“เดี๋ยวบัว!...ไม่ต้องหรอก พี่แค่แวะมาหาบัว อยากมาบอกข่าวดีน่ะ มหาลัยที่บัวคิดจะเรียนต่อ เปิดรับสมัครนักศึกษาพอดี บัวสนใจจะลงเรียนเลยไหมล่ะ?...แค่มีเวลาอ่านหนังสือแค่นั้นเอง...บัวทำได้พี่รู้” เรื่องอ่านหนังสือใบบัวไม่เกี่ยง เธอชอบอ่านหนังสือทุกประเภท และกระตือรือร้นที่จะเรียนต่อให้สูงๆ ติดที่ไม่มีเงินนี่สิ รายจ่ายแบบจำกัดจำเขี่ย อดออมหลายเดือนกว่าจะได้เงินครบ เธอกลัวเกิดเหตุฉุกเฉินจนไม่มีเงินลงเรียนในปีการศึกษาต่อไป
“บัว...เอ่อ...”
“พี่รู้...พี่เลยหาทางช่วย มีคนรวยหลายคนอยู่ในตำบลเดียวกันกับบัว พี่จะออกหน้าขอทุนให้บัวเอง...”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอยิ้มสดใส จนกันตาพร่า จากแรกเริ่มเขามองเธอเป็นเฉกเช่นน้องสาว เวลานี้ความรู้สึกเขาเปลี่ยนไป แม้ใบบัวจะจนยากแค้น...แต่นิสัยของเธอน่าคบ เป็นคนมีความทะเยอทะยาน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจกับทุกคน เป็นคนมองโลกในแง่ดี แม้จะถูกกดจนแทบจมดิน ในคราแรกๆ เขามาบ้านสุขแสวงเพราะติดพันพิศตรา แต่ยิ่งนานวันความรู้สึกของเขากับหล่อนยิ่งจืดจางลง พิศตราเป็นคนเห็นแก่ตัวและเจ้าเล่ห์ จนกันไม่คิดว่าถนนความรักจะไปกันได้รอด เมื่อเขาต้องทำงานรับใช้ชุมชน การมีหลังบ้านจิตใจคับแคบมันจึงไม่เหมาะสมสักเท่าไร
“ขอบคุณค่ะพี่กัน ขอบคุณๆ” ชายหนุ่มวางมือบนศีรษะของใบบัว เขาสงสารเธอและเริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอย่างอื่น มันแทรกปนรวมอยู่ในความรู้สึกของตัวเองอีกด้วย...
“ทำอะไรกัน!” เสียงตวาดแวดๆ กับร่างระหงของพิศตราโผล่เข้ามาในสายตาของกัน ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจช้าๆ เริ่มเบื่อหน่ายพฤติกรรมของหล่อนหนักขึ้นทุกวัน
หญิงสาวเดินนวยนาดลงมาจากบันได พร้อมกับจ้องมองมาที่ใบบัวกับกันตาเขม็ง เธอรู้สึกว่ากันเปลี่ยนไป...เขาไม่ค่อยมาหาเธอ พอโทร. หาก็อ้างตลอดว่างานยุ่ง แต่กลับมีเวลาแวะมาคุยกับอีเด็กก้นครัวที่บ้านเธอแทบทุกวัน!
“บัวขอตัวนะพี่กัน คุณผิง...ได้เวลาออกไปทำงานที่ร้านแล้วล่ะค่ะ” รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวพิศตรา จนใบบัวต้องรีบฉากหลบ ไม่อย่างนั้นเธอเป็นต้องร้อนหู
“บัวๆ อย่าลืมนะ” กันยื้อไว้ เขาย้ำและต้องการคำตอบ
“ค่ะ บัวไม่ลืม...ขอบคุณนะคะ” เธอตอบเสียงแผ่วๆ รีบก้มหน้าหลบสายตากราดเกรี้ยวของพิศตราแทบไม่ทัน เธอรีบเดินตัวงอหนีไป จูงจักยานเก่าๆ และรีบปั่นหนีไปก่อนที่ไฟพิโรธของพิศตราจะลุกโพลง
“พี่กัน...คุยอะไรกับอี...บัวคะ!!” หญิงสาวรีบกลืนคำพูดจิกหัวใบบัวไว้ เมื่อกันตวัดสายตาขุ่นๆ หันมามองเธอ
ชิ! แตะไม่ได้เลยนะ ไม่รู้ติดใจอะไรหนักหนา...หญิงสาวคิดในใจฉุนๆ
“เปล่า... แค่แวะมาบอกบัว มหาลัยฯ ใกล้เปิด ให้บัวเขาไปสมัครเรียนก่อน เดี๋ยวจะเสียโอกาส”
“โอ้ย! ให้มันเรียนทำไมนักหนาคะ...เปลืองเงินเปลืองทอง...ทุกวันนี้ก็เปลืองข้าวเปลืองน้ำจะแย่ แค่กาฝาก ทำสะเออะ!” พิศตราตวาดแว๊ด! สนับสนุนกันเข้าไป ไม่รู้ใบบัวมีอะไรดีหนักหนา ทำไมมีแต่คนรุมรักหล่อน ไม่เว้นแม้แต่กันว่าที่แฟนของเธอ
“ผิง! ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน หากเขาสามารถไปถึง บัวไม่ได้หัวขี้เลื่อยนะ ออกจะเรียนดีด้วย จบ กศน. ด้วยเกรดที่ผิงเห็นยังต้องอึ้ง...หากเรียนตามปกติ ผิงคงได้อายบัวนั่นแหละ” กันแย้ง ใบบัวมีสิทธิ์ที่จะฝัน ความจริงหากใบบัวได้เงินเดือนเหมือนคนงานคนอื่นของคุณนายแจ่มจันทร์ เธอจะไม่ขัดสนเลยเพราะเป็นคนอดออม แต่นี่เธอทำงานได้ก็แค่ที่ซุกหัวนอน กับอาหาร3 มื้อ ที่ก็ไม่ได้ดีเท่าไรด้วย!! เขาไม่อยากก้าวก่ายมากนัก เมื่อมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว และใบบัวไม่เคยป่าวประกาศเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง
พิศตราตัวสั่น! กันไม่สมควรเอาอีเด็กก้นครัวนั่นมาเปรียบกับเธอ เธอคือบุตรสาวนายทหารใหญ่ ไม่ใช่เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่อย่างใบบัว
“คนอย่างอี...บัวไม่มีทางดีกว่าผิงหรอกค่ะ มันคนละชั้นกัน”
หญิงสาวยังคงยิ่งผยองและยังคงอวดดี แม้สิ่งที่เธอพยายามจะอวดเบ่ง แทบมองหาความดีไม่เจอเลย กันส่ายศีรษะ... เขาควรคิดใหม่ใช่ไหม? เกี่ยวกับเรื่องของพิศตรากับตัวเอง เขาจึงเริ่มเว้นระยะ ทำตัวห่างเหินและค่อยๆ ทิ้งช่วงห่างแบบเนียนๆ หล่อนคงจะรู้ตัวได้เอง เมื่อหล่อนเย่อหยิ่งจะตายไป ไม่ช้าพิศตราคงหาคนมาแทนที่เขาได้เองนั่นแหละ
“พี่ขอตัวนะผิง...ยังมีงานค้างอยู่อีกเยอะ” เมื่อธุระจบ เขาก็เตรียมตัวชิ่ง
“อะไรกันคะ? เราไม่ได้คุยกันมาหลายวันแล้วนะคะพี่กัน...หมู่นี้พี่กันห่างเหินผิงไปมาก รู้ตัวบ้างหรือเปล่าคะ?...แล้วถ้าหากผิงมีคนใหม่...พี่กันจะมาว่าผิงปันใจไมได้นะคะ” เธอพยายามรั้งกันไว้ แต่ก็ไม่วายแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาเสียอีก
“พี่งานยุ่งน่ะ แต่...ผิงเห็นคนอื่นดีกว่า พี่ก็ตามใจผิงนะ” กันตอบแกนๆ หากมีคนตาบอดหลงเข้ามาหาพิศตราสิ เขาจะได้ตีปีกดีใจ จะได้เลิกราแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น เมื่อเขาคงต้องแวะมาบ้านสุขแสวงอีกบ่อยๆ ในอนาคต แต่ไม่ได้มาเพื่อพิศตรา
“พี่กันพูดอย่างนี้ หมายความว่าไงคะ!!”
กันหน้าเคร่ง เขาอธิบายเสียงอ่อนๆ “พี่ก็แค่อยากให้ผิงเข้าใจ...หากพี่ดีไม่พอสำหรับผิง พี่ก็พร้อมจะหลีกทางให้ คนที่ดีกว่า และคู่ควรกับผิง”
“พี่มีงานรออยู่ ไว้ค่อยคุยกันนะ” ชายหนุ่มรีบตัดบท เขาเสียเวลาคุยกับพิศตรานานเกินไป เพราะหากหล่อนอาละวาด เขาคงไม่คิดที่จะทนกับความเอาแต่ใจของเธอ เมื่อก่อน...เขามองเห็นมันเป็นแค่มารยาที่น่ารักน่าใคร่ แต่พอนานวันเข้ามันก็ก่อเกิดเป็นความรำคาญ
“อ๋อ...ผิงเข้าใจแล้วคะ” หญิงสาวกัดฟันกรอดๆ การห่างเหินเป็นการบอกลาอ้อมๆ แต่เธอไม่มีวันที่จะให้เขารู้ว่าเธอเสียใจเด็ดขาด อยากจบ! ก็ดี เธอจะได้หาคนใหม่ที่ดีกว่า แล้วเธอจะควงมาเย้ยให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้ไร้ค่าจนไม่มีคนอื่นมองเห็น...
“พี่ขอตัวนะผิง”
กันรีบเดินหนี เพราะอีกไม่นานหรอกพิศตราคงอาละวาด ดีนะที่ใบบัวออกไปนอกบ้านแล้ว ไม่อย่างนั้นผู้หญิงน่าสงสารอย่างใบบัวคงถูกพิศตราลากเอามาเป็นกระโถน...
“กรี๊ดๆ”
กันส่ายศีรษะ เขาทันได้ยินเสียงกรีดร้องของพิศตราก่อนที่ประตูรถยนต์จะปิดงับลง ครอบครัวอบอุ่น มีพ่อ แม่ ครบ แต่ก็ไม่สามารถปลูกสร้างนิสัยดีๆ ให้กับบุตรหลานได้ หากคนในครอบครัวไม่ได้ดูแลซึ่งกันและกัน หลายครอบครัวที่พ่อ แม่รังแกบุตร เขาปลูกฝังค่าสำนึกผิดๆ ให้บุตรหลาน จนเติบโตขึ้นมาเป็นภาระสังคม เพราะคนจำพวกนี้มักจะแสดงความเห็นแก่ตัว ของตัวเองในทุกที่ และทุกโอกาส...
“เบาพี่ผิง พี่กันเขาเปิดแน่บไปแล้วเห็นไหม ไอ้เสียงกรี๊ดๆ นี่ผมขอได้ไหม? ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบหรอก”
พัฒนะโผล่หน้าออกมามอง เขาเอ่ยเตือนพี่สาวด้วยความหวังดี
“ไอ้พัฒ!! แกชอบอีเด็กนั่นใช่ไหม?” พิศตราตาลุกวาว เธอหรี่ตาลงเมื่อนึกอะไรๆ สนุกๆ ขึ้นมาได้ ให้น้องชายจัดการรวบหัวรวบหางอีกเด็กใบบัว...ดูสิจะยังมีใครสนใจมันอีกไหม ถ้าเหลือแค่กากเดนจากคนอื่น!
“พี่ผิงพูดอะไร? ไร้สาระน่า” ชายหนุ่มพุดปัดๆ เขารีบก้มหน้าหลบ
“ฉันเป็นพี่แก ทำไมฉันจะไม่รู้...เดี๋ยวฉันจะหาทางช่วยแกเอง...ให้แกฟัดอีบัวให้หนำใจ!”
ริมฝีปากสีสดแสยะยิ้ม เธออยากเห็นมันถูกกดจมดิน จนไม่มีหน้ามาเสนอให้เธอเห็น จนรู้สึกเจ็บใจเช่นนี้ เธอรู้ว่ากันเปลี่ยนไป เพราะ ใบบัว!
พัฒนะนิ่งเงียบ เขาไม่ปฏิเสธหรือตอบรับ ชายหนุ่มคิดในใจครึ้มๆ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงใบบัวก็เป็นแค่เด็กในบ้าน แม้จะเป็นญาติทางคุณพ่อ แต่ก็ไม่เห็นท่านใส่ใจ หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ มารดาคงไม่ปล่อยให้เขาถูกทำโทษ และใบบัวเองก็สวยไม่ใช่เล่น เขาชอบแอบมองเวลาที่หญิงสาวเผลอตัว ใต้เสื้อยืดตัวหลวมๆ นั่น ใบบัวซ่อนทุกสิ่งที่ผู้ชายปรารถนาไว้ อาจจะสวยกว่าพี่สาวเขาด้วยซ้ำ เพียงแต่ใบบัวไม่เคยเปิดเผย
แต่เขารู้...