บทที่ 4 ตอนที่ 1

1798 Words
แล้ววันเริ่มงานก็มาถึง...โสรยาทำให้ทุกคนอ้าปากค้างอย่างไม่คาดฝัน เพียงก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้ามาในบริเวณร้าน ทุกคนก็ให้ความสนใจ มองหล่อนเป็นตาเดียว เพราะหล่อนปรากฏตัวในชุดปลาหมึกแฟนซีสีรุ้งหัวโต ยิ้มยิงฟันเต็มหน้า ดวงตากลมโตทอประกายระยิบระยับ ดึงดูดทุก ๆ สายตา... “แม่...หมามันเห่ากันทำไมเนี่ย” ดาหวันเดินอยู่ข้าง ๆ พรชัยพลางจับแขนไว้แน่นด้วยความกลัว เพราะสุนัขบริเวณนั้นสองสามตัวต่างเห่าหอนเกรียวกราว กลบเสียงเพลงที่ทางร้านเปิดไว้กล่อมลูกค้าจนหมดสิ้น แล้วพนักงานสองสามคนก็มาพาสุนัขเหล่านั้นเข้าไปด้านใน ทั้งหมดจึงได้รู้ว่าเป็นสุนัขของที่ร้านนั่นเอง “อีคุณโส...เอาจริงดิ” “จะให้กลับเหรอ” หญิงสาวในชุดหมึกแฟนซีหันไปกระซิบถามเพื่อน ซึ่งต่างก็ได้แต่ถอนหายใจ “พวกเราไปนั่งรอข้างในนะ...ยังไงแกก็ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะนังโส หลับหูหลับตาทำไปนะ ไม่กี่ชั่วโมงก็จบงานแล้ว” “อย่าห่วงเลยเจ้...ไม่มีใครเห็นหน้าสักหน่อย จะกลัวอะไร...” หล่อนว่า แล้วเดินแยกออกจากทุกคน โดยยกมือที่เป็นหนวดปลาหมึกโบกลา “คุณแม่...” ชายหนุ่มร่างใหญ่อ้าปากค้าง ตามองไปด้านหน้าของร้านที่ปลาหมึกแฟนซีกำลังเดินอุ้ยอ้ายเข้ามา พลางสะกิดผู้เป็นมารดาซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน “ไงล่ะแม็กซ์ กลยุทธ์การตลาดของลูก” นางยกมือกุมขมับ “ผมจะรู้ไหมว่าเธอจะบ้าดีเดือดขนาดนี้” “ทีนี้ก็รู้แล้วสิ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้เป็นจุดเด่นให้จดจำ...ให้ลองดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไร ไอเดียแปลก ๆ ดี” เพนนียิ้มกึ่งหัวเราะ เมื่อเห็นคอนเซ็ปต์ของพีอาร์สาวที่นางจ้างมาทำงานวันแรก “ใช่ครับ...ลองดูไปก่อน ยังไงผมก็เชื่อว่าเธอมีดี” เขาว่าแล้วหันไปยิ้มกับแม่ “โน่น...ไปเลย ลูกค้าเรียกแล้วโน่น ไม่ต้องมาทำเนียนอู้งาน” เพนนีตบไหล่ลูกชายเบา ๆ แล้วไล่ให้ไปทำหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบ นั่นคือพนักงานเสิร์ฟ... “สวัสดีค่ะคุณลูกค้าขา วันนี้ทางร้านนัวในหม้อของเรามีความยินดีมาก ๆ ที่ได้ต้อนรับทุก ๆ ท่าน น้องหมึกรุ้งขอเป็นตัวแทนทางร้านในการดูแลให้ความสะดวกและความบันเทิงแก่ท่าน หวังว่าทุกท่าน ณ ที่นี้จะได้นัว ๆ กันอย่างถึงอกถึงใจนะคะ” โสรยาถือไมค์โดยไม่ต้องใช้ไฟส่องหน้า แนะนำตัวเองพลางเต้นดุ๊กดิ๊ก ๆ เรียกเสียงหัวเราะฮือฮา หล่อนไม่ถือตัว ไม่ถือว่าเคยโด่งดังจากโลกออนไลน์มาเท่าไหร่ เมื่อรับงานแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ ลูกค้าจะได้ไม่เสียเงินก้อนใหญ่ฟรี ๆ นัวในหม้อเป็นร้านปิ้งย่างสไตล์น์บุฟเฟ่ต์ที่มีลูกค้าคึกคักพอสมควร ด้านนอกเป็นแนวเอาต์ดอร์ พื้นเป็นไม้และมีโต๊ะจัดวางเป็นแถว แต่ละแถวจะมีพนักงานในชุดสุภาพของทางร้านยืนให้บริการสองคน ส่วนด้านในเป็นห้องโถงกว้างขวางและติดเครื่องปรับอากาศ โต๊ะเป็นหินแกรนิตทั้งชุด ชุดอาหารบุฟเฟ่ต์ทั้งด้านนอกและด้านในเหมือนกัน มีมากมายหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือก แต่ราคาต่อลูกค้าหนึ่งคนจะแตกต่างกัน ด้านในจะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย และมีพนักงานให้บริการเยอะกว่า ทั้งนี้ที่ร้านยังมีการบรรเลงดนตรีสดจากนักร้องที่แวะเวียนมาให้ความบันเทิงเป็นช่วง ๆ ด้วย หลังจากหมดเวลาของนักร้องนั่นแหละ ถึงจะเป็นคิวของหล่อนออกมาให้บริการต่อ โสรยามีหน้าที่คอยเอนเตอร์เทนลูกค้า สร้างความสุขและเสียงหัวเราะ ดึงดูดให้พวกเขาอยากจะกลับมาใช้บริการอีก หรือบอกกันปากต่อปากถึงการบริการที่จะได้รับ เพื่อตอบแทนที่เพนนีให้โอกาส ทำให้หล่อนมีเงินในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และจุนเจือไปถึงทุกคนภายใต้การดูแลของหล่อนด้วย หญิงสาวปล่อยวางสถานะของตัวเองในอดีต มันไม่สำคัญอีกแล้ว ต่อให้ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่สักกี่ครั้ง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจหล่อนก็จะไม่หยุดดิ้นรน... บางครั้งหล่อนก็ช่วยพนักงานเสิร์ฟยกของ ช่วยเก็บโต๊ะเมื่อพวกเขาทำงานกันไม่ทันขณะลูกค้าชุดใหม่กำลังเข้ามาใช้บริการ หล่อนเป็นที่ชื่นชอบและเป็นจุดสนใจอย่างมากโดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ต่างก็แย่งกันเข้ามาจับหนวดบ้าง ลากไปโน่นมานี่กันอย่างสนุกสนานบ้าง “วันนี้ร้านเราคึกคักดีจังนะคุณแม็กซ์” พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะยืนมองสถานการณ์ในร้าน “ก็มีสีสันดี” มาคีส์ว่า ยิ้มให้กับภาพที่เห็น แม่ปลาหมึกสาวกำลังเล่นกับเด็ก ๆ และถ่ายรูปกันอย่างมีความสุข “เจ้แกคิดยังไงถึงได้จ้างตัวตลกมาล่ะครับ เอามาตัวเดียวด้วยนะ...น่าจะเอามาหลาย ๆ ตัวจะได้ครึกครื้นกว่านี้” “อะไรนะ...ตัวตลกเหรอ” เขาแอบหัวเราะ แค่มาสคอตชุดปลาหมึกฟรุ้งฟริ้งไม่ใช่ชุดตัวตลกเสียหน่อย “แต่ก็น่ารักดีนะพี่...ถ้ามีหลาย ๆ ตัวคงดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นแน่ ๆ เลย” “ให้พนักงานเสิร์ฟใส่ชุดแบบนี้ทำงานกันไปเลยดีไหม” “เฮ้ย! ล้อเล่นน่าคุณแม็กซ์ ผมไม่เอาด้วยหรอก ไปทำงานดีกว่า ลูกค้าเรียกแล้วโน่น” แล้วเด็กหนุ่มคนนั้นก็เดินไปทำหน้าที่ของตัวเอง มาคีส์ละสายตาจากมาสคอตสาวแล้วเริ่มงานของตัวเองบ้าง หน้าที่ของเขาไม่ได้ต่างไปจากพนักงานทั่ว ๆ ไป คือรับลูกค้า เสิร์ฟอาหาร นอกเหนือจากนั้นก็คอยดูแลความเรียบร้อย และดูแลหากมีอะไรขาดตกบกพร่อง แม้จะมีพนักงานหลายสิบชีวิต แต่หากวันไหนลูกค้ามาใช้บริการเต็มร้านก็ใช่ว่าจะรับมือกันไหว บางครั้งต้องจัดโต๊ะเก้าอี้เสริมเป็นการเฉพาะกิจก็มี ทุกคนจึงต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และเขาก็หวังว่าการว่าจ้างพีอาร์มาช่วยพรีเซนต์ในครั้งนี้ จะช่วยให้ยอดขายของร้านพุ่งขึ้นไม่มากก็น้อย ให้สมกับความตั้งใจของแม่เขา แรกเริ่มเดิมที ที่นี่เป็นเพียงร้านปิ้งย่างเล็ก ๆ พอมีเงินหมุนเวียนเท่านั้น แล้วจึงค่อย ๆ ขยับขยายจนมาเป็นอย่างทุกวันนี้ มันคือความภาคภูมิใจของเขาและแม่ที่สามารถมีอาชีพมั่นคง ยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างไม่ลำบาก ทั้ง ๆ ที่เคยโดนดูถูกดูแคลนมามากมาย จากสาเหตุว่าเคยมีสามีเป็นชาวต่างชาติ แต่กลับต้องเลี้ยงลูกชายคนเดียวอย่างเขาตามลำพัง แต่แม่ก็พาเขาฝ่าฟันความทุกข์ยากเหล่านั้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ท่านเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีพลังแข็งแกร่งมหาศาลเลยทีเดียว แม้พ่อของเขาจะคอยเกื้อหนุนอยู่บ้างในส่วนของการส่งเสียเขาก็ตาม แต่ชีวิตเขาก็มีแต่แม่ ที่คอยพูดกรอกหูเสมอว่ากิจการทั้งหมดที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง เขาจะต้องเป็นคนดูแลสืบไป ซึ่งขัดกับความต้องการทางพ่อ ที่อยากให้เขาไปใช้ชีวิตอยู่สวีเดนด้วยกัน การที่เขาเป็นลูกครึ่งนั่นแหละเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่เขาเหมือนมีตราบาปติดตัว ถูกญาติพี่น้องดูแคลนว่าเป็นผู้หญิงอย่างว่าจนไม่รู้ว่าใครคือพ่อของลูก นั่นเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องของพ่อมากนัก แม้แต่ตัวเขาเอง...เท่าที่รับทราบ พวกท่านคบหากันในช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วก็มีเขา จากนั้นก็แยกทางกัน พ่อพยายามเรียกร้องสิทธิ์ในการปกครองบุตร แต่ไม่สำเร็จเพราะทั้งคู่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และพ่อก็เป็นคนเซ็นยกให้แม่เป็นผู้ดูแลเพียงคนเดียวตั้งแต่แรก ด้วยเหตุผลอะไรนั้นเขาก็ไม่เคยรู้ สิทธิ์จึงเป็นของผู้เป็นแม่เต็ม ๆ พ่อโกรธแม่มาก แต่ก็ยังคงติดต่อมาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เพื่อแสดงความรับผิดชอบเขาเท่าที่จะทำได้ และเขาเพิ่งจะได้รู้ว่าเขาไม่ได้เกิดที่ประเทศ ไทยก็เมื่อไม่นานมานี้เอง แม่คลอดเขาที่สวีเดน และหลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็พาเขากลับถิ่นฐานเมืองนอน... ไม่รู้ทำไม...มาคีส์รู้สึกว่าแม่ของเขามีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ในใจเกี่ยวกับพ่อ “ผลตอบรับดีเยี่ยมเชียวละ...ขนาดแค่เริ่มต้น พรุ่งนี้จะมีการถ่ายทำเพื่อไปลงรีวิวให้ร้าน ลูกอยากอยู่เป็นตัวช่วยให้แม่หรือเปล่า” เสียงคุ้นเคยดังแทรกเสียงของบรรยากาศในร้าน “ไม่ดีกว่าครับ...พนักงานเสิร์ฟจะช่วยอะไรคุณแม่ได้” เขาหันไปยิ้มแล้วยักไหล่ “แล้วทำไมไม่ทำงานล่ะ...มายืนมองอะไรอยู่ตรงนี้” เพนนีเดินมายืนพิงเสาข้าง ๆ ลูกชายแล้วยกมือกอดอก “ก็ลุ้นนิดหน่อยครับ ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง” “เธอดูตั้งใจทำงานดี แม่ชอบคนขยัน แต่เรายังมีเวลาอีกสามเดือน มาดูกันว่าจะคุ้มกับเงินที่ต้องเสียไปหรือเปล่า แรก ๆ วิธีนี้มันอาจตื่นตาตื่นใจ แต่ถ้าทำไปตลอดมันจะกลายเป็นเรื่องปกติไปทันที แม่หวังว่าเธอจะมีลูกเล่นใหม่ ๆ มากกว่านี้นะ” “ผมเชื่อว่าคนที่ทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่มีข้อกังขาจะประสบผลสำเร็จได้” “อันที่จริงร้านเราไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยอะไรเลยก็ได้นะแม็กซ์ แม่ไม่เข้าใจลูกเลยจริง ๆ” “เอาน่า...คิดเสียว่าสร้างสีสันให้ลูกค้าก็แล้วกันครับแม่” มาคีส์ว่า แล้วทั้งคู่ก็หยุดบทสนทนาเอาไว้เพียงเท่านั้น เบื้องหน้าของเขาคือหญิงสาวในชุดมาสคอตปลาหมึกสีรุ้งกำลังหยอกเล่นกับเด็ก ๆ คอยช่วยพนักงานเสิร์ฟน้ำด้วยท่าทางแปลก ๆ ที่ทำให้ลูกค้าพากันหัวเราะขบขัน หลาย ๆ คนเรียกไปที่โต๊ะเพื่อจะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตลอดทั้งคืนหญิงสาววิ่งวุ่นให้บริการทั้งด้านในและด้านนอก รวมระยะเวลาแล้วนานกว่าที่ตกลงกันไว้เสียอีก ซึ่งดูหล่อนไม่ได้ยี่หระในเรื่องนั้นเลย ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบจนกระทั่งลูกค้าบางตาลง หล่อนจึงได้ขอตัวกลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD