใจของเขาทำให้เธอต้องฝืนยิ้ม “สักวันลิก็ต้องไปอยู่แล้วนี่คะ วันหนึ่งเจ้านายของน้ากรต้องมีครอบครัว แล้วลิก็ไม่ใช่ญาติพี่น้องของคุณคาร์ล มันคงแปลกๆ ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร” ใคร... บอกไม่ให้เธอกลัว ใคร... บอกจะดูแลปกป้อง ไม่ทันไรก็ออกปากไล่กันแล้ว ท้ายที่สุด เป็นเขาเสียเองที่ทำร้ายจิตใจกัน เมื่อคมคายอยากให้ไป เธอจะไป! “อวดดี!” ซองกระดาษถูกโยนลงบนโต๊ะตรงหน้า แรงกระแทกทำให้ปากซองเปิด ธนบัตรปึกหนึ่งโผล่ออกมา มัลลิกากานต์เม้มปาก รวบมือกอดอก บังคับใจไม่ให้เต้นหนักหน่วงเกินไป เขาไม่เคยมาหาเธอสักครั้ง ทุกเดือนจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ สามเดือนที่ออกมาอยู่คอนโด เท่ากับจำนวนเงินในซองสามแสนบาท “ลิแค่ฝากเงินไปคืนคุณ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้นำไปคืนด้วยตัวเอง” เขามึนตึงใส่ เธอจะกล้านัดเข้าไปหาได้ยังไง เงินที่ว่าจึงถูกฝากไปกับรัฐกรตอนที่เขามาหาเธอเมื่อเช้า “มัลลิกากานต์” คมคายมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างหงุดหงิด “อย่าทำตัวมีปัญหา” เขาฉุนตั้งแต่รัฐกรเอาเงินมาให้จนต้องบุกมาถึงคอนโดของเธอ “คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายให้ลินี่คะ เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน ลิก็ไม่ได้ทำงานให้คุณด้วย” “ที่เธอทำอยู่นี่เขาเรียกว่าเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า” “คุณคาร์ล! ลิไม่...” “ไม่อะไร ไม่ได้ทำแบบนั้นหรือไม่ปฏิเสธ อ้อ ฉันว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า เธอเคยดูแลพ่อแม่ฉันมาหลายปี เงินแค่นี้ไม่กระเทือนฉันหรอก หรืออยากได้มากกว่านี้” “ลิไม่เคยอยากได้เงินของใคร” “ไม่อยากได้เงิน แล้วอยากได้อะไร” คมคายขยับเข้าหา กดเสียงต่ำถามในอาการคุกคาม “หรืออยากได้ฉัน” “คุณ!” พวงแก้มใสแดงก่ำ ปากอิ่มถูกกัดเม้ม มองแล้วชวนหงุดหงิด เขาเดินเข้าหา เธอถอยหลังออกห่าง ก้าวต่อก้าว “หลงตัวเองที่สุด ทำไมลิต้องอยากได้ผู้ชายสำส่อนแบบคุณด้วย สามเดือนมานี้เปลี่ยนผู้หญิงเป็นร้อยคนแล้วมั้ง” “ฟังเหมือนเธอติดตามความเคลื่อนไหวของฉันทุกฝีก้าวเลยนะ” “อย่ามาล้อเล่นกับลิค่ะ” “เด็กน้อย” คราวนี้ขยับตัวเร็ว สามารถยึดต้นแขนเล็กได้ ใช้มืออีกข้างพวงแก้มแดง ขณะที่สาวน้อยยืนตัวแข็งทื่อทันตา “เธอเล่นไม่เนียน” คมคายหัวเราะลอดลำคอ แววตาพราวพรายรู้ทัน “ฉันรู้เธอชอบฉัน ชอบมาตั้งแต่นมยังไม่ตั้งเต้าเลยมั้ง แล้วก็เพราะแบบนั้น ฉันเลยให้เธอออกมาอยู่ข้างนอก” “คุณเข้าใจผิดแล้ว” เสียงแก้ต่างเบาไม่ต่างกระซิบ แววตาคู่งามสั่นไหว เขาจุปาก กดนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่มด้านล่าง ลูบคลึงเล่น “เสียดาย ฉันไม่ค่อยชอบเด็ก” กระซิบเสียงขรึม ผลักร่างนุ่มออกห่าง ทำให้มัลลิกากานต์เสียหลักลงไปนั่งบนโซฟา ดวงตาที่มองสบมาแดงเรื่อ คมคายมองตอบพลางเอ่ยเสียงเคร่งเข้ม “อย่าริมาอวดดีกับฉันมะลิ ฉันให้เงินเธอเป็นค่าตอบแทนที่ดูแลพ่อแม่ฉันอย่างดี สิ่งที่เธอควรทำคือขอบคุณฉันแล้วใช้มันซะ อย่าดื้อแพ่งทำตัวหยิ่งไม่เข้าเรื่อง ถ้าเธอยังกล้าฝากเงินมาคืนฉันอีก ฉันจะให้รถสิบล้อสองคันขนเงินสดมาเทให้ท่วมห้องเธอ รึถ้าใจกล้าพอปิดบัญชี ฉันจะส่งมาสามคันรถ” “คุณบ้าอำนาจ” “เปล่า” เขาเมินหนี เลือกหยิบบุหรี่ขึ้นมาสอดใส่ปาก ไม่มองสีหน้าเจ็บปวดของเธออีก ทิ้งท้ายก่อนจะออกจากห้องว่า “ฉันแค่ไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร” เขามันใจร้าย! ใจร้ายที่สุด! มัลลิกากานต์น้ำตาร่วงพรู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD