3 เพราะความเมาใช่ไหม

1548 Words
3 เพราะความเมาใช่ไหม “ดึกแล้วทำไมไม่นอน” มัลลิกากานต์ได้กลิ่นเหล้าฉุนกึกรุนแรงจนย่นจมูก คนถามเหมือนไม่ใส่ใจจะเอาคำตอบ กายสูงของหนุ่มลูกเสี้ยวอเมริกันบราซิลพลิกตัวเดินไปยังบันไดขึ้นชั้นสาม เธอนิ่วหน้า ก้าวตามไปห่างๆ อย่างอดไม่ได้ หลงลืมสังเกตตัวเองว่าสวมเพียงชุดนอนน่ารักเนื้อบางเบา เธอไม่เคยเห็นคมคายเมา คะเนจากกลิ่นเหล้าหึ่งจัดแล้ว คาดว่าดื่มมาไม่น้อย เธอกลัวเขาพลัดตกบันได รัฐกรไม่รู้หายหน้าไปไหนอีกคน ขึ้นบันไดไปไม่กี่ขั้น คมคายเหมือนรู้ว่าเธอเดินตาม เขาชะงัก หันมาหา “มีอะไร” เสียงห้วน ห้าว ห่างเหินทำเธอหน้าเสีย สะอึกอึ้งในอกจนอึดอัด กัดเม้มปาก “คะ คุณ...เมาหรือเปล่า” เขากลับกระตุกยิ้มแบบที่เธอรู้สึกว่ามันดูหยันพิกล ก่อนจะได้พูดอะไรก็ต้องตกใจจนเกือบหวีดร้อง จู่ๆ เขากลับลงบันไดมารวดเร็ว ท่าที...คุกคาม เธอล่าถอยได้ครึ่งก้าว เอวถูกฝ่ามืออีกข้างที่ตะปบคว้า ดึงตัวขึ้นมาเบียดผนัง กระแทกฝ่ามือใหญ่อีกข้างค้ำยันผนังเฉียดเส้นผมจนรู้สึกได้ ทำให้เธอตาเบิกกว้าง เบียดตัวเข้าแนบผนัง ร่ำๆ จะฝังกายเป็นเนื้อเดียวกับมัน “คุณคาร์ล!” ยกสองมือขึ้นมาดันอกกว้างทันที ใจเต้นรัวระทึก หน้าคมสันครึ้มเคราก้มลงมาใกล้ ลมหายใจกรุ่นร้อนคละเคล้ากลิ่นเหล้าพ่นรดดวงหน้าชวนใจผวา “อะ อะไร...คะ” เขาจะทำอะไร เธออายุยังน้อยแต่ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่า ท่าทางแบบนี้ส่อแววระรานด้านไหน เขาจ้องหน้าเธอ ตาคมคู่นั้นหลุบลงมองปาก “อะไรดี...” มัลลิกากานต์อ้าปากเผยอ ขืนตัวเต็มที่ สัญญาณอันตรายแผ่ออกมาจากผู้ชายตรงหน้า ตลอดเวลาหนึ่งเดือนมานี้เธอเห็นเขาห่างๆ เท่านั้น เขาเป็นอะไรไป ร่างกายสูงใหญ่เบียดเข้ามาเบียดชิด เธอรับรู้ถึงความเปลี่ยนไป ร่างกายที่เคยผอมเพรียวของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งแน่นตึงไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่ว่าเธอขืนตัวไปทางไหนก็ไม่สามารถหนีการเกาะกุมกักขัง พานให้หัวใจเต้นระส่ำ “ปละ ปล่อยลิ อื้อ!” สุ้มเสียงใสสั่นพลันเงียบหายเมื่อริมฝีปากหนาโฉบเข้าประกบจูบ บดเบียดเรียกร้อง แบบที่ทำให้หัวใจเธอลั่นโครมคราม แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก ฟันคมกดลงบนกลีบปากล่าง เขากัดเธอแรง เขาเมาแน่ๆ เธอขืนตัวเต็มแรง คมคายละมือที่ค้ำยันผนัง สอดแขนกอดรัดตัวเธอไว้ ขณะที่จูบหนักเน้น บดขยี้และดูดดึงกลีบปากนุ่มหนักหน่วงสลับขบกัดราวกำราบ เธอเจ็บ ร้าว สยิววาบ หวามในอก ตัวสั่น แข้งขาสั่นกับการถูกสูบลมหายใจออกจากร่าง ก่อนที่ขาจะอ่อนแรงจนทรุด ตัวเธอถูกท่อนแข็งแข็งแกร่งรวบรัดสะโพก...ยกอุ้ม แผ่นหลังรูดผนัง ขณะที่ปากยังถูกจูบดุเดือดจนหายใจหายคอไม่ทัน “อื้อ!” รสกำซาบซ่านที่มาพร้อมกับรสชาติขมปร่าดีกรีชวนมึนเมา มัลลิกากานต์หลับตาปี๋ ร่างกายร้อนวูบวาบตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า ซ่านหวิว ช็อตชา สองมือพยายามผลักดันลำไหล่แข็งแกร่ง ขณะที่หน้าคมสันครึ้มเคราปราดเข้าซุกไซ้ซอกคอ จูบไซ้ ดูดเม้ม ขบขย้ำผิวแรง เธอสะดุ้งสะท้าน “อย่า” คมคายหาได้สนใจเสียงสั่นๆ นั้นไม่ จูบรุกไล่ระรานลงหาทรวงอก เนื้อที่ไร้การห่มคลุมของเสื้อชั้นใน เพราะเวลานอนเธอไม่ชอบสวมพวกมัน ปากอุ่นชื้นที่ตรงเข้าครอบกลืนจึงได้สัมผัสเนื้อแท้ เขากัดย้ำ ดูดดุนทั้งซ้ายขวาราวกับว่ามันเป็นร่างกายของเขาเสียเอง เท่านั้นไม่พอ เขาทำให้เธอหัวใจจะหยุดเต้นไปกับสัดส่วน...ขืนแข็ง บดเบียดเสียดสีกับผิวเนื้ออ่อนไหวตรงหว่างขา เคมีในสมองช็อตชา เนื้อตัวสั่นระริกไปกับความเสียดซ่านกระสันที่ถูกปลุกกระตุ้นรุนแรง เธออยากต่อต้านดิ้นรนราวคนคลั่ง ทว่าความทรมานบาดแหลมรุมเร้าไปทั่วร่างกายกลับฉุดรั้งเรี่ยวแรงและสติ ยิ่งเขาขยับร่างกายบดขยี้ เคลื่อนปากจูบเคล้นจนนุ่มเนื้อทรวงคัดแน่นเป่งตึงเสื้อนอนเปียกเปื้อน เขายังซุกหน้าขบกัดซอกคอ ไล้เลียติ่งหูในอาการจ้วงจาบหยาบคาย แล้วปากได้รูปโฉบมากดปิดปาก มือใหญ่ที่ตรึงใต้บั้นท้ายผลักดันให้ซอกขาอ่อนไหวบดขยี้ไปกับหน้าขาแกร่ง เธอขืนตัว ขยุ้มลำไหล่กว้างเต็มแรง ตระหนกตกตื่นกับสถานการณ์ล่อแหลมจนน้ำตาเอ่อไหล มันส่งผลให้จูบร้อนร้ายชะงัก มีเพียงลมหายใจร้อนแรงแผดเผากลีบปาก เธออับอายเกินกว่าจะมองหน้าเขาได้ เบี่ยงหน้าหลบทั้งที่หอบสั่น สองมือขยุ้มแน่น รับรู้ถึงท่อนแขนที่ค่อยๆ เลื่อนไปโอบเอว เชื่องช้าในความรู้สึก ที่สุดร่างกายก็ถูกวางลง “ไป” สมองสับสนอลหม่าน ประมวลสิ่งที่ได้ยินไม่ทัน เสียงพร่าดุจึงสำทับอีกครั้ง “มะลิกลับเข้าห้องไป เดี๋ยวนี้!” เธอไม่รอให้คมคายพูดซ้ำ วิ่งเข้าห้องโดยไม่เหลียวหลัง ปิดประตูลงล็อกได้ ขาอ่อนพับ ร่างกายสั่นๆ ทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง มีเพียงหัวใจเต้นสนั่นหวั่นไหว... เหล้าคุณภาพเยี่ยม ดีกรีแรงถูกเปิดดื่มไม่ง้อแก้ว ความร้อนแรงบาดลำคอหากไม่สามารถกดข่มสัญชาตญาณนักล่าให้สงบลงได้ มันจึงถูกยกดื่มติดๆ กัน ไม่ถึงนาทีพร่องไปกว่าครึ่งขวด คมคายกระตุกสาบเสื้อแรงๆ กระดุมกระเด็นออกจากรังหลายเม็ด กระตุกซ้ำอีกครั้งสาบเสื้อก็เป็นอิสระจากกัน เผยกล้ามเนื้อแผงอกและหน้าท้องสวยงาม ราวกับว่าทำแบบนั้นแล้ว มันสามารถระบายความรุ่มร้อนอันเกิดจากกลิ่นกรุ่นวัยสาวที่เขาเพิ่งผละจากมา เด็กบ้า! ไม่มีใครบอกใครสอนหรือไงนะ อย่าเข้าใกล้ผู้ชายตอนแต่งตัวล่อแหลมอย่างนั้น ไม่ต้องพยายามเขาก็รู้ทันทีว่าภายใต้ชุดนอนเนื้อนุ่มนั้น เธอหาได้สวมสิ่งใดอีก รสชาติไร้เดียงสานั้นมันช่างหอมหวนยวนยั่วจนไม่อยากห้ามใจ มันทำให้เขาหงุดหงิด คมคายพยายามปัดความคิดไม่ซื่อทั้งหลายแหล่ออกจากหัว คว้าขวดเหล้าติดมือ พลิกตัวยืนตรงหน้าผนังกระจกสูงจรดเพดาน สายตาปะทะเข้ากับหลังคาตึกห่างออกไปทางตะวันออก ที่ที่เชลยถูกจองจำไว้ เขาเล่นสนุกกับพวกมันทุกวัน ไอ้ตัวหัวหน้ามันอึดไม่เบา สมกับที่เคยเป็นหัวหน้าการ์ดฝีมือดี ขณะที่คนอื่นๆ ดันใจเสาะตายไปตั้งแต่ยังไม่ครบเจ็ดวันด้วยซ้ำ คงเพราะพวกมันเป็นเพียงช่างเครื่อง ฝีมือและสมรรถภาพร่างกายต่ำ ไอ้ตัวหัวหน้าเพิ่งจะตามพรรคพวกของมันไปเมื่อตอนหัวค่ำวันนี้ มุมปากได้รูปกระตุก มือหนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ไม่เสียใจสักนิดที่ฆ่ามันตายกับมือ เลือดล้างด้วยเลือด กรอกเหล้าลงคออีกอึกใหญ่ เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังเข้ามาใกล้เรียกความสนใจ เขาได้เห็นรัฐกรมาพร้อมกับผู้ชายหัวเกรียนหน้าเคร่งขรึม “ไอ้ธาม” “พี่คาร์ล” เขาขยับเข้าไปตบไหล่หนุ่มรุ่นน้อง พยักหน้าให้นั่งบนโซฟา ขณะที่รัฐกรหาเหล้ากับแก้วอีกสองใบมาเทส่งให้หนุ่มรุ่นน้องกับตนเอง “สภาพมึงแม่ง” “ดูดีสุดๆ แล้ว ติดคุกตั้งหลายปี” ปฏิพัทธ์ไหวไหล่ ยกแก้วที่รัฐกรเลื่อนมาให้ขึ้นดื่ม “ถ้ากูรู้ มึงจะไม่ได้ติดสักปี” “ผมไม่อยากรบกวน” หลายวันมานี้ เขาให้รัฐกรนำตัวรุ่นน้องคนนี้ออกมาจากคุก หลังจากรู้โดยบังเอิญว่า มันอยู่ในนั้น “พูดงี้ มึงดูถูกกูอยู่นะ” การนำตัวใครสักคนออกจากคุก หรือการทำให้ใครสักคนถึงหลายคนหายตัวไปไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา สำหรับศิลาลักษณ์ “ขอโทษครับ ผมแค่ไม่อยากให้พี่วุ่นวาย” คมคายส่ายหน้าระอา มือหนายื่นขวดไปชนกับแก้วเหล้าของอีกฝ่าย ปฏิพัทธ์อายุน้อยกว่าเขาสามปี รู้จักกันตอนนั้นมันอยู่ปีหนึ่งมาทำงานในผับของเขาเอง มันขยัน ซื่อสัตย์ เขาชอบนิสัยจึงคบเป็นเพื่อนโดยไม่สนฐานะทางสังคมอะไร แต่ขาดการติดต่อกันไปตอนที่เขาไปเรียนเมืองนอก คนที่ผับก็ไม่ได้แจ้งเรื่องมันให้เขารู้ ไม่คิดว่า มันจะเกิดเรื่องจนต้องเข้าไปกินข้าวแดงในคุกเสียหลายปี “ขอบคุณพี่มากที่ช่วยผมออกมา” “มึงจะเอาไงต่อไป” “ยังไม่รู้เลย คนขี้คุกแบบผม”หนุ่มรุ่นน้องทำเสียงหยันในลำคอ ตามด้วยกรอกเหล้าเข้าปาก คมคายมองเห็นประกายแข็งกร้าวในตาของปฏิพัทธ์ มันคือความคั่งแค้นสุมอก! แบบที่เขารู้สึกมาตั้งแต่รู้ข่าวพ่อกับแม่ “มึงคงอยากแก้แค้น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD