8 งานเอ็น

1488 Words
8 งานเอ็น รอยยิ้มเล็กๆ แต้มมุมปากได้รูปทำให้รัฐกรส่ายหัวขณะยื่นเงินให้พนักงานหญิงคนหนึ่ง แล้วเดินเข้ามานั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม เขายังมองเห็นผู้จัดการพริตตี้คนดังนั่งดวดเครื่องดื่มที่บาร์ “ดูอารมณ์ดีผิดเมื่อกี้ไปเลยนะครับ” คมคายไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้คนสนิทพ่วงตำแหน่งเลขา ความสนใจของเขาอยู่กับหน้าจอสมาร์ตโฟน ภาพรอยยิ้มสดใส ตาเป็นประกาย สีหน้าท่าทางตอนหยิบอาหารญี่ปุ่นใส่ปากมันน่าดูกว่าหน้าของผู้ช่วย มือหนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเงียบๆ หากไม่วายถูกสัพยอก “ถ้าจะหวง เอ๊ย ห่วงขนาดนี้ ไล่เขาไปไกลๆ ทำไมไม่รู้” “ถ้าไม่อยู่กาแล็กซีอื่น ไม่มีที่ไหนไกล” ประโยคนั้นทำให้รัฐกรหัวเราะเบาๆ ดอกไม้แสนสวยจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่ามีจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จ้องตาวาววับ “ความหมายเหมือน ‘ยิ่งอยากให้อยู่เงียบๆ อีกฝ่ายกลับยิ่งส่งเสียงดัง’ ใช่ไหมเจ้านาย” คราวนี้ ตาคมกริบตวัดขึ้นมามองสีหน้าครึกครื้นของเลขา คำพูดนั้นมันแทงใจดำ! เขาต้องการให้มัลลิกากานต์อยู่เงียบๆ ใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดา ไม่เป็นจุดสนใจ ดูที่เธอทำเถอะ คนติดตามเป็นล้าน ช่างใช้ชีวิตได้สามัญเหลือเกิน “กร...ไม่ใช่เมียอย่าทำมารู้ใจ” “อ้าว” คมคายไม่สนใจสีหน้าติดขำของผู้ช่วยอีก ลุกไปยืนหน้าผนังกระจก หยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ มองลงไปยังความวุ่นวายภายในผับเบื้องล่าง ถึงอย่างนั้น หลังจากเสียงขำเบาๆ เงียบหายไป รัฐกรยื่นแก้วที่เพิ่งรินเหล้าใส่ลงไปใหม่มาให้พร้อมเปรยขึ้นมาอีกว่า “ดูเหมือนว่าหนูลิจะเดินหน้าแล้วนะครับ ไม่รู้จะเล่นอะไรแผลงๆ อีก” เขาสาดเหล้าลงคอ ในหัวมีภาพสีหน้ายิ้มๆ ของคนที่ถูกกล่าวถึง เธอกำลังเล่น เล่นกับไฟอารมณ์ของเขานี่ไง เด็กดื้อด้าน! ลิปสติกสีส้มอิฐถูกปัดลงบนเรียวปากอิ่มส่งเสริมให้ใบหน้านวลเนียนคมเฉี่ยวมีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว มัลลิกากานต์เก็บมันลงกล่องที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องสำอางหลากหลายชนิด สำรวจความเรียบร้อยในกระจกบานใหญ่ ขณะที่บุญยวีร์ซึ่งเป็นคนดูแลกำลังช่วยพริตตี้อีกคนแต่งตัว ข้อดีของการมีสังกัดก็คือ มีงานให้ทำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อตนเองอยู่ในโหมดทำเงิน ข้อเสียก็มี นั่นคือ ไม่สามารถปฏิเสธงานที่ไม่ชอบได้ เพราะสัญญาค้ำคอ ค่ำคืนนี้ เธอและสาวสวยอีกสามคนถูกส่งมางานเลี้ยงส่งมอบรถยนต์ซูเปอร์คาร์ยี่ห้อหนึ่งซึ่งปีนี้โมเดลลิงของเธอได้รับการว่าจ้างให้เป็นพริตตี้รถค่ายนี้ โชว์รูมจัดให้กับผู้ซื้อตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตหรูหราราคาแพง สนนราคาคันหนึ่งหลักยี่สิบล้านอัป เธอยังไม่เคยมางานแบบนี้ เพื่อนพริตตี้เคยเล่าให้ฟังว่า เลิศหรูและอลังการทีเดียว “พี่แหวนคะ พี่รู้เรื่องที่เขาลือกันปะ” “เรื่องไรเหรออ๋อย” “รู้แล้วเหยียบตรงนี้เลยนะคะพี่ เรื่องที่ว่าแม่นางเอกชญานิษฐ์ขึ้นห้องกับนักธุรกิจรูปหล่อคืนเดียวได้บทนางเอกในหนังฟอร์มยักษ์น่ะสิพี่” “จริงอะ” บุญยวีร์นิ่วหน้า หันไปมองทางเพื่อนรุ่นน้องคนสนิท “วงในเขาลือกันให้แซด ได้ยินว่านางไปเที่ยวผับที่อยู่ในโรงแรมK หลายวันก่อน โป๊ะเช้ะเจอคุณคมคายคืนนั้นเลยจ้า” “แหม... พูดเป็นตุเป็นตะยังกับเห็นเอง พี่ไปผับนั้น ทำไมไม่เห็น” มัลลิกากานต์ขมวดคิ้ว หลายวันก่อนก็คือวันที่เธอไปกินข้าวกับธัชธรรม คมคายอยู่ที่โรงแรมนั่นด้วยอย่างนั้นเหรอ บุญยวีร์ก็ไปผับนั้น เขาต้องรู้แน่ว่าเธออยู่ที่นั่นด้วย “น่าเสียดายพี่ไม่ได้แวะผับนั่น” “นั่นดิ พี่มะลิอะมัวแต่ไปกินโอมากาเสะ ไม่งั้นได้กินของดีกว่าไปแล้ว หุ่นแมนๆ เนื้อถ้าจะแน่นอย่างคุณคมคาย เก๋ว่าอิ่มอร่อยไปสามวันแน่นอน” “เว่อร์มาก” เธอแกล้งจิ้มหน้าผากเก๋ไปทีหนึ่ง “ก็ไม่รู้ว่าเว่อร์แค่ไหนนะ วงในเพื่อนนางเม้าท์กัน นางว่าแซ่บมาก” “เราอะคนวงในรึไง รู้กับเขาขนาดนั้น” “ใครๆ ก็ว่าฮีแซ่บจ้าพี่แหวน ไม่งั้นแค่ชายตามอง สาวๆ จะระทวยอยากจะขึ้นเตียงด้วยเหรอพี่ คนอะไรไม่รู้ หล่อก็หล่อ รวยก็รวย เก๋นี่อยากจะโดนเครางามๆ นั้นไซ้ไปทั่วตัวเลยพี่ พูดแล้วก็อิจฉานางเอกนั่นเป็นบ้าเลย” “ใช่ๆ พี่” อีกสองสาวต่างเห็นพ้องสนับสนุน บุญยวีร์ส่ายหน้าระอา ขณะที่มัลลิกากานต์แค่หัวเราะในลำคอ ไม่ออกความเห็นอะไร กระทั่งเก๋หันมาคุยด้วยอีกครั้ง “เออ มีเรื่องแปลกอีกอย่างนะ” “แปลกคือ” “พี่ลิจำโอมได้ปะ คนที่ถ่ายโฆษณากับพี่อาทิตย์ก่อนน่ะ” พริตตี้สาวอีกคนถาม พอเห็นมัลลิกากานต์พยักหน้าก็เล่าต่อ “จู่ๆ หมอนั่นถูกดรอปไปเฉยเลย เพื่อนที่อยู่โมฯนั้นเล่าให้เก๋ฟังเมื่อวาน” “หืม ไม่หรอกมั้ง เก็บตัวหรือเปล่า ตอนนั้นได้ยินว่ากำลังจะลงละคร เป็นพระเอกด้วยนี่” “ไม่ได้เป็นแล้ว ข่าวชัวร์ๆ ไม่มั่วจ้า บทพระเอกน่ะเปลี่ยนเป็นคนที่ชื่อบลูแทน ไม่รู้ว่านายโอมนั่นไปเหยียบตาปลาใครเข้าถึงโดนเชือดทั้งที่ยังไม่ทันได้เกิดเลย” “ก็ว่ากันไป” มัลลิกากานต์ส่ายหน้าขำๆ ให้สาวรุ่นน้อง ก่อนที่บุญยวีร์จะเบรกพริตตี้สาวสวยเมื่อดูเวลาเห็นว่างานใกล้จะเริ่มแล้ว “นั่นสิ ไปๆ จะได้เวลาแล้ว ตรวจเช็กความเรียบร้อยด้วย อีกห้านาทีงานจะเริ่มแล้ว” “จ้าพี่แหวน” “แต่ว่านะ มีเรื่องที่แนนแปลกใจกว่านั้นอีก” สามสาวที่ส่องความสวยในกระจกเป็นที่พอใจแล้ว หันมาหัวเราะให้กันเมื่อมัลลิกากานต์กับบุญยวีร์นิ่วหน้าสงสัย ออกปากถาม “แปลกใจอะไรของเธอเยอะแยะยะยายแนน” “แปลกใจที่พี่มะลิมารับงานเอ็นฯ อะดิ นี่งานที่สามแล้วนะอาทิตย์นี้” “ใช่ๆ ปกติพวกงานเอ็นฯ พี่ขอผ่านตลอด” “ตอบเกร๋ๆ เลยนะ” ผู้ถูกพาดพิงทำหน้าเชิดแบบที่รู้ว่าแกล้งกระเซ้าแถมยังเลียนเสียงแบบวัยรุ่นกวนๆ “พี่อยากลองเปลี่ยนทำอะไรใหม่ๆ บ้าง” เรื่องคืนนั้น ที่เธอไปกินข้าวกับธัชธรรมไม่มีใครในโมฯ รู้ แต่หลังจากคืนนั้น เธอยังทำงานตามปกติ ไม่มีการติดต่อจากธัชธรรมอีก ใช่ว่าเธออยากจะรับงานแบบนั้น มันน่าแปลกมาก คนอย่างหมอนั่นไม่มีทางรามือง่ายๆ ทั้งที่ยังไม่ได้สมใจหรอก “แต่ถ้าตอบอย่างตรงไปตรงมาคือ ปฏิเสธไม่ได้อะดิ เจ้านายสั่ง ขืนไม่ทำ โดนฟ้องสิยะหล่อนๆ ปะ ไปทำงาน เลิกสงสัยได้แล้ว” สามสาวหัวเราะคิกคัก พากันตรงไปยังห้องจัดเลี้ยง เมื่อผ่านประตูเข้าไปข้างใน ใครคนหนึ่งเปรยขึ้นเบาๆ “โคตรหรูเลยอะ ชักอิจฉาคนมีตังค์ ซื้อรถทีมีงานเลี้ยงแบบไพรเวตหะรูหะรา” “อยากมีบ้างปะ ลองซื้อรถราคาสามสิบล้านดูดิ” “โห... แค่สามล้าน เก๋ยังไม่กล้าคิดเลยพี่ลิ” มัลลิกากานต์ตื่นตาไปกับงานเลี้ยงไม่ต่างจากคนอื่น ภายในห้องหลายจุดถูกประดับด้วยลูกโป่งและดอกไม้ ตรงกลางห้อง บนพื้นยกสูงเล็กน้อย รถยนต์แสนสวยราคามหาศาลจอดนิ่งภายใต้ผ้าคลุมสีดำ ขอบพื้นต่างระดับด้านข้างทั้งสองฝั่งมีช่อลูกโป่งประดับเพิ่มความหรูเรียบแต่ดูดีด้วยสีอันเป็นสัญลักษณ์ของยี่ห้อรถ มุมห้องด้านหนึ่งมีบาร์เครื่องดื่มกับโต๊ะอาหารแบบบุฟเฟต์เตรียมไว้ นักดนตรีสะพายกีตาร์เล่นเพลงสดขับกล่อม แขกของเจ้าของรถทยอยเข้ามาในงานบ้างแล้ว ต่างยืนพูดคุยกัน เธอพอรู้มาเล็กน้อยว่า รถยนต์คันดังกล่าวถูกซื้อไปโดยลูกชายนักการเมืองตระกูลผู้ดีเก่า ร่ำรวยมรดกมหาศาล ปัจจุบันมีชื่อเสียงกับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ แล้วหัวใจของเธอก็ต้องเต้นแรงจนกลัวว่ามันจะกระเด็นออกมาจากโพรงอก เมื่อสายตาสะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่กำลังเดินผ่านประตูเข้ามาพร้อมโดยมีสาวสวยนางเอกดาวรุ่งพุ่งแรงควงแขนมาด้วย รูปร่างสูงสมาร์ตสง่างามด้วยมีเชื้อสายอเมริกัน-บราซิลไหลเวียนอยู่ในดีเอ็นเอ ใครๆ ต่างหันไปให้ความสนใจทักทายเขา คมคาย ศิลาลักษณ์...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD