บทที่ 2 เรียงสาด เรียงหมอน ตกลงเรื่องสินสอดได้ลงตัว

1995 Words
หลังจากงานแต่งงานของแพรวพรรณและอชิระวัตรผ่านไปครบสามวัน ก็ถึงพิธีการเรียงสาดเรียงหมอนตามประเพณีทางใต้ แพรวพรรณในวันนี้อยู่ในชุดไทยยะหยา ซึ่งเป็นชุดที่ใช้ในงานพิธีการสำคัญของชาวใต้ เป็นชุดผ้าถุงผ้าปาเต๊ะและเสื้อลูกไม้สีขาว ชุดยะหยาที่แพรวพรรณใส่เป็นชุดที่ยิ่งทำให้แพรวพรรณยิ่งงามจับใจในความรู้สึกของอชิระวัตร คิดในใจว่ามิเสียแรงที่เฝ้ารักเฝ้าถนอมแพรวพรรณมานานถึงแปดปีเต็มกว่าจะได้รวมเรียงเคียงหมอนกันในวันนี้ "ให้ปู่กับย่าของแพรวเขาขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับบ่าวสาวหน่อยนะ คู่นี้เป็นคู่รักที่ทรหดอดทนมาก ย่าของแพรวนี่ยอดหญิงเมืองใต้เลยนะ มีผัวเป็นนักเลง สมัยเขาสาวๆ เขาวิ่งรอกไล่ประกันตัวผัวกันเป็นว่าเล่นเลยนะ แต่ก็ยังสามารถประคับประคองชีวิตคู่มาได้ นักเลงที่ว่าแน่อย่างกำนันสิงห์ก็ยังแพ้นางดวงแขนี่แหละ" นายวิชัยพ่อของแพรวพรรณพูดขึ้น เหมือนอยากจะเล่าเรื่องราวความรักของพ่อแม่ตัวเองให้ลูกฟังว่าแม่ของตนเองนั้นต้องอดทนกับพ่อของตนเองมากเพียงใด แต่แม่ก็ยังมีความอดทนเก่งกล้า วันหนึ่งในเบื้องหน้าไม่ว่าชีวิตจะเกิดอะไรขึ้น นายวิชัยก็อยากให้ลูกสาวหนักแน่นและอดทนในการใช้ชีวิตคู่ให้ได้อยู่กันจนแก่เฒ่าอย่างเช่นคู่ของพ่อแม่ตนเอง "เรื่องนี้เห็นจริงตามที่พ่อวิชัยพูด ปู่ใจร้อนสร้างแต่ปัญหาให้ย่า แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่แม่ดวงแขจะปล่อยมือและทิ้งปู่ไป ปู่เลยรักย่าของแพรวมาก รักในความดีของเขา หัวใจรักของเขา มากกว่าความงามแค่เพียงเปลือกนอก แพรวแต่งงานแล้วเลือกดีแล้วนะลูก นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของชีวิตคู่ไม่ใช่ตอนอวสานเหมือนในละคร แพรวต้องมีความรักอย่างมีสติ ใช้ปัญญานำพาชีวิตครอบครัวนะลูก ขอให้มีความร่มเย็นในครอบครัวนะลูกนะ พระชัยวัตรของปู่องค์นี้ปู่นับถือบูชาเป็นอย่างมาก ปู่มอบให้กับบาสหลานเขยปู่นะ ขอให้อยู่เย็นเป็นสุขนะลูกนะ" ปู่สิงห์พูดอวยพรหลานสาวและมอบของรับขวัญให้หลานเขย "ยายแพรวหลานย่า ฟังย่านะลูก ผู้หญิงแต่งงานเพราะรัก รักจึงยอมทุ่มเทกายใจ อดทนพยายาม แต่แพรวจงรู้เอาไว้นะลูกความรักอย่างเดียวมันไม่พอในการที่จะประคับประคองชีวิตคู่หรอกนะ แพรวต้องอดทน มีสติ มีความหนักแน่นและใจกว้างด้วย อย่ายึดถือตัวเองเป็นใหญ่ยอมไม่ได้ แพ้ไม่ได้ เพราะในความรักนั้นไม่มีคำว่าแพ้นะลูกจำเอาไว้ เมื่อถึงคราวมีปัญหาสติและปัญญาของลูกเท่านั้นที่จะนำพาครอบครัวให้อยู่รอดปลอดภัย ย่าขอให้แพรวของย่ากับพ่อบาสครองคู่ครองเรือนกันอย่างราบรื่นและมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป แหวนทับทิมเม็ดนี้ติดตัวย่ามาตั้งแต่ย่ายังเป็นสาวย่าให้แพรว" ย่าดวงแขพูดอบรมหลานแล้วให้แหวนทับทิมเม็ดงามเป็นของขวัญแต่งงานแก่หลานสาวของตน "ขอบคุณ คุณปู่คุณย่าที่อบรมสอนสั่งและอวยพรให้เราสองคนนะคะ" แพรวพรรณและอชิระวัตรก้มลงกราบปู่และย่าของตัวเองแล้วหันไปรับพรต่อจากพ่อ "สำหรับพ่อ แพรวเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว เป็นแก้วตาเป็นดวงใจเป็นทุกสิ่งในชีวิตของพ่อ พ่ออยากเก็บแพรวไว้ดูงามแนบกายพ่อตลอดไป แต่พ่อก็เลี้ยงดูลูกมาให้เติบใหญ่ได้แค่ตัวเท่านั้น เมื่อใจของลูกมีรักพ่อก็ต้องปล่อยลูกไปดังหัวใจลูกต้องการ แต่แพรวจำเอาไว้นะลูกไม่ว่าลูกจะสุขหรือทุกข์ขอให้นึกถึงพ่อแม่ ลูกสุขพ่อแม่จะสุขด้วย แต่ถ้าวันใดที่ลูกทุกข์พ่อกับแม่รอกอดลูกอยู่ตรงนี้เสมอ เรื่องของแพรวกับบาสพ่อเคยสอบถามแล้ว ลูกบอกลูกรักกันและได้พิสูจน์ความรักให้พ่อเห็นแล้ว สำเร็จในการเรียนการงานแล้วพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร จำไว้นะบาสแพรวเป็นดวงใจของพ่อ พ่อฝากแพรวไว้กับบาสแล้วนะ วันข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ลูกทั้งสองคนระลึกนึกถึงวันนี้ วันที่กว่าจะได้แต่งงานกัน แล้วลูกสองคนจะมีพลังลุกขึ้นมาฝ่าฟันกับอุปสรรคทั้งหลาย" นายวิชัยพูดให้พรและฝากฝังลูกสาวเพียงคนเดียวไว้กับอชิระวัตร คำพูดของพ่อทำให้แพรวพรรณถึงกับน้ำตาไหลแล้วเข้าไปกอดพ่อของตัวเองที่น้ำตาไหลเพราะความใจหายด้วยเหมือนกัน นักเลงใหญ่คนหนึ่งที่หวงลูกสาวคนเดียวราวกับไข่ในหิน ต้องมานั่งส่งตัวลูกสาวเข้าหอในวันนี้ใจหายจนน้ำตาร่วงช่างเป็นภาพที่น่าสงสารและน่าจดจำไว้ยิ่งนัก "พ่อขา แพรวรักพ่อ รักพ่อมากที่สุดแต่ขอให้แพรวได้รักพี่บาสด้วยนะคะ แพรวขอบคุณที่พ่อเข้าใจและให้โอกาสพี่บาส แพรวไม่รู้ว่าวันนี้แพรวตัดสินใจถูกต้องมั้ยแต่แพรวก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว แพรวจะทำชีวิตครอบครัวต่อจากนี้ให้ดีที่สุดเหมือนที่พ่อสอนนะคะ" แพรวพรรณโผเข้าไปกอดพ่อเอาไว้ นายวิชัยเองก็กอดลูกสาวไว้แน่น "ผมขอบคุณพ่อครับ ที่ให้โอกาสผมได้ดูแลแพรว ผมรู้ว่าพ่อรักแพรวมากแค่ไหนและรู้สำนึกด้วยว่าผมไม่คู่ควรกับแพรวเลย ทั้งฐานะ ความมีชื่อเสียงเงินทองผมมีสู้คนอื่นเขาไม่ได้สักอย่าง แต่ผมมีหัวใจรักแพรว วันนี้ผมอาจจะยังไม่มีเท่ากับใครเขา แต่ด้วยสองมือสองแขนสองขาและหนึ่งมันสมองของผม ผมสัญญาผมจะทำให้แพรวมีความสุขที่สุดครับ" อชิระวัตรก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ของแพรวพรรณพูดสัญญาออกจากหัวใจของผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมากเช่นกัน หลังจากนั้นแม่ของแพรวพรรณก็พูดให้พรลูกต่อ "แพรว แม่ขอให้แพรวกับพ่อบาสมีความสุขมากๆ แพรวของแม่แต่งงานแล้ว การแต่งงานไม่ใช่การใช้ชีวิตกันแค่สองคนนะลูก แต่แพรวได้แต่งงานกับบ้านของบาสรวมถึงญาติพี่น้องของบาสเขาด้วย แพรวจำไว้นะลูกสติปัญญาและความอดทนอดกลั้นแพรวต้องพึงมี แม่เชื่อว่าแพรวของแม่เป็นคนดีเป็นคนเก่ง แพรวจะสามารถนำพาชีวิตของลูกไปสู่สิ่งที่ดีงามได้ อันนี้เป็นของขวัญจากพ่อกับแม่ให้ลูกเอาไว้เป็นทุนชีวีตนะ เป็นโฉนดที่ดินติดถนนจำนวน 20ไร่ พ่อเขายกให้แพรวส่วนของแม่ แม่ซื้อทองเก็บไว้ตั้งแต่สาวๆ และมีเงินเก็บในบัญชีอีกห้าแสนแม่ยกให้แพรวไปใช้ตั้งตัวสร้างครอบครัว ลูกจะเอาไปขายหรือเก็บไว้ให้ลูกของลูกก็ตามแต่แพรวจะพิจารณาเอาเองนะลูก" แม่ของแพรวพรรณพูดให้พรอบรมสอนสั่งเสียยืดยาวพร้อมทั้งให้ของขวัญถุงกับลูกซึ่งประกอบไปด้วยที่ดิน ทองคำและเงินสดในบัญชี "แม่ขา แพรวขอบคุณในความรักและความเมตตาที่แม่กับพ่อมีให้แพรว แพรวจะใช้ของขวัญถุงที่แม่มอบให้ทำให้แพรวเจริญงอกงามขึ้น รอวันที่แพรวจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านใบให้แม่กับพ่อได้พักพิงอาศัยยามที่พ่อกับแม่แก่เฒ่าชราลงไปนะคะ" แพรวพรรณก้มลงกราบแม่กับพ่อด้วยความซาบซึ้งใจ เมื่อญาติฝั่งเจ้าสาวพูดอวยพรเสร็จก็ถึงคราวฝั่งเจ้าบ่าวบ้าง วันนี้ญาติฝั่งเจ้าบ่าวมาทำพิธีส่งตัวแค่สองคนคือพ่อกับแม่เจ้าบ่าวเท่านั้น "พ่อขอให้บาสมีความสุขกับสิ่งที่บาสเลือกแล้วนะลูก มีหลานให้พ่อไวๆ นะ ส่งมาให้พ่อเลี้ยงให้ พ่อกับแม่จะเลี้ยงให้ดีเหมือนที่เลี้ยงบาสมาเลยนะลูก" นายมาโนชพูดกับลูกชาย "ส่งมาให้เลี้ยงก็อย่าลืมค่าเลี้ยงดูนะลูกบาส พ่อกับแม่แก่แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงลูกให้บาสอีก แต่งงานแล้วแม่ขอให้ลูกมีความรับผิดชอบ เก็บออมสร้างครอบครัว ถึงจะมีครอบครัวแล้วก็อย่าทิ้งพ่อทิ้งแม่อย่าลืมคืนวันที่พ่อแม่ลำบากเลี้ยงดูบาสมานะลูก แม่ขอให้บาสกับหนูแพรวมีความสุข แม่กับพ่อไม่มีอะไรจะให้เหมือนที่บ้านหนูแพรวให้หรอกนะลูก เงินทองแม่ก็ไม่มี มีแต่คำอวยพรให้ลูกเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ในส่วนของเงินทองบาสหามาเป็นสินสอดแล้วนะลูกหนูแพรว หนูก็ขอพ่อกับแม่หนูคืนมาตั้งตัวสร้างครอบครัวกับบาสก็แล้วกัน" นางมาลีแม่ขออชิระวัตรพูดให้พร และเท้าความไปถึงเรื่องสินสอดที่ให้ย่าดวงแขเก็บไว้ครบสามวันด้วย เมื่อพ่อแม่อชิระวัตรพูดจบ แพรวพรรณกับอชิระวัตรก็ก้มลงกราบ ท่าทีของแพรวพรรณกับอชิระวัตรตอนนี้แบกรับแบกสู้กับสิ่งที่แม่ของอชิระวัตรพูดถึงเรื่องสินสอดเป็นอย่างมาก "เงินแค่นี้ล้านเดียว คิดว่าพ่อแม่ฉันจะเก็บไว้เหรอ เศษเงิน คิดได้แค่นี้เองเหรอวะ" แพรวพรรณคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา "พ่อแม่เราเทียบไม่ได้กับบ้านแพรวเขาเลย เราเป็นคนกลางต้องปรับตัว ปรับใจ ยากลำบากแล้ว ไม่รู้ว่าทางบ้านแพรวเขาจะมองว่าพ่อแม่เราว่าเป็นคนอย่างไรกัน" อชิระวัตรคิดในใจสงสารทั้งตัวเองและเป็นห่วงความรู้สึกของแพรวพรรณด้วย ได้แต่เอามือไปจับมือเรียวสวยของแพรวพรรณเอาไว้เพื่อเป็นการให้กำลังใจกันและกัน "เรื่องเงินสินสอดหนึ่งล้านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางผมได้เอามาเก็บไว้แล้ว ฝากย่าของยายแพรวเขาไว้ครบสามคืนแล้วเพื่อเป็นสิริมงคลเท่านั้น ผมได้เอาไปฝากธนาคารแล้ว ส่วนเครื่องทองกับเครื่องเพชรจะคืนให้ยายแพรวเขาใส่ไปทำงานทำการเป็นหน้าตาเป็นตาให้เขา เงินนั่นผมจะคืนให้ลูกและมอบให้ลูกเพิ่มอีกหนึ่งล้านเป็นเงินก้อนตั้งตัวสร้างชีวิต ยายแพรวยังอยู่คอนโดเช่า กลับไปคราวนี้มีครอบครัวแล้วงานการมั่นคงควรมีบ้านเป็นของตัวเอง พ่อบาสเองก็การงานมั่นคงมีหน้ามีตาควรมีรถดีๆ ขับ รถซื้อเงินสดแล้วกัน ส่วนบ้านก็ช่วยกันผ่อนเอาเงินสินสอดนี่แหละไปวางดาวน์ พ่อคิดเอาไว้ให้แล้ว กลับไปจัดการทุกอย่างให้ลงตัว ไปดูบ้านดูรถ สักพักแล้วพ่อจะขึ้นไปกรุงเทพไปจัดการเรื่องบ้านให้" นายวิชัยพูดขึ้นอย่างคนใหญ่ใจนักเลง "ให้สินสอดลูกข้าหนึ่งล้าน ข้าก็ให้เพิ่มไปหนึ่งล้านให้ลูกสาวคนเดียว ให้มันรู้ไปแต่งเข้าบ้านนี้ไม่เสียเปรียบหรอกมีแต่ได้กับได้ แต่ช่วยทำตัวให้มันดีๆ ก็เท่านั้น" นายวิชัยคิดในใจไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดออกมาแต่มองหน้าพ่อแม่ของอชิระวัตรแบบยิ้มมุมปากน้อยๆ ทำให้พ่อแม่ของอชิระวัตรหน้าม่านไปเล็กน้อยเหมือนกันด้วยความอาย เมื่อพูดอวยพร ทำพิธีเรียงสาดเรียงหมอนเสร็จญาติฝั่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้พากันออกจากห้องหอ ปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่กันตามลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD